‘บิ๊กเต่า’ ชี้ สร้างความเป็นธรรม ด้วย ‘พ.ร.บ.ตำรวจ 65’

11 ก.ย. 2568 - 04:43

  • ‘บิ๊กเต่า’ เข้าแจง ‘กมธ.ตำรวจ’ ลั่นสิ่งที่เรียกร้องได้รับการเปลี่ยนแปลงแล้ว ชี้ อยากให้สตช.ใช้ ‘พ.ร.บ.ตำรวจ 65’ สร้างความเป็นธรรมกับข้าราชการทุกคน

  • พร้อมแฉยังพบ ‘อำนาจเก่า’ จุ้นชักใยตั้งเจ้าอาวาสวัดบางคลาน-เงิน 30 ล้าน-ซื้อขายพระ พบเส้นเงินโอนชื่อคนอื่น ลั่นก่อนหน้านี้ใช้ ‘หลักรัฐศาสตร์’ ไม่สงบจึงต้องใช้ ‘นิติศาสตร์’ ดำเนินคดี

  • ชี้เป้า ‘ตลกลึกลับซับซ้อน’ โผล่มาในวันจับ ‘ทิดอลงกต’ โยงเอี่ยวเส้นเงิน เจอพิรุธเพียบ ยังไม่มารายงานตัว

‘บิ๊กเต่า’ ชี้ สร้างความเป็นธรรม ด้วย ‘พ.ร.บ.ตำรวจ 65’

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.)กล่าวถึงการมาชี้แจงต่อกรรมาธิการการตำรวจกรณีที่เรียกร้อง เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมว่า ต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ในการพิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถ ให้กับข้าราชการตำรวจทุกคนที่เข้าหลักเกณฑ์ และไม่ต้องการให้ตัดสิทธิ์ในการพิจารณา จึงอยากให้พิจารณาตั้งแต่ชั้นระดับพลเอกจนถึงสารวัตร ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกระบวนการแต่งตั้งได้ผ่านไปแล้วจะยับยั้งได้อย่างไร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ไม่ได้ต้องการยับยั้ง แต่ต้องการแค่ให้สตช. นำ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับนี้มาใช้เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อนข้าราชการ ในการสร้างขวัญและกำลังใจและในการทำงานแต่สิ่งที่เราได้ร้องไป ก็มีการเปลี่ยนเอาผู้ที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมา คือ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ และพล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ซึ่งตรงนี้พอใจ ดังนั้นจึงไม่ติดใจเรื่องการแต่งตั้งแล้ว เพราะเราถือว่าเวลาเราเรียกร้อง เราอยากสร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นกับสตชมากกว่า ที่ผ่านมาจนเคยเรียกร้องให้ผู้กำกับเบิ้ม ที่ยิงตัวตายที่จะถูกดำเนินคดี ม.157 ในขณะที่การทำหน้าก็ทำอย่างเต็มที่ จึงต้องออกมาเรียกร้อง และอยากให้สตช.ให้ความสำคัญกับพ.ร.บ.ฉบับนี้ และเอากลับมาใช้อย่างเป็นธรรมและจริงจัง นี่คือสิ่งที่ต้องการ

รองผบช.ก. กล่าวต่อว่า วันนี้ทราบว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาชี้แจงต่อกรรมาธิการตำรวจด้วย ก็เห็นอยู่ด้วย เพื่อที่จะพูดคุยทำความเข้าใจ อย่างน้อยก็เป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนมาก ที่อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานอย่างถูกต้องชอบธรรม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางไปตรวจสอบวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่มอำนาจเก่า ที่ยังคอยเลือกตัวบุคคลเลือกเจ้าอาวาสเลือกรักษาการมาทำให้เกิดความขัดแย้งอีกรอบ เราจึงพยายามไปแก้ปัญหาเมื่อวานนี้เป็นเรื่องของการร้องเรียนการทุจริต และเรื่องเงินที่หายไปประมาณ 30 กว่าล้านบาท ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจึงจะตรวจสอบเงินดังกล่าวและเรื่องการซื้อขายพระ ที่เวลาโอนมาเป็นชื่อของคนอื่น เป็นการแก้ปัญหาวัดบางคลานให้เดินต่อไปได้ และเมื่อวานนี้มติที่ประชุมของเจ้าคณะจังหวัดและนายอำเภอ ทหาร ตำรวจ ปปง. ป.ป.ท. รวมทั้ง 18 อรหันต์มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรซึ่งเป็นผู้ที่ประชาชนเคารพนับถือ ให้มารักษาการแทนเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน

ส่วนเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องหรือกระทบกับใครบ้างนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนแรกเราใช้หลักรัฐศาสตร์เข้าไป ไม่ต้องการไปรื้อฟื้น แต่ต้องการให้วัดเดินหน้าไปได้ คดีต่างๆ มีการยอมความสั่งไม่ฟ้องจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่จบ เมื่อวานนี้เป็นสัญญาณที่ดี ที่คณะกรรมการทั้งหมดมีมติให้รองเจ้าคณะจังหวัดมารักษาการแทนจนกว่าจะจัดตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่ได้ ส่วนการดำเนินคดีกับคนทุจริตก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่สงบเราต้องเอานิติศาสตร์เข้าไปคือการดำเนินคดี ใครผิดก็ว่าไปตามนั้น โดยได้ตีกรอบเวลาดำเนินการไม่นาน เพราะได้ไปล่อซื้อพระแล้ว พอมีการซื้อขายโดยมีการโอนเงินปรากฏเป็นชื่อของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระ ซึ่งได้รู้เส้นเงินแล้วว่า มีผู้เกี่ยวข้องแน่นอน เราอยากให้เงินทุกบาทเข้าวัด ไม่อยากให้เข้าตัวบุคคล ใครเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.จรูญเกียรติยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วยว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัว และยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะ ว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่

เมื่อถามว่า เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยเห็นโผล่ในวันที่ ทิดอลงกต ถูกจับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์