โสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า การที่ได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง รวมถึงความรู้สึกที่พรรคได้มอบหมายให้ปฏิบัติงานในช่วงวิกฤตทางการเมือง และเราเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นรัฐบาลเฉพาะกาล เรามีเวลาจำกัด ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายจะต้องทำงานแข่งกับเวลาทามกลางวิกฤตทั้งการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง ปัญหาชายแดน คุณภาพชีวิตประชาชน และเรื่องยาเสพติด เราต้องยอมรับว่าประเทศไทยมาถึงวันนี้ได้ ถ้าเราตั้งหลักไม่ดี ไม่มีสติพอ จะทำให้ประเทศทรุดหนักลงกว่านี้ ในฐานะมาเป็นรัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นจะแก้วิกฤตในระยะสั้นๆให้ได้ดีที่สุดทุกเรื่อง เพราะประชาชนรอไม่ได้ การที่รัฐบาลมีเวลาทำงาน 4 เดือนอย่างน้อยได้มีการวางหลักประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น และวางแนวทางที่สังคม ประชาชน ยอมรับได้ โดยใน 4 เดือนเราจะมีไทม์ไลน์วางว่า เดือนที่ 1-4 เราทำอะไร ไม่ใช่เป็นการประชุม ไม่ใช่เป็นการมอบนโยบาย แต่ให้ไปปฏิบัติเลย จะทำให้บ้านเมืองและประเทศไทยน่าอยู่
สำหรับโจทย์ใหญ่ที่ได้รับเมื่อเข้ามาแก้ปัญหา คือ เรื่องของสังคม ทั้งปัญหายาเสพติด สาธารณสุข และเรื่องต่างๆ ส่วนเรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกลุ่มจังหวัดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเรื่องการกระจายอำนาจก็สำคัญ ทั้งนี้ จะขอนายกรัฐมนตรีทำเรื่องยาเสพติด เพราะสู้เรื่องนี้มา 2 ปีแล้ว เหมือนปิดทองหลังพระ เรื่องดีๆ ที่คนบุรีรัมย์ทำ บางทีคนมองไม่เห็น บุรีรัมย์ถือเป็นตัวอย่างที่อยากท้าให้สื่อไปดูว่า เราจัดการเรื่องยาเสพติดได้จริง 2 ปี ที่ร่วมงานกับทุกภาคส่วนสามารถทำศูนย์ฟื้นฟูบำบัดผู้ติดยาเสพติดได้ และมีผู้เลิกยาเสพติดได้กว่า 1,600 คน โดยไม่มีการใช้งบจากส่วนกลาง ตรงนี้เป็นอุดมการณ์ที่ระดมทุนกับประชาชนและมอบเงินให้แต่ละอำเภอไปดำเนินการ ทั้งนี้ ถ้าทุกคนสามัคคีกัน ทำงานก็จะสำเร็จไม่ว่าระดับประเทศหรือชุมชน
ส่วน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะมาช่วยเรื่องยาเสพติดใช่หรือไม่นั้น โสภณ กล่าวว่า ไม่ใช่ เขาเป็นเพื่อน เมื่อถามย้ำว่าจะมาเป็นมือขวาใช่หรือไม่ โสภณ กล่าวย้ำว่าเพื่อน
โสภณ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีโดยเฉพาะที่มาจากจังหวัดบุรีรัมย์ในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะพูด อย่างไรก็ตาม เรื่องคุณสมบัติมี 2 อย่างคือ กฎหมายและสังคมจะรับได้หรือไม่ เพราะความดีของคน วัดได้ 2 อย่าง คือทางโลกและทางธรรม ถึงจะรู้ว่าใครเหมาะ แต่ในฐานะคนบุรีรัมย์ต้องชี้แจง แต่คิดว่า ไม่น่ามีปัญหา รัฐมนตรีจะมาจากบุรีรัมย์มากหรือน้อยก็ไม่ใช่ปัญหา แต่มาแล้วทำให้ประเทศชาติเสียหายหรือไม่ หรือทำอะไรให้สังคมได้หรือไม่ เพราะด้วยระยะเวลาอันสั้นสังคมคาดหวังสูง ก็ยิ่งต้องทุ่มทุกสรรพกำลัง ที่ต้องทำทั้งการบ้านและการเมือง แสวงหาความเข้าใจกับประชาชนเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนการเมืองก็ต้องพัฒนาประเทศ
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายคนมองว่า โสภณมาเป็นตัวแทนของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด โสภณ กล่าวว่า เรื่องนอมินี โดนมานานแล้ว ทุกคนมีนอมินีหมด อย่างน้อยก็นอมินีเมียตัวเอง และก็เป็นนอมินีที่พรรคภูมิใจไทยส่งมา เพราะฉะนั้นเป็นตัวแทนใครก็ไม่สำคัญ อยู่ที่การใช้อำนาจ
ส่วนที่สังคมจับตาว่ารัฐบาลชุดนี้จะจัดการเรื่องคดีเขากระโดงอย่างไร โสภณระบุว่า ทุกฝ่ายก็พูดไปแล้วว่าทำตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ส่วนคนจะชอบหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง มีถูกใจหรือถูกต้อง เพราะฉะนั้นต้องพิสูจน์ ถือหลักพระพุทธองค์ เรื่องอดีตยากที่จะแก้ไข อนาคตยังมาไม่ถึง ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ สังคมยังจับตาว่าอดีตฮั้วสว.จะหายไปหากรัฐบาลภูมิใจไทยเข้ามา โสภณ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขารับผิดชอบแล้วจะหายได้อย่างไร เขาก็ทำตามหน้าที่ ไม่มีใครไปสั่งใครได้