ที่ทำเนียบรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ แกนนำกลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของกลุ่ม 16 จะไปสังกัดพรรคใดว่า จริงๆ ชัดเจนนานแล้ว แต่ด้วยมารยาทและเพื่อนบางท่านยังสังกัดพรรคการเมืองเดิมอยู่ แต่ที่จริงเราได้หารือกันหมดแล้ว
สุชาติ ยังระบุว่า ตัวเองและทีมงานผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย โดยส่วนตัวรู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว และจริงๆ บ้านเราก็อยู่ติดกันมานาน ความผูกพันและสิ่งที่เราได้เห็นการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตนได้รับโอกาส ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ซึ่งขณะนั้นอนุทินเป็นรองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ซึ่งเราทำงานด้านโควิด-19 มาด้วยกัน เรารู้ว่าท่านเป็นคนทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง และเป็นคนมีฝีมือ
สุชาติ ย้ำว่า สิ่งที่เราตระหนัก คือ เรื่องประเทศชาติบ้านเมือง และไม่มีผลประโยชน์ของตัวเอง ตนขอพูดอย่างชัดเจนว่า เร็วๆนี้ตนและทีมงานแต่ละจังหวัด จะไปสมัครพรรคภูมิใจไทย เช่น จ.เพชรบุรี ครอบครัวอังกินันทน์ ซึ่งส่วนตัวได้คุยกับทาง นายก อบจ.เพชรบุรี แล้วเมื่อช่วงเช้า ซึ่งภรรยาของท่านก็เป็น สส.อยู่ด้วย และยังมีทีม สส.อีกหลายจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดมีแกนอยู่แล้วจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ขณะนี้กำลังประสานหารือกับนายอนุทิน และแกนนำของพรรคภูมิใจไทยอยู่ รอแค่วันเวลาเท่านั้น
ส่วนการย้ายพรรคครั้งนี้มีความชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าในเรื่องของพื้นที่จะไม่ทับซ้อนกัน สุชาติ เชื่อว่า ไม่ทับซ้อนอยู่แล้ว ยกตัวอย่างที่ จ.นครศรีธรรมราช พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่กับเราก็ไม่ได้ทับซ้อน เพราะท่านเป็นสส.ในจังหวัดนั้นอยู่แล้ว และคนที่เป็น สส.อยู่ต้องได้รับสิทธิ์ก่อนในทางการเมือง ส่วน สส.บัญชีรายชื่อ อย่างผมก็ต้องลงพื้นที่เอง
“เราจะไม่ทำอะไรให้พรรคภูมิใจไทยหนักใจ และจะไม่ทำอะไรให้เพื่อนที่มาด้วยกันเสียสิทธิ์ เพื่อนที่มาทุกคนด้วยกันต้องได้สิทธิ์”
— “เราจะไม่ทำอะไรให้พรรคภูมิใจไทยหนักใจ และจะไม่ทำอะไรให้เพื่อนที่มาด้วยกันเสียสิทธิ์ เพื่อนที่มาทุกคนด้วยกันต้องได้สิทธิ์”
สุชาติ ยังระบุว่า ส่วนที่ยากคือการไปพูดคุยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยในเรื่องสิทธิ์ของคนเดิมที่ได้เป็น สส.อยู่ ควรจะต้องได้สิทธิ์ตามนั้น เรามากันเป็นทีมแบบพี่แบบน้อง เหมือนที่ท่านนายกฯได้พูดทำงานในคณะรัฐมนตรีเหมือนพี่น้อง นายกฯก็พูดเหมือนกัน แต่กับตนถ้าทำงานการเมืองในภาค สส. ก็เหมือนพี่เหมือนน้อง เราทิ้งกันไม่ได้ต้องเจรจากันในเรื่องนี้
สุชาติ ยอมรับว่าการที่เรามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มีความตั้งใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาหากผมคนเดียวมาได้อยู่แล้ว แต่มาทั้งทีต้องมาทั้งหมด จึงต้องมีการหารือในเรื่องพื้นที่
เมื่อถามว่าหาก เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยด้วย สุชาติ กล่าวว่า ไม่มีประเด็น พรรคการเมืองเหมือนชายคาบ้านที่อบอุ่น วันนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นที่อบอุ่นสำหรับตน และทุกคนในกลุ่มเห็นตรงกันว่าการทำการเมืองครั้งหน้าต้องไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ด้วยความเคารพนับถือหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค โดยเฉพาะนายอุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคที่มีความกรุณาต่อตนเองหลายเรื่อง
เมื่อถามว่าจะไปในนามของกลุ่ม 16 ใช่หรือไม่ ยสุชาติ กล่าวว่า ไปอยู่ในฐานะสมาชิกพรรค แต่อาศัยว่าขอดูแลพื้นที่ของเพื่อนเราที่สนิทสนม อาทิ ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ยืนยันได้ว่าไม่มีใครประสานได้ดีเท่ากับตัวเอง แม้ว่าตนเองจะไม่ได้มีทั้งภาค แต่ก็มีจังหวัดละ 2-3 คน
ส่วนจะเข้ามาดูแลในภาคตะวันออกใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า แน่นอน ดูอย่างเต็มที่ เพราะพรรคภูมิใจไทยมีแกนหลักที่ดูแลภาคตะวันตก ก็มาผสมกันทำให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ในส่วนของภาคใต้ อาจจะต้องชนกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ยสุชาติ กล่าวว่า ทุกอย่างรู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของใครเป็นอย่างไร เช่น ตนเองเป็นแชมป์อยู่แล้วจะมาแข่งกับตนก็ต้องคิดเยอะ หรือถ้าผมจะไปแข่งกับแชมป์ก็ต้องคิดเยอะ ย้ำว่าหลีกให้กันไม่ได้ ต้องสู้กัน
สุชาติ ยังแย้มว่า จะไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย เร็วๆนี้ แต่ขอคุยกับผู้ใหญ่ในเรื่องการจัดสรรลงสมัคร สส . เขตให้ลงตัวก่อน