นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียเผยถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไประหว่างไทยกับกัมพูชาที่จัดขึ้นที่มาเลเซียว่า “เราหวังว่าข้อตกลงหลายประเด็น ซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกโดยมาเลเซีย จะสามารถหาข้อยุติได้ภายในวันที่ 7 สิงหาคม เราภาวนาให้เกิดฉันทามติและข้อยุติขั้นสุดท้าย เพราะเรื่องนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของอาเซียนด้วย”
“ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้ไขโดยฉันทามติ และผมขอขอบคุณทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาที่แสดงทัศนคติที่เป็นบวกในการหาทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน”
เมื่อถูกถามถึงการจัดตั้งทีมสังเกตการณ์ อันวาร์เผยว่า มาเลเซียยินดีประสานงานการจัดตั้งทีมผู้สังเกตการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากทั้งสองประเทศร้องขอ
“ขณะนี้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว แม้จะยังตึงเครียดและอ่อนไหวอยู่”
อันวาร์เผยอีกว่า “ส่วนเรื่องที่ว่าจำเป็นต้องส่งกองกำลังภาคพื้นดินลงพื้นที่สังเกตการณ์หรือไม่ จะมีการตัดสินใจภายหลัง...ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อมีการสังหารและยิงกันเกิดขึ้น ต้องใช้เวลาในการลดความตึงเครียด”
“จนถึงตอนนี้เรามีดาวเทียมสังเกตการณ์อยู่ และทั้งสองฝ่ายตกลงว่าผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียและผู้ช่วยทูตทหารจากอาเซียนจะประสาานงานการตรวจตราทางไกล” อันวาร์เผย
ผู้นำมาเลเซียยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะจัดตั้งกรอบความมั่นคงระดับภูมิภาคอย่างเป็นทางการภายใต้กลไกเช่น เวทีระดับภูมิภาคอาเซียน หรือโครงการริเริ่มด้านความมั่นคงอื่นๆ
เมื่อถูกถามว่ามาเลเซียจะยังทำหน้าที่เจ้าภาพการประชุม GBC ต่อไปหรือไม่หลังจากตำแหน่งประธานอาเซียนสิ้นสุดลงในปีหน้า อันวาร์ยืนยันว่า มาเลเซียได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยจนกว่าข้อพิพาทจะได้รับการแก้ไข
อันวาร์ยังย้ำว่า มาเลเซียกำลังดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าการเจรจายังคงอยู่ภายใต้กรอบของอาเซียนและไม่ได้รับอิทธิพลจากมหาอำนาจโลก
ด้วยวิธีนี้ เราจะหลีกเลี่ยงการมีส่วนร่วมของมหาอำนาจ การรักษาสันติภาพที่ชายแดนควรจำกัดเฉพาะประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์จากสหรัฐฯ หรือจีนเป็นสิ่งที่น่ายินดี
Photo by YASUYOSHI CHIBA / AFP
