วันนี้ (24 พ.ย.68) สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ยังคงน่าเป็นห่วง หลังฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้ระดับน้ำในอำเภอหาดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นเป็นระลอกที่ 2 โดยเฉพาะหลายชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่มีน้ำท่วมขังต่อเนื่อง ประชาชนจำนวนมากยังไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ


ปริมาณน้ำล่าสุดเวลา 07.30 น. บริเวณสี่แยกไฟแดงไปรษณีย์ ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลไหลจากอำเภอสะเดาลงสู่คลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 ล้นทะลักออกมา ขณะนี้ วิกฤติขั้นสูงสุด
ขณะเดียวกัน พื้นที่อีกหลายอำเภอของจังหวัดสงขลา ทั้งอำเภอสะเดา เทพา นาทวี จะนะ อำเภอเมือง และสิงหนคร ต่างประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างกว้างขวาง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บางพื้นที่น้ำไหลเชี่ยวจนประชาชนต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาเพื่อรอการช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งทหาร ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงอาสาสมัครกู้ภัย ได้ระดมกำลังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่ออพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยงอันตราย พร้อมลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นไปมอบให้กับผู้ที่ยังติดค้างในพื้นที่ประสบภัย
สำหรับสถานการณ์ขณะนี้น้ำท่วมในพื้นที่อยู่ในระดับวิกฤตสูงสุด โดยระดับน้ำได้ท่วมถึงบริเวณโรงกรองน้ำของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ สูงกว่า 3เมตร จากระดับพื้นโรงกรอง ซึ่งสูงกว่าน้ำท่วมปี 2553 ส่งผลให้ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตน้ำประปาและจ่ายน้ำให้ประชาชนได้
กปภ.สาขาหาดใหญ่ ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ต่อความไม่สะดวกและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับลูกค้าและประชาชนทุกท่าน พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายเฝ้าติดตามประกาศจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนทุกท่านดูแลความปลอดภัยของตนเองเป็นสำคัญ
กปภ.สาขาหาดใหญ่เราจะเร่งฟื้นฟูระบบประปาให้กลับมาให้บริการได้โดยเร็วที่สุด

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ เกิดจากตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 68 จนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่งผลให้เกิดอุทกภัยรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง วัดได้มากกว่า 300 - 500 มม.

สำหรับจังหวัดสงขลา มีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 วัดได้ 335 มม.ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี
สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19 – 21 พ.ย. 68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50 – 2.50 เมตร
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง รวมทั้งคลองสายต่างๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ คลองวาด คลองอู่ตะเภา คลองต่ำ คลองหวะ รวมถึงคลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) ที่เป็นคลองขุดระบายน้ำสายใหม่ ที่ใช้ผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาไปลงทะเลสาบสงขลาได้เร็วขึ้น มีศักยภาพในการระบายน้ำได้ 1,200 ลบ.ม./วินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก
ขณะนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ แต่มีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนเพิ่ม เจ้าหน้าที่คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 - 5 วัน
ทั้งนี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรงในอ่าวไทยจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง ภาคใต้ตอนล่าง ช่วงวันที่ 24 - 25 พฤศจิกายน 2568
อิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองสาขา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น จึงขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองเนื่องจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 24 - 25 พฤศจิกายน 2568 บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล




