‘เชียงใหม่’ เร่งพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ บริการประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหารถติดในเมือง

25 ก.ย. 2568 - 05:36

  • เชียงใหม่เร่งพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมือง ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหาจราจรติดขัดช่วงเวลาเร่งด่วน

  • อบจ.เตรียมเปิดให้บริการรถโดยสารไฟฟ้า (EV Bus) 3 เส้นทางเชื่อมต่อภายในเมือง ยกระดับการเดินทางตอบโจทย์กับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคน

‘เชียงใหม่’ เร่งพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ บริการประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ปัญหารถติดในเมือง

ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนถนนทุกสายในตัวเมืองเชียงใหม่ จะแออัดไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์เต็มทุกช่องถนน โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดจุดแยก ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ที่จะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัญหาการจราจรติดขัด เกิดจากปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันจังหวัดเชียงใหม่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ยังไม่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo02.jpg

ศลิษา ทองเหลือ ประชาชนชาวเชียงใหม่ กล่าวว่า ส่วนตัวนั้นจะต้องทำงานในเมืองและต้องขับรถจากอำเภอรอบนอกเข้าไปในเมืองระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากช่วงเช้านั้นการจราจรจะติดขัด จึงเลือกวิธีหลีกเลี่ยงโดยการใช้รถมอเตอร์ไซค์แทนการขับรถยนต์ เพราะหากขับรถยนต์เข้าไปนั้นจะต้องใช้เวลานานมาก เพราะรถติดหนัก ติดทุกบริเวณแยกไฟแดง เพราะชั่วโมงเร่งด่วน ก็จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางจากอำเภอรอบนอกเข้าสู่ตัวเมืองด้วยเช่นกัน

ศลิษา กล่าวด้วยว่า “ปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้วส่วนตัวมองว่า ในจังหวัดเชียงใหม่ของเราไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีพอที่จะเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนทั่วไปนั้นใช้บริการขนส่งมวลชนเป็นหลัก เพราะปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ใช้รถส่วนตัว ขณะเดียวกันขนส่งมวลชนที่มีอยู่ อย่างเช่นรถเหลืองหรือรถแดง ก็ค่อนข้างที่จะไม่ได้มาตรฐานหลายด้าน ทั้งเรื่องของราคาที่ไม่เป็นมาตรฐาน และเรื่องของเวลา หากเราเร่งรีบที่จะไปทำธุระรถโดยสารเหล่านี้ค่อนข้างที่จะไม่ตรงเวลาบางทีต้องรอนาน”

“ส่วนตัวมองว่าอยากให้จังหวัดเชียงใหม่นั้นมีระบบขนส่งมวลชนที่ดีและมีประสิทธิภาพ รวมถึงราคาที่เป็นมาตรฐานไม่สูงมากนักที่ประชาชนทุกคนจับต้องได้และมีความตรงต่อเวลา ถ้าหากมีสิ่งเหล่านี้เชื่อว่าประชาชนหลายคนจะเลือกที่จะใช้ขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้อย่างยั่งยืน”

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo06.jpg

ด้าน สมชาติ วัฒนากล้า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ล่าสุดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.) ได้เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ คือหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาการจราจรติดขัดของจังหวัดเชียงใหม่ ยกระดับการพัฒนาการเดินทางภายในเมือง เพื่อที่จะตอบโจทย์กับคุณภาพชีวิตของทุกคนด้วยรถโดยสารไฟฟ้า หรือ EV Bus

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-PhotoSQ01.jpg

“โดย รถ EV Bus มีทั้งหมด 3 เส้นทาง ได้แก่ สาย 6 รอบเมืองเชียงใหม่ เริ่มต้นและสิ้นสุดที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สาย18 เริ่มต้นสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 ผ่านสถานีรถไฟเชียงใหม่ สิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย และ สาย 20 เริ่มต้นสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 ผ่านสถานีรถไฟเชียงใหม่และสิ้นสุดที่ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่” 

“การให้บริการรถ EV Bus ทั้ง 3 สาย คิดค่าบริการตลอดสายไม่เกิน 15 บาท โดย 3 เส้นทางหลักนี้ จะครอบคลุมพื้นที่ในเมืองทั้งหมดเพื่อนำร่องก่อน โดยเป็นการบริหารงานที่ภาครัฐจะเข้ามาลงทุนก่อน เพื่อตอบโจทย์ให้กับคนเชียงใหม่ในการเดินทาง” รองนายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าว

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo04-1.jpg

ขณะที่ ผศ.ดร.ปรีดา พิชยาพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า การเดินทางคือการลงทุน ในอนาคตกลุ่มผู้สูงอายุจะมากขึ้นโดยจังหวัดเชียงใหม่มีอันดับที่ 4 ของประเทศ รวมถึงชาวต่างชาตินิยมมาอยู่เชียงใหม่ ระบบการจัดระบบขนส่งสาธารณะเป็นองค์ประกอบหนึ่งเพื่อจะช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ถ้ามีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีจะช่วยลดปัญหาทั้งเรื่องของการจราจรติดขัดและมลพิษ 

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo01.jpg

ผศ.ดร.ปรีดา กล่าวต่อว่า การขนส่งสาธารณะต้องดูรอบด้าน ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก 6 ด้าน คือ

1.โครงข่ายขายเส้นทางและระบบ ต้องมีการออกแบบให้เหมาะสม คลอบคลุมกับปริมาณคนใช้

2.ระบบสาธารณูปโภคสนับสนุน เช่น จุดจอดรถ ศูนย์ซ่อมบำรุง

3.มีระบบค่าตั๋วและค่าโดยสาร ราคาที่เหมาะสมและสะดวกต่อการเชื่อมต่อ

4.สิ่งแวดล้อม และต้องดูการยอมรับของประชาชน ซึ่งเป็นที่มาของวันนี้ในการนำข้อคิดเห็นต่างๆ คนไปใช้เพื่อออกแบบให้ครอบคลุมและสอดคล้อง

5.ต้องมีการลงลงทุนและผลตอบแทนที่เหมาะสมขนส่งจะเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องจัดให้

6.การบริหารจัดการ ต้องปลอดภัยเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ใช้ระบบเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้คนมาใช้ และสามารถดำเนินการได้โดยท้องถิ่น

“การจัดระบบขนส่งสาธารณะจำเป็นต้องคำนึงในเรื่องของการคัดเลือกระบบสาธารณะหลักวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และการลงทุน เน้นความสะดวกให้คนใช้มากขึ้นเทคโนโลยีต้องเหมาะสมกับคนใช้ ซึ่งขนส่งระบบสาธารณะเฉพาะในเมืองเชียงใหม่แต่ละวันมีคนใช้ถึง 2 ล้านคน ปัจจุบันไม่ใช่ทุกคนใช้ระบบที่เหมาะสม ซึ่งต้องมีความยั่งยืน วางแผนต้องสอดคล้องกับเงินและงบประมาณ ที่สำคัญลักษณะกายภาพของเมือง และบริหารจัดการได้โดยท้องถิ่น”

ผศ.ดร.ปรีดา พิชยาพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช.

สำหรับสถานการณ์การจราจรในเชียงใหม่ในปัจจุบัน พบว่ามีรถยนต์ 200,000 – 300,000 คัน และจักรยานยนต์ 700,000 – 800,000 คัน และมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงปีละ 2% นอกจากนี้ยังมีคนจากนอกพื้นที่เดินทางเข้ามาทำงานและเรียนในเมืองอีกวันละกว่า 20,000 คน

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo05-3.jpg

ที่ผ่านมาการขนส่งสาธารณะของเอกชนในเชียงใหม่ประสบปัญหาความไม่ตรงเวลา เส้นทางที่ไม่ครอบคลุม และสภาพป้ายรถเมล์ที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในการใช้บริการ ขณะที่ภาครัฐติดปัญหาเรื่องกฎหมาย อำนาจหน้าที่ขอบเขตของแต่ละหน่วยงาน ที่ทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายสีแดงเชียงใหม่ ระยะทาง 15.80 กม. วงเงินลงทุน 27,211 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเหมาะสม โดยการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ได้นำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยคาดว่าอนาคต จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติในปี 2568 นี้ และเริ่มสร้างในปี 2570 คาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการได้เร็วที่สุดปี 2573

Accelerate-the-development-of-Chiang Mai-public-transportation-SPACEBAR-Photo03-2.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์