พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมสอบปากคำ ทิดอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และ หมอบี เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล สองผู้ต้องหาในคดียักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ และฟอกเงิน
โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. , ป.ป.ช. , ป.ป.ง. และ สตง.อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 17 จุด และอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุม เนื่องจากคดีนี้มีข้อมูลค่อนข้างเยอะ และบางเหตุการณ์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 30 ปีแล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้พบว่าเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับวัด
ส่วนการสอบปากคำทิดอลงกต เบื้องต้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เจ้าตัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้ข้อมูลทุกอย่างที่เรามีข้อสงสัย และยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าไม่มีการบังคับให้ทิดอลงกตลาสิกขา เจ้าตัวยอมลาสิกขาเอง และยังเทศนาให้ประชาชนและตำรวจที่อยู่ในห้องฟัง โดยประเด็นที่เทศน์เป็นเรื่องเกี่ยวกับกิเลสของคน และการดำเนินชีวิต การปฏิบัติตนของพระภิกษุ
“โดยจิตใจ ท่านเป็นพระที่มีเมตตา เราก็ได้พูดคุยกับท่านถึงความดีที่ท่านเคยสร้าง แต่เมื่อมีเงินจำนวนมากเข้ามา ท่านก็ได้กระทำในสิ่งที่ผิด และท่านก็สำนึกในสิ่งที่ทำ จึงยอมลาสิกขาโดยสมัครใจ ไม่มีการบังคับขู่เข็ญใดๆ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ

ส่วนพฤติการณ์ในการกระทำผิดของทิดอลงกตน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบว่ามีเงินมากเข้ามาเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคให้วัด เบื้องต้นอยู่ในระดับ ‘พันล้านบาทขึ้นไป’ แต่จำนวนที่แน่ชัดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เบื้องต้นมีข้อสังเกตว่าเงินบริจาคที่เข้ามา ‘มีมากเกินกว่าจะนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคเอดส์’ ที่เป็นวัตถุประสงค์เดิมของการขอรับบริจาค โดยพบว่าเงินดังกล่าวภูดนำไปใช้ในการซื้อที่ดิน สร้างสนามฟุตบอล และลงทุนในรูปแบบของบริษัท ซึ่งบางแห่งมีกำไร ขณะที่บางแห่งก็ขาดทุน ซึ่งอดีตพระอลงกตนำเงินไปใช้วัตถุประสงค์กว่า 10 ปีแล้ว
“วัดมีเงินบริจาคมากจากความศรัทธา แต่เมื่อศรัทธามีมากเกินควร จนเกินขอบเขตของการช่วยเหลือผู้ป่วย ก็อาจกลายเป็นการเปิดช่องให้เกิดการใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ เชื่อว่าในระยะแรก อดีตพระอลงกตอาจทำไปด้วยจิตศรัทธา แต่เมื่อเงินเข้ามาจำนวนมาก ก็มีการนำไปหมุนเวียนใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ซึ่งดำเนินการมาแล้วกว่า 10 ปี” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ
ส่วนการสอบปากคำของหมอบี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า หมอบียังให้การไม่เป็นประโยชน์มากนัก โดยภาพรวมของผู้ที่เกี่ยวข้องขณะนี้ยังเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับวัด ทั้งในเรื่องการเงิน การถือครองทรัพย์สิน การบริหารจัดการมูลนิธิ และการจัดการที่ดิน
ส่วนเรื่องใบสุทธิ ที่มีชื่อของ นายอลงกต พลมุข ในการบวชครั้งแรก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ขณะนี้พบเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบใบสุทธิทั้งเล่มเก่าและเล่มใหม่ ประเด็นช่วงเวลาที่หายตัวไป และประเด็นเรื่องการไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความชัดเจน
เมื่อถูกถามว่าเรื่องใบสุทธิอาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำว่า หากมีการปลอมแปลงก็ถือว่าเป็นความผิดอาญาอยู่แล้ว
สำหรับยอดเงินที่เกี่ยวข้องกับหมอบี พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า คดีหลักคือกรณีบัญชีใจฟ้า ซึ่งมีสารตั้งต้นประมาณ 300 ล้านบาท โดยจะมีการขยายผลต่อไปว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับบัญชีนี้บ้าง รวมถึงการตรวจสอบทรัพย์สินของหมอบีและบุคคลใกล้ชิดว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิดหรือไม่ โดยจะประสาน ป.ป.ง. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญที่พบในการตรวจสอบคือ การโอนเงินแล้วกดออกมาเป็นเงินสดเกือบทั้งหมด ทำให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ยาก ต่างจากกรณีอื่นที่มีธุรกรรมที่เชื่อมโยงกัน ส่วนการดำเนินการจับกุม ทิดอลงกตเมื่อคืนนี้ เป็นผลจากการเฝ้าติดตามพฤติการณ์ และพบว่าอาจมีความเสี่ยงที่จะหลบหนี จึงดำเนินการจับกุมตามหมายจับ