‘หงส์’ ยังเข้ม เก็บชัย 5 นัดรวด! ปืนเสมอเรือสุดมัน ผีเบียดสิงห์คว้าชัยพรีเมียร์ลีก 2025/26 หลังจบนัดที่ห้า

22 ก.ย. 2568 - 11:01

  • พรีเมียร์ลีก 2025/26 จบนัดที่ห้า ลิเวอร์พูลยังคงฟอร์มร้อนแรงเหมือนเดิม เปิดบ้านเชือดเอฟเวอร์ตัน คว้าชัย 5 นัดรวด เก็บ 15 คะแนนเต็ม

  • ส่วนบิ๊กแมตช์สัปดาห์นี้ผีชนะสิงห์ในขณะที่ปืนเจ๊าเรือแบบสุดมัน

‘หงส์’ ยังเข้ม เก็บชัย 5 นัดรวด! ปืนเสมอเรือสุดมัน ผีเบียดสิงห์คว้าชัยพรีเมียร์ลีก 2025/26 หลังจบนัดที่ห้า

พรีเมียร์ลีก 2025/26 หลังจบสัปดาห์ที่ห้า ลิเวอร์พูลแม้จะทำให้แฟนบอลเสียวๆ กันบ้างแต่พวกเขาก็ยังไม่พลาดสามารถคว้าชัยเหนือเอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึก ‘เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้’ ในขณะที่บิ๊กแมตช์สองคู่ แมนฯ ยูไนเต็ด 10 คนได้ประตูนำเร็วก่อน สุดท้ายเลยเฉือนชนะเชลซีที่เหลือ 10 คนเหมือนกันไปได้ 2-1 และฝั่งอาร์เซนอลก็ไล่บี้ตีเสมอแมนฯ ซิตี้ได้แบบสุดมัน 1-1 

Fifth-match-Premier-League-wrap-up-SPACEBAR-Photo01.jpg

‘หงส์’ ยังคงฟอร์มเฉียบขาด คว้าชัย 5 นัดรวดนำฝูงทิ้งห่าง 5 แต้ม 

ถือว่าเป็นการเริ่มต้นพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26  ที่ยังคงสมบูรณ์แบบของลิเวอร์พูล เพราะการที่พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะคู่แค้นร่วมเมืองอย่างเอฟเวอร์ตันไปได้ทำให้นี่เป็นการเก็บชัยชนะ 5 นัดรวด เก็บ 15 คะแนนเต็ม ทิ้งห่างทีมตามอีกสามทีม อาร์เซนอล, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ บอร์นมัธ ไป 5 แต้มแล้วเรียบร้อย 

ชัยชนะในศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีนักเตะอีกหนึ่งคนที่พวกเขาขาดไม่ได้เลยในตอนนี้ก็คือ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ห้องเครื่องตัวรับชาวดัตช์ที่ในเกมนี้เขาโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิง 1 ประตูและแอสซิสต์อีก 1 ลูก เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้ชัยชนะ โดยเจ้าตัวต่อยอดมาจากผลงานนัดล่าสุดในฟุตบอลยุโรปกับแอตเลติโก มาดริดที่เพิ่งแอสซิสต์ไป 1 ลูก และนอกจากนี้ในนัดที่สองของฤดูกาลเขายังยิงไกลช่วยให้ทีมปลดล็อกประตูออกนำนิวคาสเซิลได้เช่นกัน 

เรื่องเดียวที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ของพวกเขาก็คือเกมรับที่ดร็อปลงไปพอสมควร เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา 7 นัดในทุกรายการ พวกเขาเก็บคลีนชีตไปได้แค่สองนัดซึ่งถ้าเทียบกับอีกทีมลุ้นแชมป์คืออาร์เซนอลทางฝั่งปืนใหญ่ยังทำได้ดีกว่า ่อีกเรื่องที่ทำให้ทีมของอาร์์เน่อ สล็อต ยังครองจ่าฝูงอยู่ได้ในตอนนี้ก็คือจิตวิญญาณความเป็นผู้ชนะที่พวกเขายังคงเหนือกว่าทีมอื่นๆ นั่นเอง 

Fifth-match-Premier-League-wrap-up-SPACEBAR-Photo02.jpg

ปืนยังรอดไล่บี้ตีเสมอแมนฯ ซิตี้ได้สำเร็จ 

ส่วนคู่ไฮไลต์อีกคู่คือการเจอกันของอาร์เซนอล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่ผลจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1 แบ่งกันไปคนละแต้ม แม้ว่านี่จะทำให้ ‘ปืนใหญ่’ ตามหลัง ‘หงส์แดง’ ไปแล้ว 5 คะแนนแต่ก็ต้องบอกว่านี่เป็นเพียงช่วงต้นของฤดูกาล ยังเหลือเวลาอีกยาวๆ ให้ได้ลุ้น 

ทางด้านทีมเต็งแย่งลุ้นแชมป์จากลอนดอนในเกมเมื่อคืนนี้ต้องบอกว่าพวกเขาทำได้เหนือกว่าแมนฯ ซิตี้เกือบทั้งเกม ทั้งสถิติการครองบอล โอกาสในการเข้าทำประตู โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่พวกเขาต้องการประตูตีเสมอลูกทีมของมิเกล อาร์เตต้าไล่กดทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลากระจายแบบเรียกได้ว่าแทบจะพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียว จนสุดท้ายมาได้ประตูตีเสมอและเก็บ 1 แต้มสำคัญมาได้ซึ่งเกมนี้พวกเขาพลาดแค่จุดเดียวคือลูกที่เสียประตู 

ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนที่ฟอร์มเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง แม้ว่าจะได้ประตูออกนำเร็วตั้งแต่ต้นเกมแต่สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นชัดในเกมนี้ก็คือเป๊ป กวาร์ดิโอลากลายเป็นคนที่ ‘คิดเยอะคิดแยะ’ ไปเสียแล้ว เพราะตามปกติไม่ว่าจะเจอกับใครเขาจะไม่ใช่คนที่ชอบถอนคันเร่งเท่าไหร่ แต่ในเกมนี้เขาเลือกที่จะถอดเออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าตัวเก่งออกแล้วส่งกองกลางตัวรับลงไปแพ็คเกมตั้งแต่นาทีที่ 76 ซึ่งผลสุดท้ายพวกเขาก็ทำไม่ได้ ก็คงต้องมารอดูกันต่อว่าซิตี้จะหาจุดลงตัวในซีซันนี้ได้เมื่อไหร่ 

Fifth-match-Premier-League-wrap-up-SPACEBAR-Photo03.jpg
Fifth-match-Premier-League-wrap-up-SPACEBAR-Photo04.jpg

ความผิดพลาดง่ายๆ นำพาหายนะมาสู่ทีมได้เสมอ 

ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งบิ๊กแมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เปิดบ้านเจอกับเชลซีซึ่งแฟนๆ คงคิดว่าน่าจะเป็นเกมที่สนุกใส่กันมันตั้งแต่ต้นเกม แต่อย่างที่เราจั่วหัวคือความผิดพลาด ‘ง่ายๆ’ มักจะนำ ‘หายนะ’ สู่ทีม เกมนี้แทบจะจบเร็วเมื่อโรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูทีมเยือนออกมาตัดบอลแบบ ‘สะเพร่า’ จนโดนไล่ออกตั้งแต่ 5 นาทีแรกทำให้เชลซีโดนนำไปสองประตูอย่างรวดเร็ว 

ส่วนอีกความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเกมนี้ก็ยังคงเป็นของเชลซีเหมือนเดิมนั่นคือการแก้เกมแบบ ‘สุดงง’ ของเอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือเชลซี ซึ่งโดยปกติแล้วการเอาตัวรุกออกหนึ่งคนแล้วส่งผู้รักษาประตูลงมาแทนก็เป็นเรื่องไม่แปลกอะไร แต่ลูกศิษย์เป๊ปคนนี้เลือกที่จะถอดตัวรุกออกหมดเกลี้ยงเพื่อที่จะตั้งรับเต็มรูปแบบ ไม่เหลือปีกหรือกองกลางเชิงรุกไว้แม้แต่คนเดียวเพื่อเล่นเกมสวนกลับ ยิ่งพอท้ายครึ่งแรกฝั่งแมนฯ ยู โดนไล่ออกจนเหลือ 10 คนเท่ากันแฟนบอลก็เลยนั่ง ‘เกาหัว’ กันแกร็กๆ ว่าแล้วนี่ทีมตรูมันจะบุกกันยังไงละเนี่ย นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่ามาเรสก้านั่งติวการ์นาโช่อยู่นานสองนานแต่สุดท้ายพี่เขากลับส่งไทริก จอร์จลงสนามแทนซะอย่างนั้น 

ถ้าสุดท้ายเชลซียังอยากที่จะเป็นทีมลุ้นแชมป์จริงๆ ช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลนี้พวกเขาก็ต้องผิดพลาดง่ายๆ ให้น้อยที่สุดตั้งแต่นักเตะไปจนถึงโค้ชที่ต้องไม่ลนลานแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นก็คงจบแบบเดิมอย่างซีซันที่ผ่านมาคือมาเรสก้าออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ‘เรายังไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์’ ไปอีกหนึ่งปี 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์