ฤดูร้อนที่แผดเผาและยาวนานผิดปกติของสหรัฐฯ ความร้อนจัดจากคลื่นความร้อน (Heatwave) กลายเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ปัญหานี้ทำให้หลายรัฐเริ่มตระหนักว่า “เครื่องปรับอากาศ” ไม่ใช่เครื่องใช้ฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาชีวิต นี่คือที่มาของ “โครงการแจกเครื่องปรับอากาศฟรี” ให้กับครัวเรือนที่ขาดแคลน โดยมีทั้งหน่วยงานรัฐ องค์กรการกุศล และภาคเอกชนร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อโลกร้อนจัด “ความเย็น” จึงเป็นเรื่องของความยั่งยืนและความเป็นธรรม
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน ไม่เพียงส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังเกี่ยวพันกับความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างลึกซึ้ง ในสหรัฐฯ มีมากกว่า 14 ล้านครัวเรือนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศใช้ โดยเฉพาะในชุมชนผิวสี ชาวละติน และกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงจากคลื่นความร้อน
ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสุขภาพของนิวยอร์ก เผยว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนกว่า 500 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตภายในบ้านของตัวเองเพราะเครื่องปรับอากาศเสีย หรือไม่มีไฟฟ้าใช้งานเพราะไม่สามารถจ่ายค่าไฟได้
เครื่องปรับอากาศ = ปัจจัยสี่ในยุคโลกร้อน?
“การเสียชีวิตจากความร้อนสามารถป้องกันได้ การใช้เครื่องปรับอากาศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับความร้อนในสหรัฐฯ หากไม่มีแอร์ จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัย”
— Kai Chen นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล ระบุ
ด้วยเหตุนี้ รัฐนิวยอร์กจึงเดินหน้าโครงการ Home Energy Assistance Program (HEAP) แจกเครื่องปรับอากาศให้ครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ล่าสุดยังขยายสิทธิ์ให้กลุ่มผู้ป่วยโรคหอบหืด ผ่านโครงการ Essentials Healthcare Plan ที่ดำเนินการภายใต้ระบบประกันสุขภาพของรัฐ
อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้กำลังเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ เนื่องจากการตัดลดงบประมาณจากรัฐบาลกลาง และการตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน

ภาคประชาสังคมก้าวเข้ามาเติมช่องว่าง
ในขณะที่ภาครัฐต้องเผชิญข้อจำกัดด้านงบประมาณ องค์กรไม่แสวงหากำไรก็พยายามเข้ามาเติมเต็มบทบาทสำคัญ เช่น ในเมืองซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ องค์กรการกุศล St.Vincent de Paul ได้แจกจ่ายเครื่องปรับอากาศให้กับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือมีปัญหาทางการแพทย์ โดยมีผู้ลงทะเบียนรอรับมากกว่า 2,700 คน และคาดว่าในปีนี้จะสามารถแจกจ่ายได้ถึง 1,000 เครื่อง
แต่การแจกจ่ายเครื่องปรับอากาศจำนวนมากต้องใช้เงินกว่า 110,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินบริจาคในปีนี้มีเพียง 75,000 ดอลลาร์ ทำให้ยังมีผู้ตกหล่นอีกจำนวนมาก
Kaytlynd Leinhart หัวหน้าโครงการระบุว่า การเข้าถึง “ความเย็น” ไม่เพียงเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยตรง เช่น การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตและการทำงานในแต่ละวัน
พอร์ตแลนด์ผุดโมเดลพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน
หนึ่งในตัวอย่างของการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือ “Cooling Portland” โครงการของเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ที่ร่วมมือกับองค์กร Earth Advantage ติดตั้ง “ปั๊มความร้อนประหยัดพลังงาน” ให้กับครัวเรือนที่มีความเสี่ยงสูง สำหรับปั๊มความร้อนมีข้อดีคือ ใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป และสามารถทำความร้อนได้ในฤดูหนาวอีกด้วย ทำให้เป็นทางเลือกที่ทั้งยั่งยืนและลดต้นทุนพลังงานได้มากถึง 20%
พอร์ตแลนด์ตั้งเป้าติดตั้ง 15,000 เครื่อง ภายในปี 2027 แต่สามารถทำสำเร็จได้ตั้งแต่กลางปีนี้ และมีแผนจะติดตั้งอีก 5,000 เครื่องในปี 2025 โครงการนี้ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติได้บางส่วน โดยในกลุ่มผู้รับบริการ มีถึง 1 ใน 3 ที่เป็นชาวผิวดำ และ 14% เป็นชาวฮิสแปนิก
โครงการนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากการเก็บภาษี 1% จากบริษัทยักษ์ใหญ่ในท้องถิ่น ภายใต้กฎหมายด้าน “ความยุติธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ” ที่พอร์ตแลนด์ผ่านประชามติมาตั้งแต่ปี 2018
ความท้าทายที่ยังไม่จบ
แม้จะมีความพยายามอย่างมาก แต่หลายโครงการยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งหมดได้ ปัญหาใหญ่อีกด้านคือการเข้าถึงสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย ที่มักไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการพลังงานประสิทธิภาพสูง ทั้งที่สหรัฐใช้เงินกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีกับโครงการเหล่านี้ แต่มีเพียง 3% ของครัวเรือนที่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะขั้นตอนซับซ้อนและเอกสารมากมาย
Laila Atalla ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรพลังงานสะอาด RMI ระบุว่า ความเท่าเทียมต้องเป็นหัวใจของการออกแบบนโยบายด้านพลังงาน โดยเสนอแนวทางเพิ่มเติม เช่น กฎหมายห้ามตัดไฟในช่วงคลื่นความร้อน หรือการขยายสิทธิให้ครัวเรือนสามารถเข้าถึงโครงการโดยไม่ติดข้อจำกัดทางรายได้ที่เข้มงวดเกินไป
ความเย็นคือ “สิทธิ” ไม่ใช่ “อภิสิทธิ์”
ในยุคที่ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความเย็นไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่ควรเป็น “สิทธิพื้นฐานของมนุษย์” โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงชีวิตจากความร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี
สหรัฐฯ กำลังเผชิญความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม และ เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแก่นของแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) โครงการแจกแอร์ฟรีและการใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เป็นสัญญาณบวกของการปรับตัวเพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและเป็นธรรมมากขึ้น แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อมีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากรัฐบาล ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อให้ทุกคน...มีสิทธิได้ “หายใจ” ในอากาศที่เย็นลง แม้โลกจะร้อนขึ้นทุกวัน