ปัจจุบัน “ความยั่งยืน” กลายเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนา การบริโภคอย่างมีจิตสำนึกและการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จึงเดินหน้าสานพลังเพื่อความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมและเข้าถึงชุมชน ด้วยการเปิดตัว “UNIQLO Clothing Corner: มุมแบ่งปันเสื้อผ้าจากยูนิโคล่” โมเดลใหม่ในการส่งต่อเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดี ให้กลุ่มเปราะบางในสังคม
โดยความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่าง ยูนิโคล่ และ กรุงเทพมหานคร ปักหมุดเริ่มต้นที่สำนักงานเขตสวนหลวง พร้อมความร่วมมือจาก BKK Food Bank ซึ่งเปรียบเสมือนมินิมาร์ทที่รวบรวมสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนเกินจากพื้นที่ต่างๆ มาส่งมอบให้แก่ผู้ที่มีความต้องการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ด้วยการนำแนวคิดเดียวกันมาใช้กับเสื้อผ้า จึงเกิดการสร้างพื้นที่ที่ผู้รับสามารถ “เลือก” เสื้อผ้าได้เองอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่แค่ “รอรับบริจาค” ในรูปแบบเดิม

สำหรับโครงการ RE.UNIQLO เริ่มต้นดำเนินการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อหมุนเวียนและต่ออายุการใช้งานเสื้อผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าได้ใช้ประโยชน์สูงสุดตลอดอายุการใช้งาน ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา ยูนิโคล่ได้รวบรวมและส่งต่อเสื้อผ้าคุณภาพดีกว่า 288,064 ชิ้น ให้แก่ผู้ที่ต้องการมากกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับมูลนิธิต่างๆ โดยการจัดตั้ง UNIQLO Clothing Corner ในครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจของยูนิโคล่ในการช่วยเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานด้านเครื่องแต่งกาย พร้อมช่วยให้กลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดีได้มากยิ่งขึ้น

“โครงการ BKK Food Bank ของกรุงเทพมหานคร เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง การสนับสนุนจากภาคเอกชนอย่างการจัดตั้งโครงการ UNIQLO Clothing Corner ถือเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานด้านเครื่องแต่งกาย ทำให้กลุ่มเปราะบางมีโอกาสเข้าถึงเสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องร่างกาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้อย่างแท้จริง ความร่วมมือในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการผนึกกำลังกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์สังคมที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับทุกคน”
— นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว

ทางด้าน โยชิทาเกะ วากากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) กล่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวโครงการนี้ว่า “ที่ยูนิโคล่ เราเชื่อมั่นในพลังของเสื้อผ้าที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้ การร่วมมือกับกรุงเทพมหานครเพื่อจัดตั้ง UNIQLO Clothing Corner ในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสานต่อวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนภายใต้โครงการ RE.UNIQLO ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นย้ำการยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้าและลดขยะสิ่งทอเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงแก่นแท้ของปรัชญาไลฟ์แวร์ (LifeWear) ที่ยูนิโคล่ยึดถือมาโดยตลอด นั่นคือการสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของทุกคน
นอกจากนี้ การจัดตั้ง UNIQLO Clothing Corner ยังสอดคล้องกับกิจกรรม Neighbors Helping Neighbors ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยมีร้านสาขาของยูนิโคล่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรวบรวมเสื้อผ้าคุณภาพดีจากคนในพื้นที่ ก่อนจะนำไปส่งมอบให้แก่ผู้ที่มีความต้องการต่อไป การประกาศเปิดตัวโครงการในวันนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคต ยูนิโคล่ ประเทศไทย มีแผนที่จะขยายโครงการ UNIQLO Clothing Corner ให้ครอบคลุมการให้บริการครบทั้ง 50 สำนักงานเขตทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้าง พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมไทยอย่างยั่งยืน”
แนวคิด 3R จากเสื้อผ้าเก่าสู่พลังใหม่ช่วยเปลี่ยนแปลงสังคม
โครงการ RE.UNIQLO ของยูนิโคล่ เป็นโครงการเพื่อการหมุนเวียนและต่ออายุเสื้อผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าได้ใช้ประโยชน์สูงสุดตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งยึดหลัก 3R ประกอบด้วย
- REDUCE: ลดการทิ้งเสื้อผ้าให้ได้มากที่สุด
- REUSE: เน้นการใช้ซ้ำ ด้วยการส่งต่อให้ผู้ที่ยังต้องการเพื่อมอบชีวิตใหม่ให้เสื้อผ้า
- RECYCLE: สร้างสรรค์เสื้อผ้าเก่าเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่ หรือเป็นเชื้อเพลิงทดแทน

เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วเป็นโอกาสใหม่
โครงการ UNIQLO Clothing Corner และ RE.UNIQLO นับว่าสะท้อนแนวคิดความยั่งยืนในหลากหลายมิติ เริ่มตั้งแต่ “มิติด้านสิ่งแวดล้อม” ที่มุ่งเน้นการนำเสื้อผ้าที่ใช้งานแล้วกลับมาใช้ใหม่หรือหมุนเวียนเพื่อลดของเสีย ลดทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตใหม่ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระบวนการเหล่านี้ช่วยลดผลกระทบต่อโลกและสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและไม่ปล่อยให้เสียเปล่า
ในแง่ “มิติสังคม” โครงการนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบาง ผ่านการเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเลือกเสื้อผ้าที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับตนเอง แทนการรับของบริจาคแบบไร้ทางเลือก ซึ่งช่วยรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐาน อีกทั้งยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชน โดยเน้นการมีส่วนร่วมและช่วยเหลือกันอย่างยั่งยืน
“มิติด้านเศรษฐกิจ” โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดต้นทุนในการจัดการขยะเสื้อผ้าและเพิ่มอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์โดยไม่จำเป็นต้องผลิตใหม่ตลอดเวลา ทั้งยังสนับสนุนโมเดลธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการวางรากฐานให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในเชิงเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการดูแลโลกและผู้คน
นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) เช่น การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน (SDG 12), การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (SDG 13), การลดความเหลื่อมล้ำ (SDG 10), การสร้างเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน (SDG 11) และความร่วมมือเพื่อเป้าหมาย (SDG 17) โดยรวมแล้ว UNIQLO Clothing Corner เป็นตัวอย่างโซลูชันที่ผสานความรับผิดชอบต่อโลก ผู้คน และเศรษฐกิจไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สร้างผลกระทบเชิงบวกและเป็นแรงบันดาลใจให้กับการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต