จีนเมินทรัมป์กดดันห้ามซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ย้ำคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

5 ส.ค. 2568 - 07:25

  • กระทรวงการต่างประเทศจีนย้ำ จัดหาพลังงานในรูปแบบที่เอื้อประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของชาติเสมอ

  • จีนเป็นลูกค้าน้ำมันดิบรายสำคัญของรัสเซีย เป็นรองเพียงอินเดียเท่านั้น

จีนเมินทรัมป์กดดันห้ามซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ย้ำคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

กระทรวงการต่างประเทศจีนโพสต์กรณีสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้จีนซื้อน้ำมันจากรัสเซียผ่าน X ว่า “จีนจะจัดหาพลังงานในรูปแบบที่เอื้อประโยชน์ต่อผลประโยชน์ของชาติของเราเสมอ การบีบบังคับและกดดันจะไม่เกิดผลใดๆ จีนจะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของตัวเองอย่างมั่นคง”

การตอบสนองจากจีนน่าสนใจมาก เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างส่งสัญญาณเชิงบวกและความปรารถนาดีต่อการบรรลุข้อตกลงเพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกให้มั่นคง สิ่งนี้เน้นย้ำถึงความมั่นใจของจีนในการเล่นแบบแข็งกร้าวเมื่อต้องจัดการกับรัฐบาลทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการค้ามีความเชื่อมโยงกับพลังงานและนโยบายต่างประเทศ

ขณะที่ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เผยกับผู้สื่อข่าวหลังการเจรจาการค้ากับตัวแทนจากจีนว่า เมื่อเป็นเรื่องการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย “จีนถือว่าอำนาจอธิปไตยของตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก...เราไม่อยากขัดขวางอำนาจอธิปไตยของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการจ่ายภาษี 100%”

บรรดานักวิเคราะห์ต่างแสดงมุมมองถึงท่าทีของทรัมป์ในครั้งนี้ อาทิ ตู๋ซินเฉียน จาก University of International Business and Economics ในกรุงปักกิ่งเผยว่า “หากสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะกำหนดภาษี จีนจะต่อสู้จนถึงที่สุด และนี่คือจุดยืนอย่างเป็นทางการของจีนเสมอมา

สกอตต์ เคนเนดี ที่ปรึกษาอาวุโสของ Center for Strategic and International Studies ในกรุงวอชิงตันดี.ซี.มองว่า จีนไม่น่าจะเปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นความไม่สอดคล้องกันในเป้าหมายนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัสเซียและอิหร่าน ขณะที่นโยบายของจีนที่สนับสนุนมอสโกนั้นมีความสอดคล้องและชัดเจน

แดนนี รัสเซล นักวิจัยอาวุโสจาก Asia Society Policy Institute กล่าวว่า จีนมองว่าตนเองเป็น “ผู้กุมไพ่ในการต่อสู้กับวอชิงตัน” และว่า ทรัมป์ได้แสดงอย่างชัดเจนว่าต้องการ “ข้อตกลงที่จะเป็นข่าวใหญ่” กับสีจิ้นผิง “ดังนั้น การปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้หยุดซื้อน้ำมันจากอิหร่านหรือรัสเซียจึงอาจไม่ถือเป็นการทำลายข้อตกลง แม้ว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งและความล่าช้าก็ตาม”

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบัน KSE ซึ่งเป็นศูนย์วิเคราะห์ของโรงเรียนศรษฐศาสตร์เคียฟ จีนเป็นลูกค้ารายสำคัญของรัสเซีย แต่เป็นรองอินเดียในด้านการซื้อน้ำมันดิบที่ขนส่งจากรัสเซียทางทะเล ในเดือนเมษายนจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยขยับมาอยู่ที่มากกว่า 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

Photo by Odd ANDERSEN / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์