ช้างไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน ทำให้จำนวนช้างเลี้ยงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจำนวนช้างที่ล้มตายมีมากกว่าช้างเกิดใหม่ โดยสาเหตุเกิดขึ้นทั้งจากทั้งปัจจัยสภาพเศรษฐกิจ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ธีรภัทร ตรังปราการ ร่มแดนช้าง อดีตนายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เปิดเผยว่า หากดูสถิติประชากรช้างเลี้ยงในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจและเป็นเรื่องที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะดูจากสถิติการลดจำนวนลง ตั้งแต่ปี 2500 ประเทศไทยมีช้างเลี้ยงมากถึง 12,500 เชือก ซึ่งจากการสำรวจตัวเลขล่าสุดนั้น เหลือเพียงราวๆ 3400 เชือก ภายในรอบ 68 ปี อัตราช้างเลี้ยงลดลงถึง 72% ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวถ้าหากเราไม่ทำอะไรเลย ไม่มีนโยบายที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยง ใน 80 ปีข้างหน้า จำนวนช้างเหล่านี้อาจจะหมดลง
โดยโครงสร้างของประชากรช้างไทยปัจจุบันเป็นแบบพีระมิดหัวกลับ โดยประชากรช้างที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ มีอยู่แค่ประมาณ 500 เชือก และมีช้างที่อายุ 45 ปีขึ้นไป จำนวนมาก ซึ่งหากจำนวนเหล่านี้หมดลง ก็จะหมดไปทีละจำนวนมาก ซึ่งมองว่าเราจะเสียช้างเลี้ยง 400 ถึง 500 เชือก ภายในเวลาไม่นานนี้ สาเหตุหลักก็คือ จำนวนช้างส่วนมากเกินกว่า 90% อยู่ในเมืองเอกชน ที่เหลืออยู่ในการดูแลของภาครัฐ ซึ่งส่วนนี้ไม่เป็นกังวล เพราะอยู่ในการดูแลของรัฐมีงบประมาณในการดูแลอยู่แล้ว
ส่วนที่อยู่กับเอกชนนั้น จะพึ่งพาเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวนั้นไม่ได้ดีเหมือนในอดีต ทำให้ไม่มีความเสถียรในการเลี้ยงช้างให้มีประสิทธิภาพ และอยู่บนความไม่แน่นอน เพราะการเลี้ยงช้างนั้นใช้เงินจำนวนมาก และปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นจะใช้ช้างตัวเมียเป็นหลัก ทำให้ช้างตัวผู้นั้นถูกเปลี่ยนมือ ไปเป็นช้างลากไม้ในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ประชากรการเกิดนั้นจะต่ำ


“แนวทางแก้ปัญหา อยากให้รัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็ตาม มีนโยบายในการจัดตั้งสำนักงานช้างแห่งชาติ เพราะช้างเลี้ยงไม่มีหน่วยงานไหนกำกับดูแล โดยตรง เพื่อที่จะมีการจัดการเรื่องการสำรวจประชากรช้างเลี้ยงอย่างจริงจัง เพื่อบริหารจัดการในการส่งเสริมภาคเอกชน รวมถึงขึ้นทะเบียนเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงช้าง เพื่อที่จะส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรเหล่านี้มีความสามารถในการเลี้ยงช้างต่อไปได้” ธีรภัทร กล่าว

ด้าน ศ.ปฏิบัติน.สพ.ดร.ฉัตรโชติ ทิตาราม ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า สาเหตุที่จำนวนช้างเลี้ยงนั้นลดลง ในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาด ของไวรัส โควิด19 จะมีตัวเลขชัดเจน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ปางช้างเอกชนก็จะควบคุมปริมาณช้างไม่ให้มีช้างเกิดใหม่ ให้เป็นภาระเพิ่มขึ้น เพราะรายได้ที่เข้ามาสวนทางกัน จึงทำให้การผสมพันธุ์และการให้ลูกของช้างนั้นลดลงไปด้วย
นอกจากนี้ปางช้างหลายแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันเรื่องของสวัสดิภาพสัตว์ และการถูกโจมตีเรื่องของการทารุณกรรมสัตว์ โดยเฉพาะเรื่องของการขี่ช้างท่องเที่ยว ที่มีแหล่งอยู่ข้างหลัง หลายๆ ปางช้างจึงมีการปรับเปลี่ยน ให้เป็นการท่องเที่ยว โดยการอาบน้ำช้าง การเดินเที่ยวร่วมกันแทนการขี่หลัง จึงทำให้ช้างที่ดุร้ายถูกถ่ายทอดเปลี่ยนมือไป โดยเฉพาะช้างตัวผู้ ทำให้อัตราการผสมพันธุ์และอัตราการเกิดค่อยๆ ลดลง
ขณะเดียวกันจำนวนลูกช้างที่เกิด ก็ประสบปัญหาติดเชื้อไวรัส เฮอร์ปีส์ ไวรัส ทำให้ลูกช้างเสียชีวิตลงไปบ้าง ปีละประมาณ 8-10 เชือก


ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่าฯ กล่าวด้วยว่าแนวทางการแก้ปัญหานี้ทุกภาคส่วนต้องค่อยๆ เริ่มปรับตัว โดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงช้าง ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เช่นลักษณะเลี้ยงดูให้ดีทั้งเรื่องของอาหาร โปรแกรมกิจกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงควาญช้างที่มีคุณภาพ ปัจจุบันก็มีหน่วยงานเข้ามาดูแล คือสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ก็จะมีควาญช้างหลายระดับ ซึ่งจะต้องสอบพัฒนาคุณภาพ ทั้งเรื่องของการเลี้ยงช้างให้ดี และความสามารถในการควบคุมช้าง ซึ่งจะช่วยยกระดับได้ เพราะช้างถือว่าเป็นสัตว์ประจำชาติ
เช่นปัจจุบันจะมีกฎหมาย 2 ฉบับ คือมาตรฐานปางช้าง ของสำนักงานมาตรฐานสินค้าการเกษตรแห่งชาติ ที่ออกกฎเรียบร้อยและมีการประเมิน ซึ่งถือว่าเป็นข้อบังคับที่ปางช้างทุกปางจะต้องผ่าน และ พ.ร.บ.สวัสดิภาพสัตว์ ที่แยกกฎหมายลูกออกมาเป็น กฎหมายสวัสดิภาพของช้าง เรื่องของการดูแล เรื่องกฎหมายเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยเรื่องการยกระดับการเลี้ยงช้าง และคุณภาพชีวิตของช้างให้ดียิ่งขึ้น
“ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะการเพิ่มหรือลดจำนวนช้าง จะขึ้นอยู่กับคนเลี้ยงช้างทั้งหมด ขณะที่สัตว์แพทย์ก็มีหน้าที่การดูแลสุขภาพช้าง ไม่ให้เจ็บป่วยล้มตาย รักษาอาการป่วยให้ดีขึ้น เพื่อคงไว้ซึ่งจำนวน แต่ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากเจ้าของช้าง เพราะถ้าการจัดการไม่ดี ก็จะทำให้ช้างเสียชีวิตได้ เพราะโรคของช้าง ประมาณ 90% มาจากการบริหารจัดการ หรือการเลี้ยง ที่ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ดังนั้นหากมีการจัดการที่ดี ก็จะทำให้อัตราการเจ็บป่วยของช้าง หรือ เสียชีวิต ลดลงได้”
