ปี 2025 เป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ด้วยผลงานที่ขึ้นๆ ลงๆ ราวกับรถไฟเหาะ มีทั้งความสำเร็จและความผิดหวัง เริ่มจากการรอดตกชั้นจาก Volleyball Nations League 2025 แบบหวุดหวิดต่อด้วยการคว้าแชมป์ SEA V.League สนามแรกแต่กลับมาพลาดแชมป์ในสนามที่สอง
Volleyball Nations League 2025: การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
การแข่งขัน Volleyball Nations League 2025 กลายเป็นฝันร้ายของทัพลูกยางสาวไทยเมื่อทีมสามารถคว้าชัยชนะได้เพียงนัดเดียวจากการแข่งขันทั้งหมด 12 นัด ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากที่ต้องต่อสู้เพื่อหลีกเลี่ยงการตกชั้น และจากฟอร์มที่น่าผิดหวังนี้ทำให้ไทยจบในอันดับที่ 17 จาก 18 ทีม สุดท้ายรอดตกชั้นแบบหวุดหวิด
ความยากลำบากในศึก VNL สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่ทีมไทยเผชิญอยู่ในปัจจุบันโดยเฉพาะการแข่งขันกับทีมยุโรปที่มีความได้เปรียบทางด้านร่างกายและแทคติกที่เข้มข้นกว่า การพ่ายแพ้ต่อทีมอันดับต้นๆ อย่าง โปแลนด์, เบลเยียม, ตุรกี และ อิตาลี แสดงให้เห็นถึงช่องว่างที่ยังมีอยู่ระหว่างทีมชาติไทยกับทีมชาติชั้นนำของโลก
SEA V.League: ความสำเร็จและความผิดหวังแบบครึ่งๆ กลางๆ
หากมองในแง่ของการแข่งขันระดับภูมิภาคทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยยังคงแสดงความเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการคว้าแชมป์ในศึก SEA V.League สนามแรก ความสำเร็จนี้ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของปี 2025 ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของไทยในระดับภูมิภาค
การคว้าแชมป์ SEA V.League สนามแรกไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันสถานะของทีมไทยในฐานะทีมวอลเลย์บอลที่แข็งแกร่งในภูมิภาคแต่ยังได้ช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาและแฟนๆ ก่อนที่จะเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
แต่สุดท้ายก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อในสนามที่สองเราไม่สามารถตอกย้ำความสำเร็จจากสนามแรกได้เพราะพลาดคว้าแชมป์สนามนี้ นั่นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาด้านความสม่ำเสมอของทัพวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย และแสดงให้เห็นเช่นกันว่าชาติอื่นๆ ในภูมิภาคได้เริ่มขยับตามเรามาแล้วซึ่งเป็นปัญหาที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องเร่งแก้ไขด่วนก่อนเดินหน้าเข้าสู่ศึกชิงแชมป์โลก
การเตรียมตัวสู่ FIVB Women's World Championship 2025
ผลงานที่ขึ้นๆ ลงๆ ในปี 2025 กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยขณะที่กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน FIVB Women's World Championship 2025 หรือศึกชิงแชมป์โลกระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึง 7 กันยายน 2025 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันระดับโลกนี้
การเป็นเจ้าภาพศึกชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญของทีมชาติไทย แม้ว่าผลงานในปีนี้จะไม่โดดเด่นมากนักแต่การได้เล่นในบ้านตัวเองท่ามกลางกำลังใจจากแฟนวอลเลย์บอลอุ่นหนาฝาคั่งอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ทีมไทยสามารถกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
ปัจจุบันทีมชาติไทยอยู่ในอันดับที่ 21 ของโลกด้วยคะแนน 160.42 คะแนน และจะแข่งขันในกลุ่ม A ร่วมกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (อันดับ 8) ทีมชาติสวีเดน (อันดับ 26) และ ทีมชาติอียิปต์ (อันดับ 54) เป้าหมายหลักของไทยคือการผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายซึ่งแม้จะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
บทเรียนและมุมมองหลังจากนี้
ผลงานในปี 2025 ของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยสะท้อนถึงความเป็นจริงของกีฬาระดับสูงที่ต้องเผชิญทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว การรอดตกชั้นจาก VNL อย่างหวุดหวิดและการพลาดแชมป์ SEA V.League สนามที่สองแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาฟอร์มการเล่นให้สม่ำเสมอและความแข็งแกร่งทางจิตใจของทีม
การที่ทีมไทยยังสามารถคว้าชัยชนะในบางเกมสำคัญได้แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของทีมยังคงมีอยู่ สิ่งที่ต้องทำคือการนำศักยภาพนั้นออกมาใช้ให้ได้และต้องรักษาความสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขันชิงแชมป์โลกที่จะมีทั้งความกดดันและโอกาสมากมายในเวลาเดียวกัน
คำถามที่น่าสนใจคือทัพนักตบสาวไทยจะสามารถเปลี่ยนแผ่นดินไทยให้กลายเป็น 'พื้นที่เวทมนตร์' ที่ช่วยยกระดับการเล่นของพวกเธอให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้หรือไม่? ผลงานที่ไม่สม่ำเสมอในปีนี้อาจกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ช่วยให้ทีมเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองได้ดีขึ้น
