ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การคงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ ในทางศาสนาก็มีโทษอยู่แล้ว ถึงขั้นปาราชิก ต้องให้ออกไป
ภูมิธรรม กล่าวว่า ได้เรียนไปว่าอาจจะต้องมีการแก้กฎหมาย ซึ่งได้คุยกับพระมหาวีรวงศ์ด้วย ท่านก็บอกว่า ขอให้ดำเนินการไปอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าใครเกี่ยวข้อง ทางฆราวาส เราก็จะหาทาง ทำให้เกิดความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งท่านก็บอกว่ากฎหมายสงฆ์เดิมก็ดีอยู่แล้ว แต่ขอให้หาทางเราหาแนวทางเพิ่มอำนาจ และอะไรต่างๆ รวมถึงบทลงโทษให้มากยิ่งขึ้น และเอาจริงเอาจังมากขึ้น ก็ได้แจ้งท่านไปว่าหากดำเนินการเสร็จแล้วจะมากราบบังคมทูลท่านเพื่อให้ทราบ และนำเข้ามหาเถรสมาคม (มส.)
ภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ได้คุยกับ สุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)แล้ว เรื่องนี้ก็คงต้องร่วมมือกัน กับผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องนี้ทั้งหมด ก็จะหาทางในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อไป โดยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะส่วนเฉพาะบุคคล แต่ก็ไปกระทบกับศาสนา ซึ่งท่านก็ตรัสว่า โลกโซเชียล เดี๋ยวนี้รุนแรง บางทีก็มีอะไรที่รุนแรงเกินไป เราก็ต้องช่วยดูให้เข้มข้น ซึ่งครั้งนี้ถือว่า จะเป็นการสังคายนาทั้งหมด
ทั้งนี้ ทางตำรวจบอกว่า สำนักพุทธฯ ระบุว่า อาจไม่ให้ความร่วมมือ เพราะมีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ภูมิธรรม กล่าวว่า “ไม่มีหรอก ท่านก็ตรัสว่าให้จัดการให้เด็ดขาด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ ภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ ตอนนี้ได้คุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยให้พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำเต็มที่แล้วมาตรวจทานกัน ขณะนี้เป็นเรื่องฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งได้ให้พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ดำเนินการให้เรียบร้อย และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการเสริม