จบไปแล้วเรียบร้อยสำหรับโปรแกรมการแข่งขันนัดสำคัญของทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย ในศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือกกับทีมชาติศรีลังกา โดยผลการแข่งขันเป็นไทยที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม บุกไปถล่มถึงถิ่น 4-0 ซึ่งทางด้าน แอนโธนี ฮัดสัน ก็ได้ลบคำครหาจากนัดอุ่นเครื่องในบ้านที่ทำได้แค่เฉือนสิงคโปร์ไปได้สำเร็จ

กองกลางและแผงหลังดีขึ้นชัดเจนจนเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ
ปัญหาใหญ่ที่เป็นรูโหว่ที่สุดของนัดที่แล้วที่เจอกับสิงคโปร์ก็คือเรื่องของ ‘เกมรับ’ โดยถ้านั่งดูกันตลอดทั้งเกมจะเห็นชัดเจนว่ากองหลังของทีมชาติไทยลอยสูงมากและเวลาที่โดนสวนกลับมักจะลงมาตั้งรับกันไม่ค่อยทัน จัดกระบวนเกมรับยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง และแผงมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีแต่กองกลางเชิงสูง ขาดตัวขับเคลื่อนเกมแบบพลังไดนาโมที่จะคอยชนหรือเบรกเกม
แต่ในนัดนี้กับศรีลังกาทางด้านแอนโธนี ฮัดสันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่กองหลังที่แม้ในเกมนี้ยังดันสูงพอสมควรอยู่ซึ่งเป็นคนละสไตล์กับมาซาทาดะ อิชิอิ แต่การยืนตำแหน่งทำได้ดีขึ้นกว่านัดแรก พร้อมทั้งตั้งรับและเก็บกินลูกบอมบ์ที่เป็นแทคติกหลักของศรีลังกาได้ทั้งหมด ส่วนทางด้านแบ็คซ้ายที่เกมที่แล้วเป็น เควิน ดีรมรัมย์ ที่มีปัญหาเวลาถอยลงมาเล่นเกมรับคือจะมาไม่ค่อยทัน พอดีที่วันนี้เควินไม่ฟิตฮัดสันก็เลยเลือกเอา นิโคลัส มิเกลสัน มายืนแทนซึ่งเป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวเล่นกับสโมสรในบุนเดสลีกา 2 ในขณะที่ฝั่งขวาเลือกใช้ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และทั้งสองคนเล่นดีทั้งคู่ด้วย นิโก้มี 2 แอสซิสต์ ส่วนเซฟมี 1 แอสซิสต์
ปิดท้ายที่ปัญหากองกลาง เกมนี้ฮัดสันเลือกแผนใหม่ด้วยการเพิ่มกองกลางเข้ามาอีกหนึ่งคน จากเดิมที่มีแค่ สารัช อยู่เย็น กับ ธีราทร บุญมาทัน เขาเพิ่ม ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เข้ามาอีกหนึ่งคน ซึ่งถ้าใครได้ดูในเกมที่แล้วตอน ‘เจ้ากัน์’ ลงสนามม มิติกองกลางดีขึ้นเยอะ มีคนวิ่งขึ้นวิ่งลงตลอดเวลาช่วยซัพพอร์ตเกมรับให้กับกองหลังได้เป็นอย่างดี แถมเขายังโดดเด่นในเกมรุกด้วย เพราะเป็นคนซัดไกลสุดงามให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ด้วย เรียกได้ว่าข้อด้อยอะไรที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ฮัดสันจัดการแก้ไขได้ทั้งหมด

การเข้าชัดเจนมากขึ้น มีครบทุกรูปแบบ
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญของแมตช์ที่แล้วคือ ‘การเข้าทำ’ ซึ่งดูยังไม่เห็นรูปแบบอะไรที่ชัดเจนเพราะประตูที่ได้มาจากลูกยิงไกลทั้งหมด มาจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะล้วนๆ ขาดการสร้างสรรค์จากวิธีต่างๆ มาในวันนี้ทั้ง 4 ประตูที่ทีมชาติไทยทำได้มีครบทุกแบบ เริ่มจากประตูแรกที่เป็นลูกยิงไกลซึ่งมาจากความยอดเยี่ยมของธนวัฒน์ที่ลากมาจากด้านข้างแล้วตะบันเข้าไปแบบสุดงาม ส่วนลูกที่สองก็เป็นการลำเลียงเกมมาเรื่อยๆ ก่อนจะเป็น สุภโชค สารชาติ ที่ครอสตรงบริเวณประมาณ 25 หลาเข้าไปให้ จู๊ด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ พังประตูแรกของตัวเองกับทีมชาติได้สำเร็จ ในขณะที่ลูกที่ 3 และ 4 มาจากการครอสจากทางริมเส้นเข้าไปให้ผู้เล่นในกรอบเขตโทษทำประตู
นอกจากนั้นเกมนี้ ‘จู๊ด’ ยังยิงได้ถึง 2 ประตูซึ่งถือว่าเป็นฟอร์มที่ดีใช้ได้เลย เขาเคลื่อนที่เวลาไม่มีบอลได้ดี พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เพื่อนเห็นและสามารถผ่านบอลให้เขาได้ตลอด นอกจากนี้ความเฉียบคมในการจบสกอร์ก็ใช้ได้ ไม่ได้ใช้โอกาสเปลืองเท่าไหร่นักและอาจจะเป็นความหวังใหม่จริงๆ ของกองหน้าทีมชาติไทย
ตอนนี้ความหวังในการเข้ารอบ เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย กลับมาชัดเจนมากขึ้นอีกครั้ง ต้องขอบคุณตั้งแต่ผลงานของอิชิอิที่พาทีมชนะไต้หวันทั้ง 2 นัด และนัดนี้ก็ต้องชื่นชมฮัดสันด้วยเช่นกันที่ทำได้ดีจนพาทีมเก็บเป้าหมายที่ต้องการได้ สุดท้ายแล้วโอกาสในการเข้ารอบเวลานี้อยู่ที่ตัวเราเอง ทุกอย่างอยู่ในมือเรา ขอแค่ชนะเติร์กเมนิสถานในราชมังฯ ให้ได้ก็พอ จะกี่ลูกก็ได้แต่ห้ามแพ้หรือเสมอเด็ดขาดไม่อย่างนั้นจบทันที ก็หวังว่าฮัดสันจะทำได้ดีเหมือนที่ทำได้ในวันนี้เพื่อให้ ‘ช้างศึก’ ยังอยู่ในลู่ทางของฟุตบอลระดับเอเชียต่อไป



