เรื่องมันมีอยู่ว่า ผู้หญิงแถวหน้าในแวดวงการเมืองไทย ที่เอ่ยชื่อร้องอ๋อทุกคน คุณหญิงอ้อ มาดามแป้ง และเจ๊ปอง มีชื่อปรากฏให้เห็นในวาระการเมืองหลายครั้ง และมีแฟนคลับตามเชียร์เหนียวแน่น ถือเป็นสาว สาว สาว ในวงล้อมนักการเมืองชาย <> ชื่อของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับมาอีกครั้ง หลังคดีชั้น 14 ของทักษิณ ชินวัตรจบเรียบร้อย บทบาทใหม่ของบิ๊กโจ๊ก ต้องรอบทพิสูจน์ว่ากลับมาได้อีกครั้งหรือไม่ <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
คุณหญิงอ้อ-มาดามแป้ง-เจ๊ปอง
‘สาว สาว สาว’กับเรื่องราวการเมือง
ชั่วโมงนี้ ถ้าไม่พูดเรื่องราวของ ‘สาว สาว สาว’ ทางการเมืองก็ต้องบอกว่า ‘โคตรเชย’ ด้วยเพราะทั้ง‘สาว สาว สาว’ นั้นเกี่ยวพันกับการเมืองทั้งอยู่เบื้องหน้า ทั้งอยู่เบื้องหลัง และหลายๆครั้งอยู่ ‘เบื้องลึก’ ชนิดรู้เช่นและเห็นชัดยิ่งกว่าตัวจริงเสียงจริง ที่อยู่บนเวทีการเมืองซะอีก
คุณหญิง พจมาน ณ ป้อมเพชร หรือ ‘คุณหญิงอ้อ’ อดีภรรยานายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ทักษิณ ชินวัตร มารดาอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย แพทองธาร ชินวัตร ‘คุณหญิงอ้อ’ เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2499 ปัจจุบันอายุ 69 ปี
ว่ากันว่า ‘ความสำเร็จ’ ของพรรคไทยรักไทยในปี 2544 เรื่อยมาจนพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ‘คุณหญิงอ้อ’ มีบทบาทอย่างชัดเจนแบบ ‘อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ’
หลังวันเข้าเยี่ยม ทักษิณ ที่เรือนจำคลองเปรม วันเดียวกันกับการประชุมพรรคเพื่อไทย นัดที่น่าจะได้ทบทวน ‘บทเรียน’ แค่ ‘คุณหญิงอ้อ’ เข้าไปทักทายสวัสดีให้กำลัง ‘สู้ๆนะคะ’ แค่นี้ก็ทำเอา พลพรรคเพื่อไทย กลายเป็นยิ่งกว่า ‘กระดี่ได้น้ำ’
สาวคนต่อมา ชิมลางการเมืองมาซักพัก หวิดไปหวิดมากับ ‘สนามกทม.’ อย่าง ‘มาดามแป้ง’ หรือ นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ปัจจุบันนั่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แม้ ‘ภายนอก’ จะมองว่า ผลงานจับต้องไม่ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่า วันที่ ‘นายกอ๊อด’ หรือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เดินออกไปนั้น ‘คนใน’ อยากได้นายกฯ สเป็ก ‘หาเงินได้ ใช้เงินเป็น’ ซึ่งถึงวันนี้ก็น่าจะ ‘ตอบโจทย์’แล้วนะ
ปรากฏการณ์ ‘หล่อคืนรัง’ ของ ‘ศิษย์เก่าค่ายสีฟ้า’ ที่นำทีมโดย ‘หล่อใหญ่’ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น 1ในผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะเดินกลับมาด้วยนั้นปรากฎชื่อ ‘มาดามแป้ง’ อยู่ด้วย
‘มาดามแป้ง’ เคยให้สัมภาษณ์ ‘ไทยรัฐทีวี’ ไว้ก่อนหน้านี้แบบ ‘ทีเล่นแต่เอาจริง’ ว่า ความฝันหนึ่งของคนรุ่นแป้งคือการทำให้กทม.หรือกรุงเทพมหานคร เป็นที่ ‘รู้จัก’ ของคนทั้งโลก หากปี 2569 เป็นปีแห่งการเลือกตั้ง ทั้งสนามใหญ่-สนามเล็ก เมื่อวันนั้นมาถึง ประชาธิปัตย์อาจจะส่ง ‘มาดามแป้ง’ เข้าประกวดก็เป็นได้ ‘ชัชชาติ’ ก็เถอะ เหนื่อยแน่นอน
มาดามแป้ง เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2509 ปัจจุบันอายุ 59 ปี แต่ใครเห็นก็บอกว่า อายุทำอะไร ‘มาดามแป้ง’ เธอไม่ได้จริงๆ
สาวที่คนสุดท้ายมาแรง แซงใครต่อใครในพ.ศ.นี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหนถ้าไม่ใช่ ‘เจ๊ปอง’ หรือ อัญชะลี ไพรีรัก ‘ตัวจริงเสียงดัง’ บนเวทีภาคประชาชน
‘เจ๊ปอง’ เริ่มต้นอาชีพสื่อมวลชน ปัจจุบันก็กุมบังเหียนสื่ออยู่ที่ ‘แนวหน้า’ ผ่านฝนผ่านหนาวมาแล้วสารพัดกระบวนท่าหลังศาลฎีกา ‘ยกฟ้อง’ กรณีกลุ่มพันธมิตรบุก NBT ปี2551 ในสมัยรัฐบาล สมัคร สุนทรเวช ‘เจ๊ปอง’ ก็กลับมายืนหนึ่งอยู่ ‘แถวหน้า’ แบบไม่ต้องสงสัย เพราะ ‘ระยะทางได้พิสูจน์ม้า’ แล้วว่า ‘ของแทร่’ และ ‘ใช่เลย’

ว่ากันว่าหากจะกระโดดลง ‘เวทีการเมือง’ ก็เชื่อเหลือเกิน ‘แม่ยก’ ทั้งหลายคงตอบรับกันเกรียวกราว แต่ ‘เจ๊ปอง’ ซึ่งโพสต์ผ่าน FB ระบุว่า ‘ขอบคุณทุกคนนะคะ’ น่าจะทำหน้าที่ ‘ชี้ถูก-ชี้ผิด-ชี้ทาง’ทางการเมืองไทยต่อไป เพราะการเมืองไทยยามนี้ ‘นอกสภา’ ทำท่าจะเข้มข้นกว่า ‘ในสภา’ ซะด้วยซ้ำ ปั
ปัจจุบัน‘เจ๊ปอง’ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 25ตุลาคม 2505 เป็นชาวสมุทรปราการโดยกำเนิด อายุ 62 ปี
ทั้งหมดนี้ คือ ‘สาว สาว สาว’ ทางการเมืองแห่งยุคประจำปี พ.ศ.2568 โดยแท้
<<<<<>>>>>>
‘โจ๊กหวานเจี๊ยบ’ดิ้นเฮือกใหม่
‘มิตร’ที่กลายเป็นศัตรูทักษิณ
ยิ่งนานวันยิ่งพบว่า ในทางการเมืองของชายผู้ได้ชื่อว่ามี ‘สีสัน’ มากที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ‘ลูกน้องทั้งน้อยทั้งใหญ่’ จะลดน้อยถอยลง จากเดิมที่ครั้ง ‘ยิ่งใหญ่’ ที่รายล้อมไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น แต่บัดนี้แทบจะนับจำนวนคนได้ มีน้อยๆ 3 คนที่เป็น ‘จุดเปลี่ยน’
คนแรก "ขุนพลคนเสื้อแดง" ซึ่งบัดนี้ใส่เสื้อเหลืองแบบเต็มตาชื่อ ‘เดอะตู่’ จตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ซึ่งเคยสู้แบบ ‘ถวายแหวน’ เสี่ยงคุกนอนตารางมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่เมื่อ ‘ลมแห่งการเปลี่ยนแปลง’พัดมา จาก ‘มหามิตร’ ก็กลายเป็นคนที่ยืนตรงข้ามแถมยืน ‘แถวหน้า’ สู้กับ ‘ระบอบทักษิณ’ แบบที่คนทั่วไทยแถบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
คนต่อมา ผู้ที่ประกาศตัวว่าเป็น ส.ร.ท.2 หรือ ‘เสือกทุกเรื่อง’ แบบที่ทักษิณ นิยามไว้ นั่นก็คือ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ลมหายใจของพรรคกล้าธรรม พรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อยกับภูมิใจไทยในเวลานี้ น้อยคนนักจะเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งครั้งหนึ่งไม่ต่างอะไรจาก ‘เงาทักษิณ’ จะเดินจากพรรคเพื่อไทย แบบที่ ทักษิณยอมรับเองกับปากขอโทษขอโพยส.ส.ในพรรคว่า ‘ขอโทษ พี่ไว้ใจคนผิด’
อีกคน สดๆร้อนๆใหม่ๆหมาดๆ ‘แมวเก้าชีวิต’ หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล
ที่ออกมาปฏิบัติการ ‘ลากไส้’ ทักษิณ ครั้ง ‘ป่วยทิพย์’ อยู่ชั้น 14 ว่าได้เรียกไปพบไปสั่งว่า ให้ทำอย่างนี้อย่างนั้น แล้วเดี๋ยวจะแต่งตั้งให้เป็น ‘ผบ.ตร.’
ใครก็รู้ว่า ‘บิดาบิ๊กโจ๊ก’ คือดาบตำรวจไสว หักพาล เคยเป็นพลขับประจำตัว พลตำรวจโท เสมอ ดามาพงศ์ บิดา ‘คุณหญิงอ้อ’ ตอนที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รู้จักมักคุ้นกับ ทักษิณมาเนิ่นนานหลายสิบปี จะเดินข้ามในยามที่คนล้มเช่นนี้ อะไรหนอถึงทำให้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ กลับหลังหัน 360องศาได้ขนาดนี้
‘บิ๊กโจ๊ก’ เป็นคนสงขลา ว่ากันว่า หลังถึงจุดสูงสุดในชีวิตข้าราชการสีกากี ก็จะเบนเข็มลงสนามการเมือง 1 ในสนามที่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ปรารถนาคือ นายก อบจ.สงขลา
แต่เส้นทาง ‘โจ๊กหวานเจี๊ยบ’ ต้องตีบตันจนแทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะเกิดสภาพ ‘ดีแตก’ ขึ้นมาเสียก่อน จนสุดท้ายก็ยากแล้วที่อยู่ในวงการ ‘สีกากี’ ต่อไป เพราะโดนโทษหนักถึงขั้น‘ไล่ออก’จากราชการ
แต่โทษ‘หนัก’ หากจะทำให้เป็นโทษ ‘เบา’ ได้นั้น ก็น่าจะทำให้มี ‘ทางเดิน’ ต่อไปได้ ‘บทใหม่’ ของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ จึงปรากฎออกมาให้ได้เห็นได้ยินกัน
ขบวนรถไฟที่ชื่อ ทักษิณ ออกจากสถานีแล้ว ใครจะโหนก็รีบซะ เลยเป็นอย่างที่เห็นกัน ‘มาช้า’ ก็ยังดีกว่า ‘ไม่มา’ นะครับ