ญี่ปุ่นสร้างสถิติอุณหภูมิสูงสุดใหม่สองครั้งในวันเดียว เมื่อวันอังคาร โดยปรอทพุ่งแตะระดับ 41.6 องศาเซลเซียส ก่อนจะทะยานต่อไปถึง 41.8 องศาเซลเซียส ตามรายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา พร้อมเตือนว่าอุณหภูมิอาจสูงขึ้นอีกในอนาคต
คลื่นความร้อนทั่วโลก
อุณหภูมิทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สร้างรูปแบบสภาพอากาศผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิที่แผดเผาในเมืองอิเซซากิ วันอังคาร ได้ทำลายสถิติเดิมที่ 41.2 องศาเซลเซียส ซึ่งเพิ่งบันทึกไว้ที่ภูมิภาคฮโยโกทางตะวันตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ฤดูร้อนของญี่ปุ่นในปีที่แล้วร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ร่วมกับปี 2023 ตามด้วยฤดูใบไม้ร่วงที่อบอุ่นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกเมื่อ 126 ปีก่อน เมืองเกียวโต แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ปรอทพุ่งแตะ 40 องศาเซลเซียสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกที่จุดสังเกตการณ์ใดๆ ของเมือง ซึ่งเก่าแก่ที่สุดเปิดมาตั้งแต่ปี 1880 และใหม่ที่สุดในปี 2002 บันทึกอุณหภูมิสูงเช่นนี้
ผลกระทบต่อธรรมชาติและการเกษตร
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าต้นซากุระอันเป็นที่รักของญี่ปุ่นกำลังบานเร็วขึ้นเนื่องจากภูมิอากาศที่อุ่นขึ้น หรือบางครั้งไม่บานเต็มที่ เพราะฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวไม่หนาวเย็นพอที่จะกระตุ้นการออกดอก
ยอดเขาหิมะอันโด่งดังของภูเขาไฟฟูจิหายไปเป็นระยะเวลานานที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ในปีที่แล้ว โดยไม่ปรากฏจนกระทั่งต้นเดือนพฤศจิกายน เทียบกับค่าเฉลี่ยที่มักเห็นได้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม
เขื่อนและนาข้าวหลายแห่งทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เกษตรกรบ่นว่าความร้อนจัดผสมกับการขาดฝนทำให้การเพาะปลูกข้าวล่าช้า ปริมาณน้ำฝนในเดือนกรกฎาคมต่ำในพื้นที่กว้างขวางของญี่ปุ่น โดยภูมิภาคทางเหนือที่หันหน้าสู่ทะเลญี่ปุ่นมีปริมาณฝนต่ำเป็นประวัติการณ์
เกาหลีใต้เผชิญความร้อนจัด
เกาหลีใต้ก็ประสบกับเดือนกรกฎาคมที่ร้อนเป็นอันดับสองเช่นกัน ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ย 27.1 องศาเซลเซียส ตามข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเก็บข้อมูลดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1973 เดือนกรกฎาคมที่ร้อนที่สุดในเกาหลีใต้เกิดขึ้นในปี 1994 เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยแตะ 27.7 องศาเซลเซียส
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเร่งเตือนประชาชนให้หลบร้อนในห้องปรับอากาศเพื่อหลีกเลี่ยงโรคลมแดด โดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมีความเสี่ยงสูง ในประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากโมนาโก
‘อุณหภูมิทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สร้างรูปแบบสภาพอากาศผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ’
ยุโรปตะวันตกก็เผชิญกับเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตามรายงานของ Copernicus หน่วยตรวจสอบสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป การวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียส ผลักดันให้อุณหภูมิเข้าสู่ระดับอันตรายสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงหลายพันคน
เมื่อโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ ประเทศต่างๆ จะต้องปรับตัวอย่างไรกับความท้าทายใหม่นี้? คำถามนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของนักวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แต่กลายเป็นความจริงที่ทุกคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน