เคลียร์ชัดจบ! ‘บิ๊กต่าย-เต่า’ จบสวย ปมโยกย้ายบิ๊กสีกากี

11 ก.ย. 2568 - 08:50

  • เคลียร์ชัดจบ! ‘ผบ.ตร.’ ยันยึดหลักเกณฑ์ ‘พ.ร.บ.ตำรวจปี65’ โยกย้าย ’บิ๊กสีกากี’ เคร่งครัด ยึดหลัก 5 ข้อ 50 : 50 ทำอย่างละเอียด-รอบคอบ

  • ‘บิ๊กเต่า’ ไม่ติดใจ เกลี่ยปรับโผเหมาะสมแล้วขณะที่ ‘สุณัฐชา-ปธ.กมธ.ตำรวจ’ เผยบรรยากาศดี ไร้ปะทะคารม กมธ.เวทีกลางเคลียร์ใจ จบด้วยดี

เคลียร์ชัดจบ! ‘บิ๊กต่าย-เต่า’ จบสวย ปมโยกย้ายบิ๊กสีกากี

ที่รัฐสภาวันนี้ (11 ก.ย.) คณะกรรมธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกรรมาธิการฯ ได้ประชุมพิจารณาวาระข้อร้องเรียนของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งและโยกย้ายข้าราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ โผนายพลตำรวจ ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ 

โดยผู้ร่วมประชุมวันนี้ พบว่ามีข้าราชการตำรวจระดับสูงร่วมเข้าชี้แจง อาทิ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ,  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการบัญชาตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผบ.ตร. ในฐานะตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) , พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ และพล.ต.ต. ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รองผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ 

police-11-sep-2025-part2-SPACEBAR-Photo01.jpg

ทั้งนี้ ที่ประชุมไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนอยู่ร่วมสังเกตุการณ์ในห้องประชุม แต่หลังที่ประชุมเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ประธาน กมธ.ตำรวจ ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ในที่ประชุม ผบ.ตร. ได้ชี้แจงถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อทำโผโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจว่า ได้ยึดหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565 โดยยึดหลัก 5 ข้อ ทั้งความอาวุโส 50% และอีก 50% เป็นหลักเกณฑ์ของความรู้ความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์ อาทิ ประวัติการรับราชการ , ผลงานหรือการปฎิบัติงาน , ความประพฤติส่วนตัวและหน้าที่ และความประเมินความพึงพอใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่  

ซึ่งในกรณีของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มีความอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 94 ของ สตช. โดย ผบ.ตร. และ รองผบช.ก. ใช้เวทีกรรมาธิการตำรวจ ในการชี้แจงและรับฟังซึ่งกันและกัน เพื่อทำความเข้าใจถึงหลักการทำโผโยกย้ายตำรวจ ซึ่ง ผบ.ตร.ชี้แจงว่า ก่อนที่จะมีการเคาะโผให้กับนายกรัฐมนตรีนำเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ท่านได้มีการตั้งคณะกรรมการในการช่วยทำการกลั่นกรองบุคคลที่จะถูกเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น มาช่วยงานหลายชุดเพื่อช่วยพิจารณาเพิ่มความละเอียดรอบคอบ โดยจะมีบอร์ดเล็ก หรือบอร์ดกลั่นกรอง พิจารณาก่อน จากนั้นจึงนำขึ้นสู่บอร์ดใหญ่หรือ คณะกรรมการ กตร. ให้พิจารณาอีกครั้ง รวมถึงการใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาตามกฎ กตร.ปี 2567  มาบังคับใช้ร่วมกัน  

“ในที่ประชุมส่วนใหญ่ ผบ.ตร. ได้เวลาในการชี้แจงถึงเกณฑ์การพิจารณาในภาพรวม และการตอบคำถามข้อสงสัยในการทำโผตำรวจของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ราวชั่วโมงกว่า ขณะที่ รองผบช.ก. ได้รับฟังแล้วก็บอกว่า ไม่ติดใจในเรื่องนี้ เพราะมีการปรับโผให้กับหลายท่านที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งมีความเห็นพ้องกันว่าต่อจากนี้ หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดในการแต่งตั้งโยกย้ายให้คุยกันในองค์กรก่อน”

ประธาน กมธ.ตำรวจ กล่าว

ประธาน กมธ.ตำรวจ ยังเล่าว่า บรรยากาศในที่ประชุมไม่ดุเดือด ไม่มีการปะทะคารมใดๆ แต่เป็นการระบายความในใจของแต่ละฝ่ายมากกว่า พร้อมทั้งได้ขอบคุณกรรมาธิการตำรวจ ที่เปิดพื้นที่ให้ได้มีการปรับทำความเข้าใจกัน เพราะหากไม่มีเวทีกลางนี้ ก็ไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยหลังการประชุม ทั้งสองท่านได้ถ่ายภาพร่วมกัน รอง ผบช.ก. ได้ไหว้ ผบ.ตร. มีการตบไหล่ จับมือกัน ถือว่าลงด้วยดี และมีการโปรดเกล้ากันไปแล้ว 

police-11-sep-2025-part2-SPACEBAR-Photo02.jpg

ส่วนหลังจากนี้จะมีหลักประกันใด เกี่ยวกับการทำโผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในระดับชั้นสัญญาบัตรไม่ให้มีการร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรมในการทำโผระดับล่างๆ เข้ามาอีก  ประธาน กมธ.ตำรวจฯ ระบุว่า เป็นเรื่องของอนาคต แต่อย่างน้อยการที่กรรมาธิการตำรวจสภาฯ รับพิจารณาในกรณีนี้ก็เพื่อให้ปรากฏเป็นมาตรฐานหลักเกณฑ์ว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายโผตำรวจระดับนายพล หรือระดับชั้นสัญญาบัตรทั่วประเทศ  ต้องยึดหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 65 และยึดหลักความอาวุโส และผลงานเป็นที่ประจักษ์เพื่อป้องกันไม่ให้มีเรื่องร้องเรียนต่างๆเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งผบ. ตร. ก็ยืนยัน ว่าในการพิจารณาหลักเกณฑ์โผตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตร ก็จะยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565 อย่างเคร่งครัด

police-11-sep-2025-part2-SPACEBAR-Photo03.jpg
police-11-sep-2025-part2-SPACEBAR-Photo04.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์