‘หลังสาม’ มันดีได้ไหม? แผนในอุดมคติ อโมริม กับ แมนยูฯ ที่ยังไงเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน

16 ก.ย. 2568 - 06:48

  • ถ้าให้พูดถึงหนึ่งในประเด็นสำคัญที่กำลังเป็นที่พูดถึงของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นฟอร์มการเล่นของทัพ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับแผนกองหลัง 3 คนของ รูเบน อโมริม

‘หลังสาม’ มันดีได้ไหม? แผนในอุดมคติ อโมริม กับ แมนยูฯ ที่ยังไงเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน

ถ้าให้พูดถึงหนึ่งในประเด็นสำคัญที่กำลังเป็นที่พูดถึงของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลปัจจุบันตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นฟอร์มการเล่นของทัพ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดซึ่งล่าสุดเพิ่งบุกแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้แบบหมดรูปสู้ไม่ได้ 3-0 และเฮดโค้ช รูเบน อโมริม ก็ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแนวทางของตัวเองอย่างแน่นอน โดยแนวทางของเขาก็คือแผนการเล่นกองหลัง 3 คนที่เป็นปัญหาในฟอร์มการเล่นของทีมมาตลอด วันนี้เราเลยจะมาเทียบให้ดูว่าแผนการเล่นนี้มันดีได้ไหมเปรียบเทียบกับแผนการเล่นคล้ายๆ กันของ อันโตนิโอ คอนเต้ ยุคที่พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2016/17 จะเป็นอย่างไร ไปดูกันครับ 

Three-defenders-tactic-of-Conte-and-Amorim-SPACEBAR-Photo02-1.jpg

ตัวผู้เล่นที่ ‘เหมาะสม’ สำคัญที่สุด 

คีย์หลักและคีย์เดียวของความแตกต่างระหว่างแทคติกของ รูเบน อโมริม และ อันโตนิโอ คอนเต้ ก็คือ ‘ตัวผู้เล่น’ ซึ่งเราจะมาเทียบให้เห็นภาพกันแบบตำแหน่งต่อตำแหน่ง 

เริ่มตั้งแต่ผู้รักษาประตูที่นอกจากจะต้องป้องกันประตูเก่งแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างของนายด่านในแผนการเล่นนี้คือต้องมีทักษะการเล่นด้วยเท้าที่ดี เล่นบอลในแนวหลังได้ และสามารถออกบอลอย่างแม่นยำไปที่กองหน้าตัวเป้าหรือสามคนในแดนหน้าได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยฝั่งเชลซีตอนนั้นมี ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ที่เรื่องการป้องกันประตูไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นหนึ่งในตัวท็อปอยู่แล้ว ส่วนการออกบอลด้วยเท้าเขาก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ตัดภาพมาที่ฝั่งยูไนเต็ดก่อนหน้านี้เป็น อ็องเดร โอนาน่า เราแทบไม่เห็นว่าเขาทำทั้งสองหน้าที่นี้ได้เลย การเซฟประตูพลาดง่ายๆ ให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในขณะที่การเล่นด้วยเท้าที่เคยเป็นจุดเด่นของเขาตอนอยู่กับอินเตอร์ มิลานแฟนบอลแทบไม่ได้เห็นเขาทำได้ดีกับยูไนเต็ดเลย 

ต่อกันที่ตำแหน่งกองหลังตัวกลางที่ต้องมีจุดเด่นในเรื่องของการออกบอลแนวลึก ครองบอลได้ดี และเข้าใจตำแหน่งทั้งตอนครองบอลและไม่ได้ครองบอล ที่สำคัญคือควรเป็นตัว ‘ลิเบโร่’ ที่ไม่ต้องมาคอยประกบตัวมากกว่า โดยตอนนั้นเชลซีมี ดาวิด ลุยซ์ รับหน้าที่ตรงนี้ซึ่งเขาทำได้ตามนั้นทุกอย่าง เป็นตัวออกบอลที่ดีและแม่นยำ มีความเร็ว สามารถขึ้นเกมได้ด้วยตัวเอง และการที่เขาเป็นคนเข้าบอลไม่ค่อยละเอียดเขาก็ไม่ต้องมาห่วงหน้าที่ตรงนี้มากนัก ในขณะที่ฝั่งแมนฯ ยู ตอนนี้เป็น เดอ ลิกต์ ที่เราแทบไม่เห็นการออกบอลแนวลึกสวยๆ เลย นอกจากนี้สปีดของเขาก็ไม่ได้เร็วอะไร พอเล่นไม่ละเอียดทุกอย่างก็ผิดพลาดได้ง่ายๆ  

อีกหนึ่งตำแหน่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือวิงแบ็คที่ต้องมีพลังล้นเหลือสามารถวิ่งขึ้นสุดลงสุดได้ตลอดทั้ง 90 นาที และต้องเคลื่อนที่ได้ดีเพื่อสนับสนุนทั้งเกมรุกและรับ โดยแผนของอันโตนิโอ คอนเต้ สามารถทำให้แบ็คที่ดูธรรมดาๆ อย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ และ วิคเตอร์ โมเซส กลายเป็นแบ็คระดับท็อปของลีกได้อย่างสบายๆ เราได้เห็นอลอนโซ่สอดเข้าไปทำประตูได้บ่อยๆ หรือโมเซสที่เติมจนสุดเส้นและจ่ายบอลอันตรายเข้ากลางได้เสมอ ในขณะที่ฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด แพทริก ดอร์กู กับ ดิโอโก้ ดาโลต์ ทำไม่ได้แบบนี้ รายหลังยังพอมีการเปิดบอลสวยๆ ให้เห็นแต่กับดอร์กูนี่แทบเทียบไม่ติดเลยเพราะเขาเปิดบอลแต่ละครั้งแทบหวังผลไม่ได้แถมการเคลื่อนที่ทั้งรุกและรับก็ยังทำได้ไม่ดีอีกต่างหาก 

ขยับมาที่แผงกองกลางกันบ้าง กองกลางในแผนการเล่นนี้คือตัวรับ ด้านเชลซีมีสองกองกลางที่ลงตัวสุดๆ อย่าง เนมานย่า มาติช และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ โดยรายหลังสถาปนาตัวเองจากแทคติกนี้จนกลายเป็นกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกเวลานั้น ทั้งคู่มีเทคนิคที่ดี คุมเกมได้อยู่หมัด แม้ว่ามาติชจะไม่ได้เป็นคนที่มีความเร็วแต่เขาก็คุมเกมได้ดี จ่ายบอลได้ยอดเยี่ยม อุดรอยรั่วเวลากองหลังตัวนอกเติมเกมได้ และยังทำให้ ก็องเต้ สามารถวิ่งขึ้นวิ่งลงได้ตลอดเวลาแบบไม่ต้องกังวลอะไร ทำให้ตอนนั้นพวกเขาเป็นคู่กลางที่เพอร์เฟคต์มาก ส่วนฝั่งปีศาจแดงใช้ คาเซมิโร่ หรือ มานูเอล อูการ์เต้ คู่กับ บรูโน่ แฟร์นันดส์ ซึ่งสำหรับกองกลางโปรตุกีสนี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาควรยืนเลย ไม่มีใครสงสัยเขาในเรื่องของเกมรุกแต่กับเกมรับเป็นสิ่งที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลย การจับเจ้าตัวมายืนตรงนี้แทบหาข้อดีไม่ได้ ในขณะที่คู่หูของเขาก็คุมเกมไม่ดีแถมความสามารถในการออกบอลก็ไม่เด่นเลยทำให้นี่เป็นอีกหนึ่งจุดบอดของทีม 

ปิดท้ายกันที่กองหน้าสามคน โดยเชลซีตอนนั้นมี ดิเอโก้ คอสต้า ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และ เอเด็น อาซาร์ กับ เปโดร โรดริเกซ เป็นปีกสองข้าง ในแผนของคอนเต้กองหน้าตัวเป้ามีหน้าที่หลักๆ คือเก็บบอลพักบอลให้ได้และจ่ายต่อให้ปีกสองฝั่งโดยปีกก็จะคอยวิ่งสอดเข้าด้านในในขณะที่วิงแบ็คเติมขึ้นมาตรงริมเส้น พวกเขาทำได้ดีและลงตัวสุดๆ ในขณะที่ยูไนเต็ดตอนนี้แม้จะซื้อแนวรุกตัวใหม่เข้ามาถึงสามคนแต่เราแทบไม่เห็นการประสานงานกันที่ดีและเข้าใจกันของ เบนยามิน เชชโก้, มาเธอุส คุนญ่า และ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ เลยด้วยซ้ำ 

Three-defenders-tactic-of-Conte-and-Amorim-SPACEBAR-Photo03-1.jpg

ถ้าไม่เปลี่ยนแผนอย่างน้อยก็ต้องเลือก ‘ตำแหน่ง’ ให้ถูก 

สุดท้ายถ้าเรายึดตามการสัมภาษณ์ของ รูเบน อโมริม ที่เขาบอกว่าจะไม่มีทางเปลี่ยนแนวทางการทำทีมของตัวเอง ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนโค้ชคือไล่เขาออกนั่นเอง ดังนั้นอย่างน้อยสิ่งสำคัญที่เขาต้องทำในเวลานี้คือการเลือกตำแหน่งนักเตะให้ถูก โดยเฉพาะ บรูโน่ แฟร์นันดส์ กัปตันทีมของพวกเขาที่ไม่ควรจะยืนกองกลางตัวรับอีกต่อไปเพราะแฟนบอลเห็นกันทั้งโลกแล้วว่าใช้ประโยชน์เขาไม่ได้จากตรงนี้ ถ้าในเร็ววันนี้อโมริมยังไม่เห็นและไม่เปลี่ยนแปลง ผลงานทีมยังไม่กระเตื้อง คำพูดที่เขาบอกว่าต้องเปลี่ยนโค้ชเท่านั้นคงจะเกิดขึ้นจริงในอีกไม่นานนี้แล้วครับ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์