เรื่องมันมีอยู่ว่า รมว.ยุติธรรม‘MADE IN บุรีรัมย์’ ภารกิจสกัดคดีเขากระโดง-ฮั้วสว. ความวุ่นวายรอบใหม่‘ตั้งเค้า’ แค่‘คำถาม’ทำ‘ประชามติ’ก็ยุ่งแล้ว

10 ก.ย. 2568 - 23:45

  • เก้าอี้กระทรวงยุติธรรมกลายเป็นที่จับตามองเพราะเกี่ยวข้องกับคดีเขากระโดง

  • ว่าที่รัฐมนตรียุติธรรมพล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุลแนบแน่นกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์มาตลอด

  • การแก้รัฐธรรมนูญแค่การตั้งคำถามทำประชามติก็ส่อเค้าวุ่นวายแล้ว

เรื่องมันมีอยู่ว่า รมว.ยุติธรรม‘MADE IN บุรีรัมย์’ ภารกิจสกัดคดีเขากระโดง-ฮั้วสว. ความวุ่นวายรอบใหม่‘ตั้งเค้า’ แค่‘คำถาม’ทำ‘ประชามติ’ก็ยุ่งแล้ว

เรื่องมันมีอยู่ว่า  กระทรวงยุติธรรมกลายเป็นหน่วยงานที่ชี้เป็นชี้ตายคดีใหญ่ที่ค้างคาหลายคดี ตั้งแต่เขากระโดง และฮั้วเลือกตั้งสว. พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุลว่าที่รัฐมนตรียุติธรรมแนบแน่นกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์มาตลอด <>  ตามสัญญาการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว สุดท้ายต้องทำประชามติ 3 ครั้ง แต่แค่เริ่มต้นว่าจะตั้งคำถามอย่างไรก็ส่อเค้าวุ่นวายแล้ว <> พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า

รมว.ยุติธรรม‘MADE IN บุรีรัมย์’

ภารกิจสกัดคดีเขากระโดง-ฮั้วสว.

ภายใต้ความเคลื่อนไหวจัดตั้งครม.อนุทิน   ที่มีการเชิญมืออาชีพ ‘คนนอก’  เข้ามารับตำแหน่ง รมต. ด้านเศรษฐกิจ และต่างประเทศ เพื่อเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีเวลาจำกัด แค่ 4  เดือน แสดงถึงความตั้งใจจริง และความโปร่งใส ตรงไปตรงมาเปิดตัวว่าที่ รมต. ให้สังคมได้รับรู้ ไม่ซ่อนเร้น ปิดบัง อำพราง

เป็นด้านสว่าง ที่พอจะสร้าง‘ความหวัง’ ให้คนไทยมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

มีด้านสว่าง ก็ต้องมีด้านมืด อัปลักษณ์  ควบคู่กันไปคือ การตั้งครม. ‘คนใน’  บุรีรัมย์ คอนเนคชัน อย่างเงียบๆ  โดยมีภารกิจที่ปิดกันให้แซดคือ  ‘เป่า’  คดีที่ดินเขากระโดง และฮั้ว สว. 

การมานั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรมของพล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล กำลังตกเป็นเป้าหมายในการ ‘วิพากษ์วิจารณ์’ อีกจุดหนึ่งของ ‘ครม.อนุทิน1’ เพราะหากดูตามประวัติจะถึง ‘บางอ้อ’ ทันทีว่า พล.ต.ท.ชาญชัย นั้น ทั้งเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ และเจริญเติบโตในชีวิตราชการตำรวจ ส่วนใหญ่ก็แถวๆ บุรีรัมย์นี่แหละ ตำแหน่งสุดท้ายคือ อดีตรอง ผบช.ภ.3 ก่อนเออร์ลี่รีไทร์จากราชการ

พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ว่าที่รัฐมนตรียุติธรรม Made in บุรีรัมย์ ต้องมาจัดการปัญหาเขากระโดง และฮั้ว สว.คาดเดาผลออกมาได้ไม่ยา
พล.ต.ท.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ว่าที่รัฐมนตรียุติธรรม Made in บุรีรัมย์ ต้องมาจัดการปัญหาเขากระโดง และฮั้ว สว.คาดเดาผลออกมาได้ไม่ยา

รมว.ยุติธรรมนั้นกำกับดูแล กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ  ซึ่งที่ผ่านมา ‘ขมีขมัน’ กับ 2 เรื่องที่สังคมจับตารอดู ‘บทสรุป’ สุดท้าย อย่าง ‘ที่ดินเขากระโดง’ และ ‘ฮั้วสว.’

ที่ดินเขากระโดงมี ‘ครูใหญ่’ และ ‘ตระกูลชิดชอบ’ เข้าไปเกี่ยวข้องแบบเต็มๆ  ส่วนคดี ‘ฮั้วสว.’ซึ่งอยู่ในมือ กกต.และดีเอสไอนั้น ในจำนวน 229 คน มีสว.ปัจจุบันเกี่ยวข้อง 138 คนและมี กก.บห.พรรคภูมิใจไทยรวมถึงเครือข่ายอีก 91 คน ในจำนวนมี ‘บิ๊กเนม’ ของพรรครวมอยู่ทั้งหมด และหากมีความผิดตามข้อกล่าวหาโทษรุนแรงถึง ‘ยุบพรรค-ตัดสิทธิทางการเมือง’

ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ศูนย์กลางของเครือข่ายบุรีรัมย์ เขาสามารถจัดสรรแต่ส่วนลงตัวตามแผนงาน
ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ศูนย์กลางของเครือข่ายบุรีรัมย์ เขาสามารถจัดสรรแต่ส่วนลงตัวตามแผนงาน

ถ้ามีความรู้ ความสามารถแล้วมานั่งทำหน้าที่ ‘เสนาบดี’  ก็ไม่แปลกหากผู้นั้นจะเกิดและเติบโตในลักษณะ ‘เมด อิน บุรีรัมย์’  แต่จะะแปลกมากตรงที่ว่า ‘ผู้มีอำนาจ’ ในรัฐบาล ล้วนรายล้อม2คดีดัง ในลักษณะ ‘บุรีรัมย์ คอนเนคชัน’ ทั้งสิ้น

คดีเขากระโดงที่งานนี้ มท.1 จะลอยตัว แต่จะมีทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย เครือญาติกับ เนวิน ชิดชอบ มาจัดการ ขณะการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม จะมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ ‘ขุนพลภาคใต้’ ดูแล

ล่าสุดก็แว่วๆมาว่า มท.หนู จะ‘รื้อใหญ่’ การแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงมหาดไทย ช่วงที่ มท.อ้วนเข้ามาทำหน้าที่ จับตาดูกันว่า ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ จะคนเดิมหรือคนใหม่

ส่วนคดี ‘ฮั้วสว.’ เอาตั้งแต่ ‘ประธานหมง’  มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ‘บิ๊กเกรียง’ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ส่วนกรรมการอย่าง กกต.ก็ถูกมองว่า ‘เฮียแหวง’  แสวง บุญมี เลขาธิการกกต.นั้นก็ ‘บุรีรัมย์ คอนเนคชัน’

ล่าสุด รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.ชาญชัย ก็ช่างบังเอิญซะเหลือเกินที่ ‘เคยเป็น’ ลูกน้องกับเจ้านายของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.ตัวตึง ซึ่งในอดีตนั่งผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ โดยมีพล.ต.ท.ชาญชัย นั่งเป็นรองผู้บังคับการ

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ เป็นหนึ่งใน 136 สว. ที่ถูกดีเอสไอ สอบสวนคดีฮั้ว สว. และเป็นหนึ่งใน สว.ที่ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้สั่งให้ พ.ต.อ  ทวี สอดส่อง รมต. ยุติธรรมในรัฐบาลแพทองาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอในดคีฮั้ว สว.

เมื่อคนที่เคยเป็นลูกน้อง เข้ามาเป็น รมต.ยุติธรรม คุมดีเอสไอ ที่กำลังสอบลูกพี่ คดีฮั้ว สว.จะจบอย่างไร ไม่ต้องเดาให้ยาก  

<<<<<<>>>>>>> 

ความวุ่นวายรอบใหม่‘ตั้งเค้า’

แค่‘คำถาม’ทำ‘ประชามติ’ก็ยุ่งแล้ว

ที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีคำวินิจฉัยว่าหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ‘ทั้งฉบับ’  ต้องจัดให้มีการทำ ‘ประชามติ’  3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 นั้นสามารถ จัดการการทำประชามติใน‘คราวเดียวกันได้’ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ 3 ครั้ง ดังนี้

ครั้งที่ 1 ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

ครั้งที่ 2 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า มีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร

ครั้งที่ 3 ภายหลังทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วเสร็จ ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่า เห็นชอบกับร่างรธน.ฉบับใหม่หรือไม่

‘จุดสลบ’ทางการเมืองอยู่ที่ การห้ามไม่ให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.มาทำการร่างรัฐธรรมนูญ

บางฝ่ายทางการเมืองระบุว่า หากจะทำประชามติ ครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 รวมกันก็ต้องให้พรรคการเมือง เร่งแก้ไข ‘รายมาตรา’ เพื่อให้ได้ วิธีการและเนื้อหาที่สำคัญ ทันกับการกำหนดวันในการทำ ‘ประชามติ’ ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นตรงกับวัน ‘ลงคะแนนเลือกตั้ง’ ทั่วประเทศ

มีความน่าสนใจใน ‘หลายมุม’  มุมแรกคือตกลงถึงตอนนี้ พ.ร.บ.ประชามติที่มีการแก้ไขให้นับแค่ ‘เสียงข้างมาก’ นั้นเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้หรือยัง คำตอบก็คือ ‘ยัง’

มุมต่อมา 4 เดือนก่อนยุบสภานั้น ตาม MOA  ที่ก้าวไกลทำกับภูมิใจไทยนั้น เริ่มนับวันไหน คำตอบคือ หลังจากวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งก็คือ 4 เดือนจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเท่ากับน่าจะ‘ยุบสภา’ เดือนกุมภาพันธ์ปี 2569

หาก ‘ยุบสภา’ ก่อน ‘ครบวาระ’  ต้องจัดการเลือกตั้งขึ้นไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ห้ามเกิน 60 วัน หมายความว่า หากจะเลือกตั้งกันใหม่แบบรัฐธรรมนูญปัจจุบัน คือบัตรเลือกตั้ง 2ใบ และอีก 1ใบสำหรับการทำประชามติ ก็น่าจะเกิดขึ้นหลัง ‘เทศกาลมหาสงกรานต์’

มีการกางปฎิทินแล้ว ‘ชี้เปรี้ยง’ ลงไปว่า ‘วันอาทิตย์ที่ 26เมษายน 2569’ นี่แหละเหมาะสมสุดๆแล้ว

แต่เหนือสิ่งอื่นใดและน่าจะ‘ถกเถียง’ กันอย่างหนักคือ ‘คำถาม’ ที่จะถามเพื่อหา ‘ประชามติ’ ที่แหละว่า จะถามอย่างไร เพราะต้องถามให้ครอบคลุมว่า จะแก้ทั้งฉบับหรือไม่ ด้วยวิธีการและเนื้อหาแบบไหน

.

ยุ่งกันทั้งสังคม ตั้งแต่ ‘คำถาม’ แล้วหล่ะครับ ไม่เชื่อคอยดู

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์