ช่องไหนก็ได้! ‘หมอวรงค์’ ยินดีรับเชิญไปอธิบายปม ‘ป่วยวิกฤติ

10 พ.ค. 2568 - 07:29

  • ‘หมอวรงค์’ โพสต์แจงข้อกฎหมาย-การแพทย์ปม ‘ทักษิณ’ รักษาตัวนอกเรือนจำ

  • ย้ำชัด ‘ไม่มีหลักฐานป่วยวิกฤต’ ไม่ควรได้สิทธิพิเศษนอนห้องวีไอพี รพ.ตำรวจ

  • พร้อมยินดีรับเชิญไปร่วมอธิบายให้คนที่ยังไม่เข้าใจ แต่ชอบสร้างความสับสนฟัง

วินาทีนี้คงไม่มีประเด็นใดร้อนแรงไปกว่ากรณีเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ‘คณะกรรมการแพทยสภา’ มีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นการพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย เนื่องจากให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ‘ป่วยขั้นวิกฤติ’ และว่ากล่าวตักเตือน 1 ราย เนื่องจากออกใบส่งตัวไม่ถูกต้อง


ขณะที่หลายฝ่ายมีการวิเคราะห์และพูดถึงเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็น ‘ป่วยขั้นวิกฤติหรือไม่?’ หนึ่งในนั้นมาจาก ‘นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม’ ประธานพรรคไทยภักดี ที่เผยผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า


#ขออธิบายเรื่องป่วยวิกฤติให้คนที่ไม่เข้าใจ


ผมเห็นข่าว คนที่ออกมาปกป้องนายทักษิณพยายามถูไถ เอามาตรา55 ของพรบ.ราชทัณฑ์มาอ้าง โดยอ้างว่า พรบ.ไม่ได้กำหนดว่า ต้องป่วยขั้นวิกฤติ จึงส่งตัวไปรักษาภายนอก เขาอ้างดังนี้


กรณีการส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 55 ไม่ได้กำหนดว่า “ต้องป่วยขั้นวิกฤต” เพียงแต่กำหนดว่า หากผู้ต้องขังนั้นต้องได้รับการบำบัดรักษาเฉพาะทาง หรือถ้าคงรักษาพยาบาลอยู่ในเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ส่งตัวผู้ต้องขังดังกล่าวไปรักษานอกเรือนจำ


1. พวกคุณจำการแถลงข่าวของทางราชทัณฑ์ได้ไหม ที่เขาย้ำต้องส่งตัวนายทักษิณไปรพ.ตำรวจ ช่วงเที่ยงคืนเศษ วันที่ 22 ต่อ 23 สิงหาคม 2566 เพราะเกรงว่าจะอันตรายต่อชีวิต การที่จะอันตรายถึงชีวิต ก็แสดงว่าน่าจะวิกฤติ


2. เขายังอ้างอีกว่า รพ.ราชทัณฑ์ เครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม เพราะปกติควรส่งมาที่ รพ.ราชทัณฑ์ จึงต้องส่งมาที่ รพ.ตำรวจ แต่ถ้าเข้าไปดูในเว็ปของ รพ. จะพบว่า รพ.ราชทัณฑ์เป็น รพ.ขนาดเทียบเท่า รพ.จังหวัด


มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แยกแผนกเหมือน รพ.จังหวัด มีแลปต่างๆพร้อม มี X-ray มี CT scan ที่ทันสมัย ถ้าอุปกรณ์และแพทย์พร้อมขนาดนี้ ยังรักษานายทักษิณไม่ได้ นายทักษิณต้องวิกฤติมาก ถึงขนาด รพ.ราชทัณฑ์รักษาไม่ได้


3. การที่แพทยสภาแถลงว่า นายทักษิณ ไม่มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ว่า มีอาการวิกฤติ ถ้าตีความโดยทั่วไปคือ อัตราการหายใจปกติ อัตราการเต้นใจใจปกติ อุณภูมิร่างกายปกติหรือไม่ได้สูงเกิน 37 องศามากเกินไป ความดันโลหิตปกติ หรือไม่ได้สูงจนใช้ยาควบคุมไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เรียก vital sign หรือสัญญาณชีพ ที่ใช้ดูสภาพของผู้ป่วยง่ายที่สุดว่าวิกฤติหรือไม่ ซึ่งหลอกกันไม่ได้


ถ้า X-ray ปอดปกติหรืออาจมีร่องรอยของผังผืดเก่าบ้าง แต่ถ้ามีน้ำในปอดจะเห็นรอยฝ้า แต่ถ้าวิกฤติ จะสัมพันธ์กับอัตราการหายใจ หรือการเต้นหัวใจ รวมทั้งอุณหภูมิร่างกาย เพราะร่างกายมนุษย์จะสัมพันธ์กันหมด


เจาะเลือดดูการทำงานตับและไต น่าจะปกติ ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่ามีไตวาย ตับมีปัญหา


การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เจาะเลือดดูเอ็นไซม์หัวใจ ไม่น่าจะมีสัญญาณผิดปกติ


ผมจึงอยากย้ำว่า ทางการแพทย์นั้นเป็นวิทยาศาสตร์ มาตอบมั่วไม่ได้ และมีหลักฐานเชิงประจักษ์อ้างอิง (ผลแลปและการตรวจร่างกาย) เท่ากับว่านักโทษรายนี้ไม่วิกฤติ ก็เพราะว่า ไม่มีผลอะไรที่บ่งบอกว่าวิกฤติ หรือว่าจะเสียชีวิต


สิ่งที่ต้องย้ำให้คนที่ชอบแถเข้าใจ ในเมื่อไม่วิกฤติ คือยังไม่อันตรายต่อชีวิต ถ้าเจ็บป่วยก็ป่วยตามสภาพของวัย คุณก็ควรให้ไปรักษาที่รพ.ราชทัณฑ์ รักษาอาการดีขึ้นต้องกลับเรือนจำ ไม่ใช่ให้มานอนเล่นห้อง vvip ของ รพ.ตำรวจ....หยุดสร้างความสับสนได้แล้ว

สำหรับท่านใดที่ยังไม่เข้าใจ แต่ชอบสร้างความสับสน อยากเชิญผมไปร่วมอธิบายให้คุณเข้าใจ ผมยินดีรับเชิญครับ ที่ช่องไหนก็ได้


หมายเหตุ ภาพที่นำมาประกอบ ที่เผยแพร่ทั่วไปผ่านสื่อ เข็นไปทำ CT scan คนเป็นแพทย์ จะเห็นสิ่งผิดปกติหลายจุด ลองคาดเดากันเอง


View post on Facebook

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์