เป็ดง่อยอ่อนแรง! ‘สุทิน’ หวั่น 4 เดือนสูญเปล่า!

30 ก.ย. 2568 - 13:56

  • ‘สุทิน’ หยัน ‘นายกฯ’ 4 เดือนเหมือน ‘เป็ดง่อยอ่อนแรง’

  • ชี้ภาพพจน์เสียหายหนักหลังสื่อนอกพาดหัวแรง ‘ราชากัญชา’

  • หวั่นเจอเบี้ยวข้อตกลง แนะรัฐบาลเร่งแก้ข้อจำกัดต่างๆ

เป็ดง่อยอ่อนแรง! ‘สุทิน’ หวั่น 4 เดือนสูญเปล่า!

สุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวสรุปในส่วนของฝ่ายค้าน ในการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาเรื่องด่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

สุทิน ระบุว่า หลังจากที่ดูนโยบายมา 2 วัน ก็เอาใจช่วยให้นโยบายตอบสนองประชาชน แต่ท่านเกร็งเพราะถูกกดดันด้วย MOA แต่เพื่อนสมาชิกหลายคนพูดว่าหลายอย่างทำไม่ได้ กฎหมายหลายฉบับใช้เวลาหลายปี ซึ่งตนมีความกังวลว่า 4 เดือนจะเป็น 4 เดือนที่สูญเปล่า รัฐบาลที่เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจมีข้อจำกัดมาก การที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า “รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเป็นง่อย” ซึ่งไม่ได้บอกให้เสียกำลังใจหรือท้อแท้ แต่ให้ก้าวข้ามข้อจำกัดให้ได้ เพื่อผลักดันนโยบายลบคำสบประมาท

โดยข้อจำกัดแรกคือ MOA “จำกัดเวลาเพียง 4 เดือน ใจร้ายมาก” ตนเองไม่รู้ว่าเอาอะไรมาวัดว่าต้องใช้เวลา 4 เดือน เพราะรัฐธรรมนูญก็จะไม่เสร็จ นโยบายอะไรก็จะทำไม่ได้ 4 เดือน เหมือนทุกขลาภ และมีข้อจำกัดว่าไม่ให้ทำอะไรนอกจากแก้รัฐธรรมนูญและยุบสภา สมาชิกที่เป็นบุญคุณกับท่านก็มีความสับสน บางคนเรียกร้องให้ทำหลายอย่าง บางคนก็เรียกร้องให้ทำแค่ 2 อย่างนี้

ข้อต่อมา “ทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะเลือกแล้วไม่เป็นรัฐบาลกับท่าน” ส่วนนโยบายที่ท่านเขียนมาจำนวนมาก ท่านไม่ได้จัดงบประมาณเอง เพราะรัฐบาลก่อนทำ แต่ยังดีที่มีเงินให้ท่านไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ประมาณ 1 แสนล้านบาท และงบประมาณฉบับนี้ถือเป็นงบประมาณที่ท่านโหวตคว่ำด้วยเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ซึ่งท่านจะกล้าใช้หรือไม่ก็ต้องกล้าหาญหน่อย

สุทิน ยังกล่าวถึง “ความเชื่อมั่นและความเชื่อถือของต่างประเทศ” ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีความตั้งใจหลายอย่าง จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนั้น ไปหาตลาดแบบนี้ แต่ท่านลืมไปว่า “ถ้ารัฐบาลไม่ได้รับความเชื่อถือ และความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ ท่านจะฝืด” ซึ่งในวันแรกที่มีการเซ็น MOA 4 เดือน สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือลดอันดับของไทยลงมาอยู่ในแดนลบ ซึ่งจะต้องฝ่าฟันอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน สื่อต่างชาติทำให้ภาพพจน์ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เสียหายยับ เพราะมีการพาดหัวข่าวว่า “ราชากัญชามาเป็นนายกฯ” หรือได้ “ขุนศึกกัญชามาเป็นนายก” นี่คือภาพพจน์ ความเชื่อถือ ความเชื่อมั่นของประเทศ

ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า “จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นและเรียกนักท่องเที่ยวกลับมาโดยด่วน”

ถ้าภาพพจน์ของประเทศเป็นแบบนี้ก็จะมาแต่ขี้ยา นักท่องเที่ยวสีเทา แต่นักท่องเที่ยวแบบครอบครัวไม่มา ซึ่งต่างชาติได้สอบถามมาเยอะ ว่าทำไมบ้านเรามีนักเรียนกัญชามาเป็นนายก ตนเชื่อว่าถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ท่านจะลำบากในการไปแก้ภาพพจน์ ท่านจะเหนื่อย ส่วนที่รัฐมนตรีพาณิชย์มีความตั้งใจที่จะเดินสายออกไปหาตลาดใหม่ หรือไม่ว่าเขาจะคุยกับเรา 4 เดือน ใครจะมาทำสัญญาเขาคงจะบอกให้รอรัฐบาลหน้า นี่คือวิบากกรรม

สุทิน ยังกล่าวอีกว่า “นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ประชาชนหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ และกลัวว่าท่านจะเข้ามาทำความดีของท่าน กลัวว่าจะเข้ามาสร้างเครือข่ายกินรวบทั่วประเทศ เพราะท่านมีเครือข่าย สว. มีพรรคการเมืองเป็นรัฐบาล ทำให้เกิดการวาดภาพและมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้วิตก ซึ่งต่อไปนี้หากท่านทำอะไรสิ่งนี้จะเป็นต้นทุนที่เป็นปัญหาของท่าน จะทำให้เป็นเป็ดง่อยอ่อนแรง ทุกคนจับจ้องเรื่อง ‘ฮั้ว สว.’ และ ‘เขากระโดง’ ทำให้ผมต้องจับจ้องด้วย” ซึ่งท่านนายกฯ บอกว่า “ยังไม่ได้ทำงานจะมาอภิปรายได้อย่างไร” แต่เมื่อใดก็ตามที่ใครแตะ 2 เรื่องนี้ สังคมจะบีบให้ตนเองต้องอภิปราย

จาก MOA 4 เดือน ยุบสภาฯ ทำให้ข้าราชการเกียร์ว่าง บางนโยบายอาจต้องรอไปก่อน เพราะไม่รู้ว่าอีก 4 เดือนใครจะมา หากท่านไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการนรกเลยนะครับ การเป็นรัฐบาลในช่วงระยะเวลาอันสั้น เป็นรัฐบาลพิเศษในช่วงเวลาวิกฤต ปัญหาที่รออยู่ข้างหน้าจะต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม สภาจะต้องผ่านกฎหมายในสามวาระได้ ครม.สั่งการได้ แต่วันนี้ถ้าท่านอยากเปลี่ยนแปลงงบฯ แต่ท่านเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ผู้มีพระคุณจะเอากับท่านหรือไม่ วันดีก็ค้ำท่าน วันไม่ดีก็จิกท่าน ท่านก็จะซีเรียส ไม่มีความกล้าหาญที่จะขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้เห็นใจ เพราะข้าราชการก็จะเกียร์ว่าง สภาฯ ก็จะจ้องจับผิด สิ่งที่จะเป็นต่อจากนี้คือท่านจะไม่มีความสามารถในช่วงระยะเวลาสั้น แต่หากให้เวลาท่านเชื่อว่าจะทำได้ ผมไม่ติดใจในฝีมือของท่าน แต่ 4 เดือนก็ยังยาก และ 4 เดือนก็มีข้อจำกัดเป็นเป็ดง่อย

สุทิน ยังกล่าวว่า “คนระแวงว่า 4 เดือน พัฒนาและแก้ปัญหาไม่ได้ ก็อาจจะหันมาทำอะไร เพราะความดีใช้เวลาในการทำ แต่การทำร้ายใช้เวลาสั้นๆก็ทำได้ การสร้างเมืองสามารถทำลายได้ภายในวินาทีเดียว” ขณะเดียวกัน พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กังวลว่า “4 เดือน ท่านจะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ซึ่งวันนี้สังคมจับตาแล้ว เมื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ท่านจะหันมาทำทางลัด เพราะเป็นการทำ 4 เดือนเพื่อ 4 ปีข้างหน้า จะเกิดการแก้ปัญหาตัวเอง ทำให้เกิดการระแวงว่าท่านจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดง และ SKYY9 ซึ่งท่านจะต้องรีบเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากทุกคนเกี่ยวโยงทั้งหมด จะเอามีดตัดมือตัวเองก็คงไม่ทำ”

องค์ประกอบก็ครบ พอตั้งรัฐบาลปั๊บ ท่านก็ตั้งรัฐมนตรียุติธรรมมาจากไหนคนก็คิดไปหนัก และเมื่อครู่ก็บอกให้การรถไฟฟ้องรายย่อย คนก็เริ่มคิด องค์ประกอบเขาก็ไปกันใหญ่

สุทิน อภิปรายว่า “เมื่อเป็นแบบนี้แน่นอนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงงบฯ โยกงบฯ แน่นอน เพราะท่านไม่ได้เป็นคนทำงบประมาณ และท่านมีนโยบายเยอะ ถ้าโยกไปในสิ่งที่คนเห็นด้วย สภาเห็นงาม ประชาชนได้ประโยชน์ก็พอจะไปกันได้ แต่ถ้าโยกไปในทางที่ไม่ดี จะเกิดปัญหาในสภาและกับท่าน ซึ่งไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ต้องหาเสียง แต่จะเกินงามหรือไม่ก็ต้องระวัง นอกจากนี้ยังกลัวว่าท่านจะมาโยกย้ายผู้บริหาร ข้าราชการ เพื่อการเลือกตั้ง เพื่อเป็นพรรคพวก และจะทำให้ท้ายที่สุดเกิดสิ่งที่เราหวาดกลัว ก็จะเบี้ยว MOA โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝัน และน้องๆ เพื่อนๆ เอารัฐธรรมนูญมาผูกกับการตั้งนายกฯ มองเห็นเจตนาเพื่อใช้โอกาสนี้ผูกมัด แต่ตนมองว่ามัดไม่อยู่ แล้วแก้ไม่ได้แน่ สุดท้ายจะไม่ได้อะไรเลย ทั้งประเทศและรัฐธรรมนูญ”

จากการตอบคำถามของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ทำให้ชัดเจนว่า 4 เดือนคงไม่ได้ทำ แต่จะไป kick off นับหนึ่งในวันเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการทำประชามติถือเป็นการเลือกตั้งรัฐธรรมนูญ หากทำประชามติผ่านก็จะมีขั้นตอนต่อไป มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. หากไม่ผ่านก็ล่มสลาย ซึ่งอยู่ที่ตอนนั้นมีอำนาจ จะเอาใครเข้ามาสีอะไร เรื่องร่างรัฐธรรมนูญมองแล้วห่างไกลความเป็นจริงมาก 4 ปีที่แล้วตนวิ่งมา 80 เมตรจาก 100 เมตร มาหกล้มตอนที่ 81 ขณะเดียวกันตอนนี้ก็วิ่งมาได้ 60 กว่าเมตรก็จบข่าว แต่ที่จะทำต่อ และต่อให้การทำประชามติผ่านก็จะได้แค่ 10 เมตรยังห่างไกลความเป็นจริงมาก

สุทิน ยังระบุถึง MOA ว่า “ท้ายที่สุดส่วนหนึ่งเป็นข้อจำกัดที่ทำให้รัฐบาลทำงานยาก และสิ่งที่แลกมาคือรัฐธรรมนูญก็จะเหลวอีก ยืนยันว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ทำให้รัฐบาลเสียกำลังใจ แต่รัฐบาลต้องออกแรงแก้ข้อจำกัดต่างๆ ส่วนปัญหาภาคใต้ที่แก้กันมา 20–30 ปี ท่านแก้ไม่ได้หรอก เพราะเขาให้เวลาท่านมาน้อย สุดท้ายก็ต้องไปโทษคนทำ MOA ทำไมใจร้ายให้แค่ 4 เดือน และอนุทินก็ไปยอมรับอย่างละม่อม โดยไม่มีการต่อรอง”

ทั้งนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ภายใน 4 เดือนนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์