เรื่องมันมีอยู่ว่า อนุชา นาคาศัย แยกทางรวมไทยสร้างชาติ กลับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ทำให้กลุ่มสามมิตรในอดีตฟื้นคืนชีพอีกครั้ง<>การประชุม กกต.วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ มีการโหวตเลือกประธานคนใหม่ ระหว่าง สิทธิโชติ อินทรวิเศษ และ ณรงค์ รักร้อย <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
อนุชากลับเพื่อไทยฟื้น‘สามมิตร’
ส่องปรากฏการณ์‘พวกในพรรค’
เมื่อ 2 วันก่อน มี ‘ภาพการเมือง’ ภาพหนึ่งน่าสนใจ ในภาพ ‘ล้วน’ เป็นแกนนำ พรรคเพื่อไทย อาทิ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, ภูมิธรรม เวชยชัย, วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ,สมศักดิ์ เทพสุทิน ขณะที่ ‘แฮงค์ ชัยนาท’ หรือ อนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ โรงเรียน อบจ.ชัยนาท ที่เฉือนชนะ หมอนทองวิทยา ‘สร้างประวัติศาสตร์’ อีกหน้าให้จารึกว่า ฟุตบอลของ ‘นักเรียนขาสั้น’ได้ทำให้สนามศุภชลาศัย ‘แตกอีกครั้ง’ มาแล้ว
ถ้าจำได้ครั้ง อนูทิน ชาญวีรกูล ลงพื้นที่ ‘ชัยนาท’ นายกฯหนู เอ่ยถึงชื่อ ‘พี่แฮงค์’ หรือ อนุชา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นสส.ชัยนาท พูดถึงเขตเลือกตั้ง จ.ชัยนาทนั้นมี 2 เขตเลือกตั้ง ปี 2566 ที่ผ่านแบ่งกันไปคนละเขตระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่มี ‘อนุชา’ สังกัดอยู่
พูดถึง ‘อนุชา’ ใครๆในทางการเมืองก็รู้ว่า ‘แนบสนิทมิตรสหาย’ ขนาดไหนกับสมศักดิ์และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แม้ที่ผ่านมาจะ ‘คนละพรรค’ แต่ ‘พวกเดียวกัน’ ไม่มีเปลี่ยนใจ

การกลับเข้าพรรคเพื่อไทยของ ‘อนุชา’ น่าสนใจ แม้จะไม่เกินความคาดหมายก็ตาม ทั้ง ‘สุริยะ-สมศักดิ์’ กอดคอทางการเมืองกันมาตั้งแต่พรรค ‘กิจสังคม’ จนเข้าพรรคไทยรักไทย ไปทำพรรคมัชฌิมาธิปไตย ต่อมายุบพรรคไปเข้ากับพรรคภูมิใจไทย ไปพรรคพลังประชารัฐ จนสุดท้ายกลับมาพรรคเพื่อไทย
ตลอดเส้นทางการเมือง ทั้ง ‘สุริยะ-สศักดิ์’ และ ‘อนุชา’ มักจะเป็น ‘ฝ่ายรัฐบาล’ มากกว่าเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ ว่ากันว่าทั้ง ‘สุริยะ-สมศักดิ์’ นั้นมีวิชา ‘จมูกมด’ ที่มักจะได้กลิ่นการเป็นรัฐบาลก่อนใครเขา เฉกเช่นเดียวกับ ‘มด’ ที่มักได้กลิ่น ‘น้ำตาล’
กลุ่ม 3 มิตรนั้นครั้งหนึ่ง เกือบจะ ‘แจ้งเกิด’ เพราะเป็นการ ‘รวมกันเฉพาะกิจ’ ของ ‘สุริยะ-สมศักดิ์’ กับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ
ปัจจุบัน สุริยะ นั่ง ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย สมศักดิ์คุมพื้นที่การเมืองภาคเหนือ แถว สุโขทัย อุตรดิตถ์,พะเยา,พิจิตร,พิษณุโลก,ตาก
การได้ ‘อนุชา’ กลับเข้าเพื่อไทยอีกครั้ง ก็น่าจะเท่ากับว่า ‘สามมิตร’ ก็จะกลับมา ‘ฟูลทีม’ ด้วยเช่นกัน หรือ ‘อนุชา’ จะต้องการกลับไปเป็นรัฐบาลอีกครั้งเพราะการเมือง ‘รอบใหม่’ ที่กำลังจะมาถึง พรรคเพื่อไทย ‘หมดสิทธิ์’ ชิงนายกฯ แต่ยังมีสิทธิ์ ‘ชิงตั๋ว’ เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล
ดูการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็รู้ พรรคเพื่อไทยปีกหนึ่ง‘อยาก’ชนิดใจจะขาด แต่อีกปีกหนึ่งกลับ ‘เงียบกริ๊บ’ ยังไงกันอยู่นะ
<<<<<>>>>
จับตา18พ.ย.โหวต‘ปธ.กกต.’
‘สิทธิโชติ-ณรงค์’ชิงดำ
ต้องจับตาวันที่ 18 พฤศจิกายนกันให้จงหนัก ตามข่าวบอกว่า สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ทำหนังสือถึง แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อให้ อนันต์ สุวรรณรัตน์ และ ณรงค์ รักร้อย ว่าที่2กกต.ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ‘วุฒิสภา’ ประชุมร่วมกับ 5 กกต.ที่ยังทำหน้าที่อยู่ที่ประกอบด้วย เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ,ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ,ชาย นครชัย,สิทธิโชติ อินทรวิเศษ และ ณรงค์ รักร้อย เพื่อเลือกกันเองให้ ‘คนหนึ่ง’ เป็นประธานกกต.จากนั้นให้แจ้ง มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯใน ‘คราวเดียวกัน’
ข่าวว่า มี 2 คนกำลังจะแข่งกัน คนหนึ่งชื่อ สิทธิโชติ อินทรวิเศษ ผู้เคยนั่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกาและเป็นประธานแผนกคดีเลือกตั้งมาก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งชื่อ ณรงค์ รักร้อย เคยนั่งผู้ว่าราชการมาหลายจังหวัด แนบแน่นกับฝ่ายการเมือง
ข้อมูลระบุว่าครั้ง ‘ณรงค์’ นั่งผู้ว่าฯอุทัยธานี มีรองผู้ว่าฯชื่อ อลงกต วรกี ปัจจุบันเป็น สว. อลงกต ท่านนี้มีชื่อถูกกล่าวหาคดีฮั้วสว.อยู่ด้วย คดีฮั้วสว.ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของ กกต.
พูดถึง กกต.ก็ต้องพูดถึงอีก 2 คนคือ เลิศวิโรจน์ กับ ฐิติเชฏฐ์ ซึ่งจะครบวาระ ในเดือนธันวาคม 2568 และเมื่อพ้นไป สว.ชุดปัจจุบันนี่แหละจะต้อง ‘รีบคัดเลือก’ เพื่อให้ทันต่อการจัดการเลือกตั้งทั่วไปและการลงประชามติ หาก นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ‘ยุบสภา’ตาม MOA ที่ทำไว้กับพรรคประชาชน
ท่ามกลาง ‘ตลาดนัดการเมือง’ ที่มีข่าว ‘ย้ายพรรค-เปลี่ยนสี-เปลี่ยนยี่ห้อ’ กันทุกวัน แต่ ‘กรรมการ’อย่าง กกต.กลับเงี่ยบฉี่
เมื่อคราว ครบรอบ 25ปี วันที่ 9 มิถุนายน 2566 กกต.ได้เปลี่ยนสโลแกนจากเดิม ‘สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม’ มาเป็น ‘สุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย’
18พฤศจิกายน ‘ห้ามกระพริบตา’ เด็ดขาด


