‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ สัญลักษณ์สูงสุดแห่งพระราชอิสริยยศ บทสนทนาระหว่าง “กาลเวลา” กับ “ความศักดิ์สิทธิ์”

26 ต.ค. 2568 - 01:33

  • ‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ เครื่องสูงในราชสำนักของไทย

  • ถวายพระเกียรติสูงสุด ‘พระพันปีหลวง แม่ของแผ่นดิน’ เทียบเท่าพระมหากษัตริย์

‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ สัญลักษณ์สูงสุดแห่งพระราชอิสริยยศ บทสนทนาระหว่าง “กาลเวลา” กับ “ความศักดิ์สิทธิ์”

ในวังหลวงของสยาม มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เป็นเพียง “เครื่องสูง” แต่คือ สัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และความต่อเนื่องของประเพณีราชสำนักของไทย นั่นคือ ‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ 

Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo01.jpg

ฉัตรขาว 9 ชั้น ที่ปักเหนือพระราชบัลลังก์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเหนือพระบรมโกศ เมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จสวรรคต

จาก “ผ้าตาด” สู่ “ผ้าขาวขลิบทอง”

ย้อนกลับไปในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ นพปฎลมหาเศวตฉัตรเดิมหุ้มด้วย “ผ้าตาด” สีทอง แต่ในรัชกาลที่ 4 โปรดให้เปลี่ยนเป็น “ผ้าขาวขลิบทองแผ่ลวด” มีระบายสามชั้น ห้อยอุบะจำปาทอง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนแนวคิดใหม่ของยุคนั้น ที่ผสมระหว่าง ความสง่างามแบบดั้งเดิม และ ความเรียบขาวบริสุทธิ์แบบตะวันตก ช่วงเวลาที่ “สยาม” เริ่มเปิดรับโลกสมัยใหม่ แต่ยังคงยึดรากแห่งราชประเพณีไว้อย่างมั่นคง

Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo02-1.jpg

‘เครื่องสูง’ ที่เปี่ยมความหมาย

‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ ไม่ใช่เพียงเครื่องประกอบพระราชพิธี หากแต่เป็น เครื่องราชกกุธภัณฑ์สูงสุด เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงรับน้ำอภิเษกแล้ว พระราชครูพราหมณ์จะเชิญฉัตรนี้ขึ้นถวายเหนือพระเศียร เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่ง “การขึ้นครองราชย์โดยสมบูรณ์”

จากนั้น ฉัตรนี้จะถูกกางกั้นเหนือพระราชบัลลังก์ในพระที่นั่งสำคัญ เช่น พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ฯลฯ และเมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จสวรรคต นพปฎลมหาเศวตฉัตรจะกางกั้นเหนือพระบรมโกศ และเหนือพระจิตกาธานในพระราชพิธีถวายพระเพลิง เสมือน การปกป้องครั้งสุดท้ายจากสวรรค์

Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo03-1.jpg

ฉัตร 7 ชั้น : ‘สัปตปฎลเศวตฉัตร’

อีกหนึ่งเครื่องสูงที่งดงามไม่แพ้กัน คือ สัปตปฎลเศวตฉัตร ฉัตรสีขาว 7 ชั้น ตั้งมาจากคำบาลี “สัปต” (เจ็ด) “ปฎล” (ชั้น) และ “เศวตฉัตร” (ฉัตรสีขาว)เป็นเครื่องสูงที่ใช้สำหรับพระราชวงศ์ชั้นรอง เช่น สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระราชชนนี หรือพระบรมราชกุมารี

‘สัปตปฎลเศวตฉัตร’ ยังปรากฏในหลายเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ในรัชกาลที่ 5 ที่โปรดเกล้าฯ ให้ถวายแด่พระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร และต่อมาในรัชกาลที่ 9 ก็ปรากฏในพระราชพิธีถวายพระเพลิงสมเด็จพระราชวงศ์หลายพระองค์ เช่น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และสมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ

‘ฉัตรขาวแห่งพระพันปีหลวง’ 

และเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2568 วันที่ทั้งแผ่นดินโศกาอาดูร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ถวาย ‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ กางกั้นเหนือพระบรมโกศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo05.jpg
Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo06.jpg

นี่คือ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่พระบรมราชวงศ์ฝ่ายในได้รับพระเกียรติยศสูงสุดเทียบเท่าพระมหากษัตริย์ เป็นฉัตรที่ไม่ได้เพียงกางกั้นจากฟ้า แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความจงรักภักดี ความอาลัย และพระเกียรติอันสูงสุด“ ที่แผ่นดินถวายแด่ “แม่ของแผ่นดิน”

Nappradon Mahasetchat-In-honor-of-the-Mother-of-the-Land-SPACEBAR-Photo04.jpg

ในสายตาคนรุ่นใหม่

สำหรับคนรุ่นเรา ‘นพปฎลมหาเศวตฉัตร’ อาจไม่ใช่เพียงของโบราณในพิพิธภัณฑ์ แต่คือบทเรียนทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง คือ บทสนทนาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน คือ “สัญลักษณ์แห่งความต่อเนื่อง” ที่บอกเราว่า ศิลปะไทยไม่ได้หยุดอยู่ในตำรา แต่ยังมีชีวิตในทุกพิธี ทุกสัญลักษณ์ และทุกความเคารพที่คนไทยยังคงส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์