เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมเผชิญวิกฤตหลังสนามธันเดอร์โดมเตรียมเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต 45,000 ที่นั่ง

19 ส.ค. 2568 - 06:01

  • สัญญาเช่าสนามธันเดอร์โดมมีกำหนดหมดอายุในปี 2029 ขณะที่ IMPACT วางแผนปรับปรุงเป็นคอนเสิร์ตเวนิว 45,000 ที่นั่ง

  • เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องหาสนามใหม่หลังใช้ธันเดอร์โดมเป็นสนามเหย้ามาตั้งแต่ปี 2007

  • ความร่วมมือระหว่าง IMPACT และ Live Nation มูลค่า 4.617 พันล้านบาทขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมเผชิญวิกฤตหลังสนามธันเดอร์โดมเตรียมเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต 45,000 ที่นั่ง

สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ดเตรียมเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกครั้ง หลังบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดูแลโครงการ IMPACT ประกาศแผนการปรับปรุงสนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยมให้กลายเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ดต้องเร่งดำเนินการหาบ้านหลังใหม่เมื่อสัญญาเช่าปัจจุบันกำลังจะหมดลงในปี 2029 

สถานการณ์ปัจจุบันของสนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม  

สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ปัจจุบันตั้งอยู่ในใจกลางเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี สนามแห่งนี้มีบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าของและดำเนินการภายใต้สัญญาเช่า 30 ปีกับการกีฬาแห่งประเทศไทยที่เริ่มต้นในปี 2540 และกำลังจะสิ้นสุดในปี 2570 

ผลกระทบจากแผนการใหม่ในการเปลี่ยนสนามเริ่มปรากฏปัญหาให้เห็นจากการย้ายสถานที่แข่งขันหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมาไทยลีกถูกบังคับให้ย้ายการแข่งขันนัดสำคัญระหว่างเมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จากสนามธันเดอร์โดมไปยังสนามบีจี สเตเดี้ยม เนื่องจากตารางงานที่ขัดแย้งกันเพราะการจัดคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นในสนามแห่งนี้ 

muangthong-united-stadium-crisis-thunderdome-concert-venue-transformation-SPACEBAR-Photo03-1.jpg

แผนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คำสั่งตรงจาก IMPACT  

ล่าสุด พอลล์ กาญจนพาสน์  CEO ของ IMPACT เปิดเผยแผนการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของทั้งสนามกีฬาธันเดอร์โดมและอาคารธันเดอร์โดมให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตกลางแจ้งแห่งใหม่ของประเทศไทยโดยจะขยายความจุจาก 15,000 ที่นั่งในปัจจุบันเป็น 45,000 ที่นั่ง 

การขยายครั้งนี้จะทำให้สิ่งปลูกสร้างหลังใหม่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเทียบเท่ากับสนามราชมังคลากีฬาสถาน เติมเต็มช่องว่างสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจด้านความบันเทิงให้สมบูรณ์แบบ 

แผนการพร้อมวิสัยทัศน์ครั้งนี้จะมีการดำเนินการรื้อถอนอาคารทั้งสองหลังเพื่อสร้างศูนย์ความบันเทิงที่ทันสมัยซึ่งสามารถรองรับงานทั้งในร่มและกลางแจ้งด้วยความจุรวม 40,000 ถึง 50,000 คน โครงการขนาดใหญ่นี้จะสร้างจุดหมายปลายทางความบันเทิงที่หลากหลายและสามารถเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตทัวร์และเทศกาลดนตรีระดับโลก 

ผลกระทบต่อสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเมืองทอง ยูไนเต็ดซึ่งใช้สนามธันเดอร์โดมเป็นบ้านมาตั้งแต่ปี 2007 สโมสรไม่เพียงจะสูญเสียรังเหย้าไปแต่ยังรวมถึงส่วนสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์และวัฒนธรรมแฟนบอลด้วย สนามธันเดอร์โดมได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นสถานที่จัดการแข่งขันที่น่าจดจำที่สุดของสโมสร และเป็นจุดศูนย์รวมของกลุ่มแฟนบอลกลุ่ม Ultra Muangthong ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง 

การลงทุนที่สโมสรได้ทำในช่วงที่ผ่านมารวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแฟนบอล และระบบการดำเนินงานที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสนามธันเดอร์โดม อาจต้องสูญเสียไปหากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามแผน  

โดยฝ่ายบริหารของเมืองทอง ยูไนเต็ดเริ่มสำรวจทางเลือกสำหรับสนามใหม่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีตัวเลือกใดที่เสนอความจุ สถานที่ และการเข้าถึงได้เหมือนสนามธันเดอร์โดมแต่สโมสรถูกบังคับให้ใช้สนามอื่นสำหรับการแข่งขันบางนัด รวมถึงนัดสำคัญที่ต้องย้ายไปจัดที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจากปัญหาตารางการแข่งขันที่ขัดแย้งกับธุรกิจบันเทิง 

muangthong-united-stadium-crisis-thunderdome-concert-venue-transformation-SPACEBAR-Photo01.jpg

กลยุทธ์ทางธุรกิจและผลกระทบทางการเงิน 

การเปลี่ยนแปลงของสนามธันเดอร์โดมสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในวงกว้างของอุตสาหกรรมความบันเทิงไทยที่ขับเคลื่อนด้วยผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการจัดคอนเสิร์ตและงานอีเวนต์เมื่อเทียบกับการดำเนินงานในรูปแบบสถานที่จัดงานกีฬาแบบเดิม ความร่วมมือระหว่าง IMPACT กับ Live Nation Entertainment แสดงถึงการลงทุนที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานความบันเทิงของประเทศ 

กิจการร่วมค้า (Joint Venture) นี้ได้ผูกพันกับสัญญาเช่า IMPACT Arena เป็นระยะเวลา 20 ปี มีมูลค่าสัญญารวม 4,617 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงขนาดของความมุ่งมั่นทางการเงินที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้  การมีส่วนร่วมของ Live Nation Entertainment ได้นำความเชี่ยวชาญและศิลปินระดับโลกเข้ามาสู่ตลาดบันเทิงไทยและอาจเปลี่ยนประเทศไทยให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับศิลปินนานาชาติ 

ทางออกและแนวทางแก้ไขสำหรับเมืองทอง ยูไนเต็ด 

ด้วยกรอบเวลาที่เหลืออีกเพียง 4 ปีเมืองทอง ยูไนเต็ดจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนและมีแผนการ ตัวเลือกแรกคือการเจรจาต่อสัญญาเช่าหรือหาข้อตกลงใหม่ที่อนุญาตให้สโมสรยังคงใช้สนามได้แม้จะมีการปรับปรุงเป็นเวทีคอนเสิร์ต แต่ทางเลือกนี้อาจมีข้อจำกัดในทางปฏิบัติเนื่องจากความขัดแย้งในการใช้งาน 

ทางเลือกที่สองคือการสร้างสนามใหม่เฉพาะสำหรับสโมสร แผนเดิมของสโมสรเคยพิจารณาการขยายสนามปัจจุบันให้รองรับผู้ชม 40,000 คนหรือสร้างสนาม 35,000 ที่นั่งใหม่ด้วยงบประมาณ 500-700 ล้านบาท แม้แผนเหล่านี้จะต้องปรับเปลี่ยนหากสูญเสียทำเลปัจจุบันแต่ก็ถือเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ 

ทางเลือกที่สามคือการหาพันธมิตรร่วมทุนหรือเช่าสนามที่มีอยู่แล้ว เช่น สนามกีฬาประจำจังหวัดนนทบุรีหรือสนามกีฬาจังหวัดอื่นๆ แม้จะมีข้อเสียในเรื่องระยะทางและบรรยากาศแต่อาจเป็นทางออกชั่วคราวที่ช่วยให้สโมสรสามารถดำเนินการแข่งขันต่อไปได้ 

มุมมองจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

อุตสาหกรรมความบันเทิงไทยมองการพัฒนาครั้งนี้เป็นความก้าวหน้าสำคัญในความสามารถของประเทศในการแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตและเทศกาลนานาชาติครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมชี้ให้เห็นมานานแล้วว่าประเทศไทยขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านความบันเทิงกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่รองรับได้เพียงพอ ทำให้ศิลปินทัวร์ระดับโลกหลายรายต้องข้ามประเทศไทยไปเลือกสิงคโปร์ มาเลเซีย หรือประเทศคู่แข่งอื่นๆ ในภูมิภาคที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงที่พัฒนาแล้วมากกว่า 

ชุมชนฟุตบอลไทยแสดงปฏิกิริยาที่หลากหลายต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยหลายฝ่ายยอมรับในเหตุผลทางธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่บางส่วนก็เสียใจกับการสูญเสียหนึ่งในสนามที่มีบรรยากาศดีที่สุดของลีก นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมฟุตบอลชี้ให้เห็นว่าไทยลีกมีปัญหาด้านคุณภาพและความจุของสนามในหลายสโมสรทำให้เกิดการสูญเสียสิ่งปลูกสร้างที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน AFC  

อย่างไรก็ดีหากเมืองทอง ยูไนเต็ดสามารถวางแผนและดำเนินการได้อย่างชาญฉลาดวิกฤตครั้งนี้อาจกลายเป็นโอกาสในการสร้างบ้านใหม่ที่ดีกว่าเดิม สนามที่ได้รับการออกแบบมาเฉพาะสำหรับฟุตบอลตั้งแต่ต้นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอาจสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับแฟนบอลและช่วยยกระดับแบรนด์ของสโมสรในระยะยาว แต่สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เพราะเวลา 4 ปีนั้นผ่านไปเร็วกว่าที่คิด 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์