ส่อง 'คนละครึ่งพลัส' กระตุ้นเศรษฐกิจอีสานหรือไม่? หวังการใช้จ่ายคึกคักสอดรับช่วงเทศกาลปลายปี

29 ต.ค. 2568 - 01:12

  • ผู้ประกอบการร้านค้าในจังหวัดขอนแก่น คาดหวังโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

  • ทำบรรยากาศการจับจ่ายกลับมาคึกคัก สอดรับกับช่วงเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะมาถึง

ส่อง 'คนละครึ่งพลัส' กระตุ้นเศรษฐกิจอีสานหรือไม่? หวังการใช้จ่ายคึกคักสอดรับช่วงเทศกาลปลายปี

พิมพารัตน์ ตุลุย หรือ ‘พี่อ้อย’ แม่ค้าร้านน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ ริมบึงแก่นนคร จ.ขอนแก่น กล่าวให้ความเห็นว่า แม้สภาพเศรษฐกิจปีนี้ฝืดเคือง ทำมาค้าขายลำบาก แต่ด้วยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่งพลัส” ของรัฐบาล ‘นายกฯ อนุทิน’ ช่วยทำให้บรรยากาศการจับจ่ายช่วงปลายปีกลับมาคึกคัก สอดรับกับช่วงเทศกาลลอยกระทงที่กำลังจะมาถึง

Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo03.jpg

พิมพารัตน์ บอกว่า หลังจากสถานการณ์โควิด19 การค้าการลงทุนเป็นแบบลุ่มๆ ดอนๆ ลูกค้าเลือกซื้อสินค้า  ซื้อเฉพาะที่จำเป็น ส่วนการค้าที่ทำอยู่คือการขายน้ำปั่น เรียกว่าพอค้าขายได้ เพราะถือเป็นของกินที่จำเป็น ลูกค้าต้องซื้ออยู่แล้ว แต่เงินจากการค้าขายก็ไม่มีกำไรเหลือเก็บ ได้มาใช้ไป ในมุมมองขอคนค้าขายมองว่าเศรษฐกิจมีขึ้นมีลงตามปกติ แต่ในระยะนี้ถือว่าเศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้คนใช้จ่ายระมัดระวัง

“เปรียบเทียบให้ดู หากเศรษฐกิจดี ค้าขายคล่อง ลูกค้ามาเป็นครอบครัว 2-3 คน จะซื้อน้ำดื่มคนละแก้ว มา 3 คนซื้อ 3 แก้ว แต่ทุกวันนี้ ก่อนซื้อลูกค้าจะดูราคาก่อนตัดสินใจซื้อ และซื้อเพียง 1-2 แก้ว แล้วแบ่งกันดื่ม ทำให้รายได้การค้าขายลดลง”

“ทุกวันนี้เงินที่ขายได้จะเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว แต่ไม่มีเหลือเก็บได้มาจ่ายไป ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดได้ร่วมโครงการคนละครึ่ง ส่วนตัวถือว่าส่งผลดีต่อร้านค้า เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เห็นผลจริง ที่สำคัญคนละครึ่งทำให้ร้านมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เพราะเขาลองเปิดใจมาซื้อร้านเราจนกลายเป็นลูกค้าประจำ ทำให้ยอดขายเพิ่ม”

พิมพารัตน์ กล่าวว่า สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัสที่จะเริ่มมีการใช้จ่ายในช่วงวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ยังไม่คาดหวังมากนัก คงต้องรอดูสถานการณ์การจับจ่ายของลูกค้าไปสักระยะหนึ่ง ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับพ่อค้าแม่ค้า คือโครงการคนละครึ่งพลัสในรัฐบาลอนุทิน สอดรับกับสถานการณ์ในช่วงปลายปี มองว่าโครงการคนละครึ่งพลัสจะกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีเทศกาลต่างๆ ทั้งลอยกระทง คริสต์มาส และปีใหม่ ที่ประชาชนล้วนต้องจับจ่ายใช้สอย ทั้งในเรื่องการเดินทาง การท่องเที่ยว หรือใช้จ่ายสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็น

“อยากให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินในการจับจ่าย เพราะวันละ 200 บาท น้อยไป ขยายเป็นวันละ 300 บาท เชื่อว่าจะทำให้มีการใช้จ่ายครอบคลุมซื้อสินค้าได้ครบตามที่ต้องการ”

“ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการที่บางคนบอกว่าไม่ต้องการให้จำกัดวงเงิน เพราะบางคนอาจจะใช้จ่ายหมดในครั้งเดียวก็ไม่เกิดประโยชน์ จำกัดวงเงินใช้จ่ายดีกว่า แต่เพิ่มวงเงินจะดีมาก เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น”

พิมพารัตน์ กล่าวด้วยว่า อยากแนะนำพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ให้ขายจริงจัง ตั้งใจ รักในอาชีพ และอดทน จัดร้านให้เป็นจุดเด่น ป้ายราคาชัดเจน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าร้านเราหรือไม่ การค้าขายมีวันขายดี ขายไม่ได้  ที่สำคัญอย่ามองว่าโครงการคนละครึ่งเป็นเพียงโครงการให้การช่วยเหลือเท่านั้น ขอให้ใช้โครงการฯ ต่อยอดพัฒนาร้านค้าตัวเองให้เป็นที่รู้จัก

“อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รู้ข่าวว่ามีนโยบายคนละครึ่ง ที่ร้านน้ำปั่นได้จัดโปรโมชั่นซื้อ 10 แถม 1 ไว้รองรับ โดยเริ่มจากลูกค้าขาประจำก่อน จากนั้นจะบอกลูกค้ารายใหม่ ถือเป็นการใช้โครงการฯ ในการโปรโมทร้าน สร้างจุดเด่น เพิ่มจุดขายด้วย” พิมพารัตน์ กล่าว

Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo02.jpg

ส่วนบรรยากาศที่บึงสีฐาน ภายในรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น เต็มไปด้วยสีสัน ประดับประดาโคมไฟ ธุงอีสาน และงานศิลปะจาก 5 ประเทศ ภายใต้ธีม “สีฐาน นวธารา หิมาลายัน”  ในงานลอยกระทง สีฐานเฟสติวัล นานาชาติ บุญสมมาบูชานาค ประจำปี 2568  ถือเป็นที่สุดของงานลอยกระทงอีสาน

รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า ปี 2568 งานลอยกระทงก้าวเข้าสู่ระดับนานาชาติ มีการผสานวัฒนธรรม 5 ชาติในลุ่มน้ำโขง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และราชอาณาจักรไทย

“ทำให้งานสีฐานเฟสติวัล 2568 เป็นมากกว่างานประเพณี เป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศ และการสร้างมิตรภาพระหว่างประชาชนในภูมิภาค” 

“การเดินทางของสายน้ำและศรัทธา น้ำที่ละลายจากหิมะศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาหิมาลัยเกิดเป็นแม่น้ำโขงซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ของวัฒนธรรมอีสาน มีต้นกำเนิดจากที่ราบสูงทิเบตในเทือกเขาหิมาลัย เดินทางผ่านหลายประเทศเข้ามาหล่อเลี้ยงแผ่นดินอีสาน”

Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo04.jpg

รศ.ดร. นิยม กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการยกระดับ มีกิจกรรมใหม่ๆ หลากหลายขึ้น เชื่อว่าตลอดช่วง 3 วัน จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมลอยกระทงกว่า 300,000 คน ซึ่งข้อมูลนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดเก็บข้อมูล ส่วนคณะเศรษฐศาสตร์ จัดเก็บข้อมูลด้านเศรษฐกิจ คาดมีเงินสะพัดในจังหวัดขอนแก่นกว่า 700 ล้านบาท ทางหอการค้าจัดเตรียมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวแล้ว

Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo01.jpg

ด้าน ศศมณฑ์ มหาศิริกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง  มองสภาวะเศรษฐกิจอีสานว่า เศรษฐกิจขึ้นลงนั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก  สถานการณ์ตามแนวชายแดน ทำให้การลงทุนยังคงชะลอตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 1-2 เดือน นี้ หวังว่าบรรยากาศการลงทุนในพื้นที่ภาคอีสานจะดีขึ้น 

ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยโครงการของรัฐบาลแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือโครงการระยะยาว เป็นโครงการที่กระตุ้นระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส ถือว่าเป็นโครงการที่มาในช่วงเทศกาล ช่วยทำให้ประชาชนตัดสินใจใช้จ่ายง่ายขึ้น และเป็นเรื่องที่ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจได้บ้าง

สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นโครงการที่เห็นผลเร็ว กระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้จ่าย แต่อยู่ในช่วงสั้นๆ ที่มีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยว และลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของหลายคนที่เตรียมวางแผนท่องเที่ยวด้วย

ศศมณฑ์ กล่าวต่อว่า “ภาคอีสานมีเอกลักษณ์เฉพาะที่มีความโดดเด่น วัฒนธรรมน่าสนใจ อีกทั้งขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแสดงสินค้า หรือไมซ์ รองรับลูกค้ากลุ่มทั้งในประเทศ กลุ่มอินโดจีนและจีนตอนใต้ เน้นการท่องเที่ยวเกี่ยวกับการประชุมสัมมนา ที่ทางสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้จัดกิจกรรมที่น่าสนใจ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย    

“ส่วนโครงการคนละครึ่งพลัสจะกระตุ้นทางเศรษฐกิจหรือไม่ คงต้องให้เวลาโครงการได้ดำเนินการไปก่อน  เพราะช่วงปลายปีแต่ละครอบครัวจะวางแผนกลับบ้าน ท่องเที่ยว ที่จะเกิดการจับจ่ายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้มองว่าหากโครงการมีการขยายเวลา ขยายวงเงิน ขยายกลุ่มประชาชนที่เข้ามาใช้ รวมทั้งขยายไปยังภาคธุรกิจ เชื่อว่าจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบคลุมมากขึ้น”

ศศมณฑ์ กล่าวด้วยว่า อีกหนึ่งความตั้งใจของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คือต้องการให้ภาวะด้านการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักเหมือนเดิม แต่ผู้ประกอบการภาคบริการอย่างโรงแรมมีความกังวลด้านการลงทุน โดยเฉพาะรัฐบาลนโยบายประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาทกับโรงแรมทั่วประเทศไปแล้ว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็ก เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น  

“ที่ผ่านมาคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาหาแนวทางที่ยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจในแต่ละพื้นที่ เช่น การเข้าถึงสินเชื่อ เพื่อให้ภาคธุรกิจในระดับภูมิภาคเกิดสภาพคล่อง รวมทั้งการกำหนดเพดานเพิ่มค่าใช้จ่ายในการประชุมสัมมนา เช่น ค่าอาหาร ค่าอาหารว่าง เสนอให้ปรับราคาเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน”

“หากมีการปรับขึ้นราคาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ซึ่งทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้นำข้อเสนอพิจารณา เพื่อให้นโยบายของรัฐบาลเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังช่วยผู้ประกอบการเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย”

Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo05.jpg
Will-the-Half-Half-Plus-project-stimulate-the-economy-in-the-Northeast-SPACEBAR-Photo06.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์