สื่อนอกตีข่าว ‘แพทองธาร’ นายกฯ คนที่ 5 ในรอบ 17 ปีที่ถูกศาลสั่งพ้นตำแหน่ง

29 ส.ค. 2568 - 13:26

  • สื่อนอกตีข่าว ‘แพทองธาร ชินวัตร’ กลายเป็นนายกฯ คนที่ 5 ในรอบ 17 ปีที่ถูกศาลสั่ง 'พ้นตำแหน่ง' ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมืองอีกครั้ง

  • คำตัดสินดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปที่หยุดชะงัก และภาวะเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 2.3% ในปีนี้

  • สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า “ศาลไทยปลดนายกฯ แพทองธาร ตระกูลชินวัตรหมดทางเลือก...คำตัดสิน ‘ปลด’ แพทองธารจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตทางการเมือง...”

สื่อนอกตีข่าว ‘แพทองธาร’ นายกฯ คนที่ 5 ในรอบ 17 ปีที่ถูกศาลสั่งพ้นตำแหน่ง

นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ไม่ได้ไปต่อ!...ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ ‘พ้นจาก’ ตำแหน่งนายกฯ ในวันศุกร์ (29 ส.ค.) ที่ผ่านมา เนื่องจาก ‘ละเมิดหลักจริยธรรม’ หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียง 10 เดือน นับถือเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตระกูลชินวัตร และอาจนำไปสู่ช่วงเวลาของความปั่นป่วนครั้งใหม่  

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ‘แพทองธาร’ นายกฯ คนที่ 31 และอายุน้อยที่สุดของไทย กลายเป็นนายกฯ คนที่ 6 ที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชินวัตร ซึ่งถูกกองทัพ หรือตุลาการ ปลดออกจากตำแหน่ง ในช่วงเวลา 2 ทศวรรษแห่งการต่อสู้ทางการเมืองอันวุ่นวายระหว่างชนชั้นนำที่ขัดแย้งกันในประเทศ 

ในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า “แพทองธาร ‘ละเมิดหลักจริยธรรม’ ปมคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับ ฮุน เซน รั่วไหลออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งในคลิปแสดงให้เห็นว่า แพทองธารดูเหมือนจะแสดงความอ่อนน้อมต่อ ฮุน เซน จากคำพูดที่เรียกแทนตัวเขาว่า ‘ลุง’ ท่ามกลางความขัดแย้งทางชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ ที่สุดท้ายแล้วนำไปสู่เหตุการณ์ปะทะในวันที่ 24 ก.ค.ตามด้วยการหยุดยิงในวันที่ 28 ก.ค.”  

ศาลตัดสินด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3 โดยให้เหตุผลว่า “แพทองธารเอาผลประโยชน์ส่วนตัวของตัวเองมาก่อนผลประโยชน์ของประเทศชาติ และทำลายชื่อเสียงของประเทศ ส่งผลให้ประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น...นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดูสนิทสนมกับ ฮุน เซน จากในคลิปเสียงจึงแสดงให้เห็นว่า แพทองธารยินยอมปฏิบัติตาม หรือดำเนินการใดๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของฝั่งกัมพูชา” 

คำตัดสินนี้ได้ปูทางให้รัฐสภาเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจยืดเยื้อออกไป โดยพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของแพทองธารกำลังสูญเสียอำนาจต่อรองและเผชิญกับความท้าทายในการเสริมสร้างพันธมิตรที่เปราะบางด้วยเสียงข้างมากที่น้อยนิด 

ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยรออยู่ข้างหน้า... 

   (Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP)
(Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP)

Reuters รายงานว่าแพทองธารกลายเป็นเป็นนายกฯ คนที่ 5 ในรอบ 17 ปีที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่ง ซึ่งตอกย้ำบทบาทสำคัญของนายกฯ ในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่ยากจะแก้ไขได้ระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของตระกูลชินวัตร กับกลุ่มผู้นำอนุรักษนิยมผู้ทรงอิทธิพลและฝ่ายทหารที่มีอิทธิพลกว้างขวาง 

และคำถามที่ตามมาต่อไปก็คือ ‘ใครจะมาแทนแพทองธารล่ะ’ แน่นอนว่าในตอนนี้ ทักษิณจะยังคงเป็นศูนย์กลางของการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองและกลุ่มเจ้าพ่ออำนาจต่างๆ เพื่อพยายามรักษาพรรคเพื่อไทยให้ครองอำนาจต่อไป 

ในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายนี้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันจะทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งนายกฯ คนใหม่โดยสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่มีกรอบเวลาที่กำหนดว่าจะต้องทำให้เสร็จเมื่อใด 

สำหรับรายชื่อผู้มีสิทธิ์ที่จะได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ มีอยู่ 5 คนได้แก่ : 

  • ชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุดวัย 77 ปี ตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจากพรรคเพื่อไทยที่บทบาททางการเมืองไม่โดดเด่นมากนัก 
  • พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ คนที่ 29 วัย 71 ปีซึ่งครองอำนาจในรัฐบาล 9 ปีตั้งแต่รัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยปี 2014 
  • อนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯ วัย 58 ปีที่เพิ่งลาออกจากรัฐบาลแพทองธารปมคลิปเสียงฮุน เซน 
  • พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานวัย 66 ปีในรัฐบาลแพทองธาร 
  • จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์วัย 69 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลผสมระหว่างปี 2019-2023 ในสมัยพลเอกประยุทธ์  

คำตัดสินดังกล่าวทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปที่หยุดชะงัก และภาวะเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 2.3% ในปีนี้ 

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทุกชุดจะเป็นรัฐบาลผสมที่น่าจะได้เสียงข้างมากเพียงเล็กน้อย และอาจเผชิญกับความท้าทายจากฝ่ายค้านที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างล้นหลาม ซึ่งกำลังผลักดันให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด 

“การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่...จะเป็นเรื่องยากและอาจต้องใช้เวลาพอสมควร ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกพรรคจะร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พรรคเพื่อไทยจะเสียเปรียบ”

อาจารย์ ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว   

ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า กลุ่มอำนาจหลักยังคงสนับสนุนพรรคที่ได้รับการสนับสนุนจากทักษิณ เพราะพรรคนี้จะทำหน้าที่เหมือนแนวป้องกันไม่ให้พรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคประชาชนเข้ามาแทรกแซงได้ เนื่องจากพรรคประชาชนถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อกลุ่มอำนาจในประเทศไทยด้วยนโยบายปฏิรูปและคะแนนนิยมที่สูง” 

สื่อต่างชาติต่างรายงานถึงความเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยอีกครั้ง... 

   (Photo by Isaac LAWRENCE and Manan VATSYAYANA / AFP)
(Photo by Isaac LAWRENCE and Manan VATSYAYANA / AFP)

CNA “ชินวัตรถูกโค่นล้มอีกราย ศาลสั่งยุบพรรค “แพทองธาร” พ้นตำแหน่งนายกฯ” 

จากรายงานข่าวระบุว่า “แพทองธารซึ่งเป็นมือใหม่ทางการเมืองและไม่มีประสบการณ์ในการบริหารราชการ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ต่อจาก เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน”   

BBC รายงานว่า “แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 5 ที่ถูกศาลตัดสิน ‘ปลด’ ออกจากตำแหน่ง...เรื่องนี้ทำให้เกิดความเชื่ออย่างกว้างขวางในประเทศไทยว่า รัฐบาลมักจะตัดสินลงโทษผู้ที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามจากกลุ่มอนุรักษนิยมและกษัตริย์นิยม” 

CNN “นายกฯ ไทยถูกปลดจากตำแหน่ง หลังมีข่าวฉาวคลิปสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาหลุด” 

รายงานข่าวระบุว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันศุกร์ (29 ส.ค.) ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในวงการเมืองไทย โดยผู้ที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงมักกระทำสิ่งที่ขัดต่อสถาบัน ซึ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ทรงอำนาจ เช่น ชนชั้นสูงในกองทัพ ฝ่ายกษัตริย์นิยม และกลุ่มธุรกิจใหญ่” 

แพทองธารเป็นคนล่าสุดในตระกูลชินวัตรที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งนายกฯ แม้พรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรกับทักษิณได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหลายครั้ง แต่ก็ประสบปัญหาในการรักษาอำนาจเอาไว้” 

South China Morning Post “ศาลไทยปลดนายกฯ แพทองธาร ตระกูลชินวัตรหมดทางเลือก” 

SCMP รายงานว่า “คำตัดสิน ‘ปลด’ แพทองธารจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตทางการเมือง แถมยังไม่มีแคนดิเดตที่ชัดเจนที่จะเป็นผู้นำรัฐบาลผสมที่เปราะบางในรัฐสภาได้” 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์