‘เคเอ็นยู’แถลงการณ์ตอบโต้เมียนมา ยันไม่มีเอี่ยวสแกมเมอร์ ใน 'เคเคปาร์ค'

27 ต.ค. 2568 - 04:22

  • ‘เคเอ็นยู’ แถลงการณ์โต้เมียนมา จงใจป้ายความผิด ย้ำชัดไม่มีเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ใน ‘เคเคปาร์ค’

  • ด้าน ‘ทหารเมียนมา-BGF’ เดินหน้าทำลายศูนย์กลางสแกมเมอร์ ระเบิดอาคารทุนเทา 3 วันรวด

  • ขณะที่ยอดผู้หลบหนีเข้าเมืองสะสม 5 วัน 1,299 คน ผู้เชี่ยวชาญชี้ เป็นเกมลวงโลก เชื่อปราบสแกมเมอร์ไม่หมด เหตุเป็นพื้นที่ผลประโยชน์หลากชาติพันธุ์

‘เคเอ็นยู’แถลงการณ์ตอบโต้เมียนมา ยันไม่มีเอี่ยวสแกมเมอร์ ใน 'เคเคปาร์ค'

คณะกรรมการบริหารกลาง KNU-สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ตอบโต้ กรณี พล.ต. ซอ มิน ตุน โฆษกคณะรัฐประหารเมียนมา พร้อมสื่อบางสำนัก กล่าวหาสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ว่า แสวงหาผลประโยชน์จากการเช่าที่ดินและเรียกเก็บค่ารักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์เคเคปาร์ค (KK Park) ซึ่งตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo06.jpg

แถลงการณ์เคเอ็นยู (KNU) ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวทั้งหมด พร้อมทั้งชี้แจงกรณีที่ดินขนาด 100 เอเคอร์ที่โฆษกคณะทหารเมียนมาอ้างถึง บริษัท Mu La Ei Ahlin นั้น ได้ยุติความร่วมมือกับบริษัท Trans-Asia International Holding Group (ประเทศไทย) ในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา และแยกพื้นที่ต่างหากจากที่ดินขนาด 500 เอเคอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์ที่ KK Park โดยสถานที่ทั้ง2แห่ง อยู่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร

ดังนั้น เคเอ็นยู (KNU) จึงขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การหลอกลวงทางออนไลน์ที่ KK Park ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับ KNU ทั้งสิ้น โดยขอให้ดูภาพถ่ายดาวเทียมเป็นการยืนยัน

Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo07-1.jpg

แถลงการณ์ KNU ยังปฏิเสธทั้งข้อมูลเท็จและข้อกล่าวหาต่อ KNU เนื่องจากโฆษกคณะทหารเมียนมาจงใจเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อปกปิดผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหาร ที่ถูกกล่าวหาว่าได้รับจากปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์ภายในเมียนมา

รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง แจ้งว่า  ทาง บก.ควบคุมพื้นที่ 2 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF)  บก.ควบคุมพื้นที่ 2 กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง ( KNA) ร่วมกับกองพลทหารราบเบาที่ 22 ของกองทัพเมียนมา ได้ทำการจุดระเบิด จำนวน 1 ลูก บริเวณพื้นที่อาคารที่กำลังก่อสร้างใหม่ ในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีนเคเคปาร์ค (MU 534382) บ้านเองจีเหมี่ยง จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ผลการระเบิดทำให้อาคารก่อสร้างใหม่ดังกล่าวได้รับความเสีย 1 หลัง

ทั้งนี้ กองกำลัง BGF/KNA และ พล.ร.เบา 22 ต้องการจุดระเบิดทำลายอาคารใหม่ทางด้านทิศใต้ภายในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีน เคเคปาร์ค โดยมีแผนที่จะทำลายอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่รายรอบกลุ่มอาคารที่เป็นศูนย์กลางสแกมเมอร์เสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะทำลายอาคารต่างๆ ที่อยู่ภายในกลุ่มอาคารดังกล่าวซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของการกระทำผิดต่อไป

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้มีบุคคลต่างด้าว ต่างชาติ และชาวไทย ที่หลบหนีเข้าเมืองมายังชายแเดนด้านจังหวัดตากจำนวนมาก ยอด ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2568  เวลา 16.00 น. มีจำนวน 1,299 คน แบ่งเป็นชาย 1,129 คน และหญิง 170 คน ผ่านการคัดกรองแล้ว 1,098 คน โดยพบว่ามีทั้งหมด 28 สัญชาติ เป็นชาวอินเดียมากที่สุด รองลงมาเป็นชาวจีน เวียดนาม แอฟริกา และชาวเอธิโอเปีย

Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo02.jpg
Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo04.jpg
Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo03.jpg

แหล่งข่าวจากผู้เชี่ยวชาญชายแดนฝั่งเมียนมา เปิดเผยว่า มีการระเบิดอาคารที่ก่อสร้างใหม่ ภายในโครงการเคเคปาร์ค จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยสามารถมองเห็นภาพสีขาวพวยพุ่งเป็นเวลาหลายนาที และยังได้ยินเสียงระเบิดเสียงกึกก้องสนั่นมายังฝั่งไทย บริเวณตรงข้ามบ้านแม่กุท่าซุงใหม่ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก

โดยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่าน แรงระเบิดอาคารในฝั่งเมียนมา ทำให้มีเศษปูนลอยข้ามมาตกบนหลังคาของบ้านเรือนราษฎร์ในฝั่งไทยเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ผู้เชี่ยวชาญชายแดน ยังระบุว่า สำหรับสาเหตุของการระเบิดอาคารก่อสร้างใหม่ทิ้ง ที่ทหารเมียนมา และทหาร BGF อ้างว่าเป็นฐานที่ตั้งของแก๊งสแกมเมอร์นั้น เชื่อว่า เป็นการลดแรงปะทะจากสังคมโลก อีกทั้งมีการวางกำลังควบคุมการเข้าออกในพื้นที่เป้าหมายอย่างเข้มงวด และไม่มีภาพปรากฏให้เห็นถึงซากตึกแต่อย่างใด เพราะในข้อเท็จจริง แม้ว่าจะทำลายตรงจุดเคเคปาร์ค ก็มั่นใจว่าจะมีการเคลื่อนย้ายไปฝังตัวตามแนวชายแดนมียนมาตลอด 40 กิโลเมตร

และที่ผ่านมา เป็นที่รู้กันว่า ทหารเมียนมา และทหาร BGF ต่างได้ผลประโยชน์จากการปล่อยให้มีแก๊งสแกมเมอร์ การค้าของผิดกฎหมาย และยังเริ่มพบว่ามีการตรวจจับยาเสพติด เพิ่มมากขึ้น

“จึงมองว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นเพียงการหลอกลวงชาวโลก และสร้างความชอบธรรมให้กับประเทศเมียนมา ในเวทีอาเซียน

สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสลับซับซ้อนของทุนสีเทา และแก๊งสแกมเมอร์มีมากกว่าประเทศกัมพูชาหลายเท่าตัว เพราะเป็นที่มีอิทธิพลหลากชาติพันธุ์ อีกทั้งเป็นพื้นที่อยู่ในยุทธศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจอย่างจีน และสหรัฐอเมริกา

มากไปกว่านั้น พื้นที่แนวตะเข็บชายแดนเมียนมา ตรงข้ามกับประเทศไทย ไม่ได้เป็นแค่เพียงพื้นที่ตั้งขององค์การอาชญากรรมข้ามชาติแล้ว ยังเป็นพื้นที่เสี่ยงในการค้ามนุษย์ และเส้นทางยาเสพติดอีกด้วย”

Karen-KNU-issues-statement-in-response-to-Myanmar-confirming-SPACEBAR-Photo05.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์