พรีเมียร์ลีก 2025/26 หลังจบสัปดาห์ที่สิบ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูลหยุดฟอร์มย่ำแย่ จบสถิติแพ้รวดไว้แค่ 4 นัดติดต่อกัน หลังเปิดบ้านทุบแอสตัน วิลล่า 2-0 ในขณะที่ ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ฟอร์มยังแกร่งเหมือนเดิม ลูกตั้งเตะยังทำงานบุกชนะเบิร์นลีย์ 2-0 รั้งจ่าฝูงต่อ

‘หงส์แดง’ ประเดิมชัยชนะแรกในรอบ 5 นัด
เริ่มกันที่ทีมที่ถูกจับตามองสุดๆ ในช่วงเวลานี้อย่าง ลิเวอร์พูล หลังพบเจอกับฟอร์มอันย่ำแย่มาตลอดในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ลงเล่น 7 นัดในทุกรายการ แต่คว้าชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียว ซึ่งในลีกพวกเขาลงเล่นไป 4 นัด แพ้รวดทั้งหมด แถมสองนัดในนั้นมีบุกแพ้เชลซี 2-1 และอีกนัดเป็นความปราชัยในศึก ‘แดงเดือด’ ต่อคู่แค้นตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-2
โดยในเกมสัปดาห์ที่ 10 พวกเขาได้เล่นในแอนฟิลด์เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ‘สิงห์ผงาด’ แอสตัน วิลล่า ที่ฟอร์มในลีกก็กำลังร้อนแรงชนะรวดมา 4 นัด ทำให้นัดนี้พวกเขาต้องเจอกับบททดสอบสำคัญ ถ้าหากชนะทีมที่กำลังฟอร์มดีก็น่าจะต่อยอดในการเรียกความมั่นใจให้กลับมาได้อีกครั้ง และพลพรรค ‘เครื่องจักรสีแดง’ ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เปิดบ้านชนะไปได้ 2-0 ซึ่งประตูแรกได้มาจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตูทีมเยือนอย่าง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่ออกบอลพลาด และเป็นโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมายิงด้วยขวาพาทีมขึ้นนำ ก่อนจะมาได้ประตูตอกย้ำชัยจากลูกยิงแฉลบของไรอัน กราเฟนแบร์ก คว้าชัยชนะได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 นัด เก็บเพิ่มเป็น 18 คะแนน พร้อมกลับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 บนตารางคะแนน

‘ปืน’ ฟอร์มยังแรงคว้าชัย 7 นัดติด
ในขณะที่ทีมจ่าฝูงเวลานี้อย่าง ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอลยังคงรักษาสถิติอันยอดเยี่ยมไว้ได้ต่อไป ด้วยการคว้าชัยชนะ 7 นัดติดต่อกันในลีก, 9 นัดติดในทุกรายการ และไม่แพ้ใครมาแล้ว 12 นัดติดต่อกัน โดยในเกมล่าสุดพวกเขาต้องออกไปเยือนน้องใหม่อย่างเบิร์นลีย์ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรบุกไปชนะสบายๆ 2-0
และแน่นอนว่าลูกทีเด็ดพิฆาตของพวกเขาอย่าง ‘ลูกตั้งเตะ’ ก็ยังคงใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะประตูขึ้นนำของพวกเขามาจากเตะมุมที่เดแคลน ไรซ์ เปิดมาเสาสองให้กาเบรียล มากัลเญส กระแทกบอลเข้ามาตรงกลางและเป็นวิคตอร์ เยอร์เคเรส โขกจ่อๆ เข้าไป ส่วนลูกที่สองเป็นทางเลอันโดร ทรอสซาร์ ที่เลี้ยงจี้มาจากฝั่งซ้าย ก่อนจะหยอดบอลเข้ามาตรงกลางให้เดแคลน ไรซ์ กัปตันทีมโหม่งเข้าไปไม่เหลือ ซึ่งรูปเกมโดยรวมก็เหนือกว่าตลอดทั้งเกม ก็คงต้องมารอดูกันว่าใครกันที่จะมาหยุดความร้อนแรงของพลพรรค ‘เดอะ กันเนอร์ส’ ในเวลานี้ได้


‘เรือ’ กับ ‘สิงห์’ ชนะทั้งคู่ ส่วน ‘ผี’ กลับมาสะดุดเสมอ
ปิดท้ายกันที่อีกสามทีมใหญ่เริ่มจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี ที่ต่างก็คว้าชัยทั้งคู่ โดยทางฝั่ง ‘เรือใบสีฟ้า’ เปิดบ้านชนะทีมฟอร์มแกร่งอย่างบอร์นมัธได้ 3-1 ซึ่งได้ประตูจากโคตรกองหน้าที่หาใครจะหยุดยากอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่กดคนเดียวสองประตูในช่วงครึ่งแรก แล้วก็มาได้ประตูตอกย้ำชัยจาก นิโก้ โอ’ไรลีย์ ในช่วงครึ่งหลัง ส่วนทางด้าน ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ ที่บุกไปทำศึก ‘ลอนดอน ดาร์บี้’ กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็คว้าชัยชนะได้สำเร็จจากประตูชัยของ ชูเอา เปโดร ในนาทีที่ 34 เก็บเพิ่มเป็น 17 คะแนน
ในขณะที่ ‘ปีศ่าจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกำลังกลับมาดีด้วยชัยชนะในลีก 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งก็ทำเอาพ่อหนุ่มหัวฟูแฟนตัวยงมีลุ้นได้ตัดผมหากทีมชนะ 5 นัดติด แต่ฝันของเขาก็ต้องพังทลายลง และเริ่มกลับมานับ 1 ใหม่อีกครั้ง เมื่อผีแดงพลาดท่าสะดุดเสมอกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-2 และมันน่าเสียดายตรงที่พวกเขาบุกไปนำก่อนด้วย แต่ดันไปเลือกซื้อเกมรับ และโดนแซงสองประตูในช่วงต้นครึ่งหลัง แม้จะมาไล่ตามตีเสมอได้จากลูกวอลเลย์ด้วยซ้ายสุดสวยของอาหมัด ดิยาลโล่ แต่ก็ได้แค่นั้น จบลงไปด้วยการแบ่งแต้ม พร้อมกับหล่นไปอยู่อันดับที่ 8 ของตาราง



