รอยยิ้ม เสียงเปียโน และบทเรียนที่ไม่มีวันลืมแรงบันดาลใจจากวันวานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

จุดเริ่มต้นบนถนนสามเสน
ถนนสามเสนในยุคหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กนักเรียนหญิงในชุดกระโปรงจีบพลีตสีแดงในกลุ่มนั้น มีเด็กหญิงคนหนึ่งยิ้มเก่ง ชอบช่วยเพื่อน และมีแววอ่อนโยนจนใครๆ ก็จำได้
เธอคือ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากรเด็กหญิงผู้ใช้ชีวิตในโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์อย่างเรียบง่ายเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่น กินขนมเหมือนเพื่อนคนอื่น


ไม่มีใครรู้เลยว่า 'เด็กหญิงสิริกิติ์' จะเติบโตขึ้นมาเป็นราชินีในอนาคต
เสียงเปียโนที่บ่มเพาะหัวใจ ห้องเรียนดนตรีในโรงเรียนเก่าแห่งนั้น มีเสียงเปียโนดังเบาๆ ในตอนเย็นเด็กหญิงสิริกิติ์ชอบนั่งอยู่ตรงนั้นเสมอไม่ใช่เพราะอยากโชว์ แต่เพราะดนตรีทำให้เธอ “นิ่ง” และ “เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง” มากขึ้น
ครูซิสเตอร์เคยบอกว่า “เธอมีจังหวะในหัวใจ และความอ่อนโยนในสายตา” นั่นคือจุดเริ่มต้นของ “หัวใจแห่งศิลปิน” ที่ต่อมาจะสะท้อนผ่านงานศิลปะ ดนตรี และการทรงงานด้านวัฒนธรรมของพระองค์
ถนนแห่งการเรียนรู้ สมัยสงคราม รถรางคือพาหนะหลักในการไปโรงเรียนบางวันแน่นจนต้องเดินเท้าไปกลับหลายกิโลเมตรเด็กหญิงสิริกิติ์เคยรู้สึกอายที่ต้องนั่งรถรางกับชาวบ้าน แต่ท่านพ่อ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล ตรัสเตือนว่า
“อย่าอายสิ่งที่สุจริต สิ่งที่ควรอายคือการทำผิด” คำนั้นฝังอยู่ในใจืและกลายเป็นบทเรียนแรกเรื่อง ศักดิ์ศรีของความซื่อสัตย์ เธอเริ่มยิ้มให้ผู้คนที่พบระหว่างทาง เริ่มเข้าใจว่าความต่างของฐานะ ไม่ได้ทำให้ใคร “สูง” หรือ “ต่ำ” กว่าใคร

จาก 'ราชินีสิริกิติ์' ในชั้นเรียน สู่ราชินีแห่งหัวใจคนไทย
วันหนึ่งมีหมอดูมาทำนายที่โรงเรียนว่า “เด็กหญิงคนนี้จะได้เป็นราชินี” เพื่อนๆ พากันหัวเราะและตั้งชื่อเล่นว่า 'ราชินีสิริกิติ์' ไม่มีใครรู้ว่านั่นคือคำทำนายที่แม่นยำที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เธอไม่เคยเปลี่ยนหัวใจของตัวเอง ยังคงยิ้มเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม และยังคงมีความเมตตาแบบเด็กหญิงที่แบ่งขนมให้เพื่อนในวันแรกของโรงเรียน
เมื่อพระองค์ทรงได้กลับมาเยี่ยมโรงเรียน ครูเก่าหลายคนถึงกับน้ำตาไหล เมื่อได้ยินพระองค์ตรัสว่า “ฉันเคยถูกผูกขาไว้กับโต๊ะ เพราะซนจนคุณครูสอนต่อไม่ได้” นั่นคือรอยยิ้มของ “ลูกศิษย์เก่า” ที่ไม่ลืมรากเหง้าของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
โรงเรียนที่สอนให้เข้าใจ 'คน'
โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ไม่ใช่แค่สถานที่เรียนหนังสือแต่คือ “โรงเรียนของหัวใจ” ที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาจนต่อมาเติบโตเป็นแรงบันดาลใจให้พระองค์ทรงทำงานเพื่อคนไทยทั่วประเทศ จากเด็กหญิงที่เคยแบ่งขนมให้เพื่อน กลายเป็นแม่หลวงที่ทรงแบ่งโอกาสให้คนทั้งแผ่นดิน


พระองค์ตรัสไว้ว่า เมื่อคนเขายกย่องให้เราเป็นผู้นำมากเท่าไร เราก็ต้องทำงานให้หนักกว่าทุกคนนี่คือแก่นแท้ของ “โรงเรียนของแม่” โรงเรียนที่สอนให้เข้าใจชีวิต รักคน และทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
บทเรียนจากโรงเรียนของแม่ ความอ่อนโยน ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ การให้… ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ ความดี เริ่มจากการรู้จักฟัง และเข้าใจคนอื่น ศักดิ์ศรีของคน อยู่ที่ “ความสุจริต” ไม่ใช่ฐานะ การเรียนรู้ที่แท้จริง ไม่ได้จบลงเมื่อเรียนจบ
“โรงเรียนของแม่” ไม่ได้อยู่บนถนนสามเสนเท่านั้น แต่อยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน ที่ยังเชื่อในพลังของความเมตตาและความดี






