ชาร์ลี เคิร์ก ผู้ก่อตั้ง ‘Turning Point USA’ องค์กรนักเคลื่อนไหวเยาวชนอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกยิงที่คอ 1 นัดเสียชีวิตในงานที่มหาวิทยาลัยยูทาห์แวลลีย์ รัฐยูทาห์ เมื่อวันพุธ (10 ก.ย.)
“ชาร์ลี เคิร์ก ผู้ยิ่งใหญ่และผู้เป็นตำนาน ได้เสียชีวิตแล้ว ไม่มีใครเข้าใจ หรือมีหัวใจของคนรุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาดีไปกว่าชาร์ลี เขาเป็นที่รักและเป็นที่ชื่นชมของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผม และตอนนี้เขาจากไปแล้ว ผมและเมลาเนียขอแสดงความเสียใจกับเอริกา ภรรยาคนสวยของเขา และครอบครัว พวกเรารักคุณ ชาร์ลี!”
— ทรัมป์ โพสต์บน Truth Social
สเปนเซอร์ ค็อกซ์ ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ เรียกเหตุการณ์ยิงสังหารครั้งนี้ว่าเป็น “การลอบสังหารทางการเมือง”
แคช พาเทล ผู้อำนวยการ FBI โพสต์บน X ว่า “ผู้ต้องสงสัยที่เคยถูกควบคุมตัวในคดียิง ชาร์ลี เคิร์ก ได้รับการปล่อยตัวแล้วหลังจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย...การสืบสวนของเรายังคงดำเนินต่อไป และเราจะเปิดเผยข้อมูลต่อไปเพื่อความโปร่งใส”
โพสต์บน X ของพาเทลต่างสร้างความสับสนให้กับเจ้าหน้าที่ว่า ‘ใครเป็นผู้ถูกจับกุม’ เนื่องจากก่อนหน้านี้ พาเทล และค็อกซ์ ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ ต่างก็กล่าวว่า“ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งถูกควบคุมตัวแล้ว”แม้ว่า โบ เมสัน กรรมาธิการกรมความปลอดภัยสาธารณะแห่งรัฐยูทาห์จะกล่าวว่า “ผู้ต้องสงสัยยังคงหลบหนีอยู่”
เมสัน เรียกเหตุการณ์ยิงครั้งนี้ว่าเป็น “การโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย” และกล่าวว่า “สถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่มาก” เขาบอกอีกว่า ข้อมูลเดียวที่พวกเขามีเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุยิงปืนนั้นมาจากกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัย และบุคคลดังกล่าวสวมเสื้อผ้าสีเข้มทั้งหมด การยิงปืนดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยจาก ‘ระยะไกล’ ซึ่งอาจมาจากหลังคา
ทางมหาวิทยาลัยระบุว่า “มีการยิงปืนนัดเดียวที่วิทยาเขตโอเรมของมหาวิทยาลัยยูทาห์แวลลีย์ มุ่งเป้าไปที่เคิร์ก วิทยากรรับเชิญ หลังเที่ยงวันไม่นาน เขาถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยิงและนำตัวออกจากสถานที่ เราขอให้ทุกคนร่วมไว้อาลัยแด่ครอบครัวชาร์ลี”
โรเบิร์ต โบห์ลส์ เจ้าหน้าที่พิเศษ FBI ประจำซอลต์เลกซิตี กล่าวว่า “การสืบสวนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เรากำลังติดตามเบาะแสและหลักฐานทั้งหมด”
(Photo by JOSH EDELSON / AFP)