เรื่องมันมีอยู่ว่า พื้นที่ภาคใต้คือที่มั่นของประชาธิปัตย์ แต่ช่วงหลังมีนิยามสังวาสทางการเมืองเกิดขึ้น แย่งเก้าอี้ของประชาธิปัตย์ไป เลือกตั้งรอบใหม่ รอดูว่าจะเสร็จสมอารมย์หมายหรือไม่<>เวลานี้ภูมิใจไทยใส่ทุกอย่าง ทุกนโยบายเพื่อเรียกคะแนนล่วงหน้าในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
‘ปักษ์ใต้’สนามสังวาสการเมือง’
‘เดชอิศม์’ลังเล‘อยู่ต่อ-พอแค่นี้’
หลายวันก่อน นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า ด้วยเรื่องการสังวาสทางการเมือง ตอนหนึ่งระบุว่า การสังวาสทางการเมืองบางเรื่องก็มีเหตุผลพอรับฟังได้ บางเรื่องก็ไร้เหตุผล
การสังวาสทางการเมืองที่ไร้เหตุผล เป็นการ‘สังวาสต่างขั้ว ข้ามสายพันธุ์’ (SPECIES) แปลกที่ การสังวาสข้ามสายพันธุ์เกิดขึ้นมากที่สุดในภาคใต้ ดินแดนที่เคยได้ชื่อว่า มีสายพันธุ์ทางการเมืองแข็งแกร่งที่สุด ไม่เคยสังวาสข้ามสายพันธุ์
การเลือกตั้งคราวหน้า เขียนแปะหน้าบ้านไว้เลยว่า เป็นปักษ์ใต้สายพันธุ์ไหน จะเป็น‘ปักษ์ใต้ไม่กลายพันธุ์’ หรือเป็น ‘ปักษ์ใต้ที่กลายพันธุ์’ไปแล้ว
พูดถึง นิพิฏฐ์ ครั้ง‘ลาออก’จากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่ ‘ทำคลอด’ นิพิฏฐ์ออกมาเมื่อการเลือกตั้งปี 2535 โน่น ก็พเนจรมาแล้ว 2 พรรค ทั้งพรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายก็กลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในทุกวันนี้
ปักษ์ใต้ กับพรรคประชาธิปัตย์ ในอดีตดูจะเป็น ‘ของคู่กัน’ แต่สถานการณ์การเมืองวันนี้ มิได้เป็นเช่นนั้นไม่พื้นที่ ‘ปักษ์ใต้’ ของพรรคประชาธิปัตย์ถูก ‘ตีแตก’ ทั้งหมด
ล่าสุดที่ จ.สงขลา ที่มี 9 เขตเลือกตั้ง วันนี้ทำท่าไม่แน่เอาซะแล้ว ตระกูล ‘ขาวทอง’ ที่มีเดชอิศม์ อดีตเลขาธิการพรรคเป็นหัวหน้าคณะ เดชอิศม์ หรือ ‘นายกฯชาย’ ที่คนสงขลาเรียกกัน พาพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จนได้ ‘รางวัล’ เป็นเก้าอี้ รมช.สาธารณสุขและรมช.มหาดไทย ตามลำดับ

ที่ว่า ‘ไม่แน่’ เพราะเดิม พ่อ-แม่-ลูก ที่ประกอบด้วย เดชอิศว์ เขต 5 ,สุภาพร กำเนิดผล เขต6 และ ศักดิ์สิทธิ์ เขต 9 ซึ่งเดิมมีข่าวว่า จะย้ายซบ ‘พรรคกล้าธรรม’ แต่ ณ วันนี้ ‘กลุ่มเดชอิศม์’ กำลังเกิดอาการ ‘ลังเล’ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ เกิดกรณี ‘ชนนพัฒฐ์’ หรือยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่า วันนี้ กำลังต่อรองกับ กก.บห.ชุดใหม่ที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นหัวหน้าพรรค
นอกจากข่าวการ ‘เว้นวรรค’ ซึ่งทำท่าจะไม่จริงตามข่าวแล้วนั้น ‘เดชอิศม์’ ยังจะขอ ‘เขตเพิ่ม’ จากเดิม 3 เขตเป็น 4 เขตซะด้วยซ้ำ
ตกลง จ.สงขลา มี ‘นักการเมืองกลายพันธุ์’ มั้ยครับทั่น นิพิฏฐ์
<<<<<<>>>>>>
‘ประชาชน’พร้อมรับ‘คำท้า’
‘ภูมะเขือ-ผักไห่’ที่เห็นกับตา
เหลืออีก 76 วันจะถึงเส้นตาย ‘ยุบสภา’ 31 มกราคม 2569 ตามที่นายกฯหนู อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ‘นอนยัน’ ไว้กับพรรคประชาชนและ ประชาชนคนทั่วไป
ระหว่าง ‘120วัน’ ก่อนเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ‘คืนอำนาจ’ ให้ประชาชน นายกฯหนู ประกาศ แก้ไข4ปัญหาเร่งด่วน
1.ภัยเศรษฐกิจ ซึ่งนายกฯ หนู พร้อม ‘ดรีมทีม’ ก็ออกอาวุธในแบบ ‘ควิก-บิ๊ก-วิน’ อาทิ คนละครึ่ง
2.ภัยความมั่นคง โดยเฉพาะปัญหาไทยกัมพูชา ล่าสุด นายกฯ ประกาศฉีก ‘ปฏิญญาไทยกัมพูชา’ ที่เซ็นไว้ก่อนหน้านี้ที่มี โดนัลด์ ทรัมป์ บินมาเป็น สักขีพยาน
พร้อมเริ่ม ‘ปฏิญญาภูมะเขือ’ พื้นที่ที่ทหารไทยปักธงไตรรงค์ ไว้ หลังเส้นตายหยุดยิง 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายกฯหนู ซึ่งได้ลงพื้นที่และได้ ‘เห็นกับตา’ ตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ลังเลยที่ ‘แอ็คชั่น’ ออกไปแบบ ‘ถูกใจ’ คนทั้งประเทศ แม้บางฝ่ายจะบอกว่า น่าจะเร็วเกินไปก็ตาม
3.ภัยธรรมขาติ โดยเฉพาะสถานการณ์ ‘น้ำท่วมน้ำขัง’ ซึ่งกินพื้นที่ ‘วงกว้าง’ ประชาชนแถบจังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ‘อยู่กับน้ำ’ มานาน
ระหว่างลงพื้นที่ ‘ตรวจเยี่ยม’ แจกถุงยังชีพเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายกฯหนู ได้พูดกับประชาชนที่ประสบภัย ‘น้ำท่วม’ ตอนหนึ่งว่า
‘ภัยน้ำท่วมปีนี้ยาวนานกว่าทุกๆ ปี ครม.รับทราบถึงปัญหาอย่างดี ยอมรับว่าการบริหารจัดการเรื่องน้ำเรายังมีความไม่สมบูรณ์อย่างมากและยังมีอีกหลายจุดที่ต้องร่วมกันแก้ไข ซึ่งผมจะนำไปเร่งหาวิธีแก้ไขและเร่งอนุมัติให้โครงการทั้งหลายเกิดขึ้น เพื่อจะทำให้การไหลเวียนของน้ำการระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากกว่านี้"
‘ขอบคุณในความเสียสละ ทุกคนเครียด เจ็บปวด พวกผมอยู่ตรงนี้ มีความเจ็บปวดเหมือนกัน ยิ่งมาพบกับพ่อแม่พี่น้องในทางกายภาพ ความเป็นอยู่ แย่กว่าพวกผมแน่นอน อย่างน้อยบ้านในกรุงเทพฯน้ำไม่ท่วม ที่นี่พี่น้องน้ำท่วมบ้านทุกคน แต่ยังมีรอยยิ้ม ขอให้มั่นใจผมดีใจที่เห็นพี่น้องยิ้มได้ แม้เจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ยังให้กำลังใจ ผมย้ำว่าจะเร่งจัดการให้มีการอนุมัติโครงการให้เร็วที่สุด’
‘ตอนเป็น รมว.มหาดไทย มันก็สั่งได้แค่นี้ วันนี้เป็นนายกฯ แล้วสั่งให้หมด ใครไม่ทำน่าดู ไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะปีหน้าเลือกตั้ง ปีหน้าต้องไปเลือกตั้ง เพราะวันที่ 31 มกราคม 2569 ยุบสภาคืนอำนาจให้กับพ่อแม่พี่น้อง ถ้าพวกเราทำงานไม่ดี ไม่ต้องเลือกกลับมา แต่ถ้าทำดีเลือกกลับมาให้ครบจะได้มาทำต่อ ท้ากันอย่างงี้เลย พี่น้องเป็นคนตัดสินใจ ผมตัดสินใจอนาคตพวกผมไม่ได้ ถ้าไม่เลือกผม ผมก็ต้องไปหางานทำ ไปขายของเซเว่น ไปขายของบิ๊กซี แมคโดนัลด์ หรือมานั่งขายสายไหม ขายก๋วยเตี๋ยวเลย ไม่มีปัญหา แต่เชื่อว่าสิ่งที่เราทำทั้งหมด ด้วยหัวใจที่มีอยู่ ด้วยความสำนึกที่พ่อแม่พี่น้องมีพระคุณกับพวกผมจะเลือกพวกผมมาเป็น สส.ทั้งหมด ถ้า สส.ทำงานให้กับพี่น้องประชาชนไม่ได้ ก็อย่าไปเป็นมันเลย ไปขายเต้าฮวยดีกว่า’
ทั้งคำพูดทั้งการทำงานตลอดช่วงนั่งเก้าอี้ นายกฯหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันที่1 ตุลาคมที่ผ่านมา ดูเหมือน นายกฯหนูจะ ‘มั่นใจ’ ระดับหนึ่งแล้วว่า ‘ได้ใจ’ ประชาชน และน่าจะมากกว่าการเป็นรัฐบาล 2ปีของพรรคเพื่อไทยผ่าน 2นายกฯในช่วงที่ผ่านมา
ภาษาสื่อ ที่พาดหัวข่าวว่า ‘นายกฯท้าประชาชน’ เอาจริงๆหากดูคำปราศัยก็มีความหมายอย่างนั้น เมื่อนายกฯประกาศท้า เจ้าของอำนาจ‘อธิปไตย’ อย่างเราๆท่านๆก็ต้องรับ ‘คำท้า’ ของนายกฯโดยไม่มีเงื่อนไข
ดูลีลานายกฯชั่วโมงนี้ บอกเลยว่า กำลัง ‘หาตัวจับยาก’
///////


