เรื่องมันมีอยู่ว่า นักเที่ยวราตรีและนักดื่ม ได้สนุกสนานกันเต็มที่ รัฐบาลเตรียมเปิดเสรีดื่มเที่ยวยามค่ำคืนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว <>โครงการระดับแสนล้าน คลองชุดป่าสักอ่าวไทย ความยาว 135 กิโลเมตร แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
หมดยุค‘ห้ามขายเหล้า-ปิดตี4’
‘ควิกบิ๊กวิน’กระตุ้น‘ท่องเที่ยว’
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่2/2568 เมื่อวันที่13 พฤศจิกายรที่ผ่านมาที่มี โสภณ ซารัมย์ รองนายกฯเป็นประธาน สาระสำคัญคือการพิจารณา ใน 3 ประเด็น
ประเด็นแรก เวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 14.00 น. -17.00น. ซึ่งแนวโน้มคือ ‘ยกเลิกแน่’เพราะ โสภณ ให้เหตุผลว่า ‘มันหมดยุคแล้ว’ เพราะ ‘ต้นเหตุ’ ในอดีตที่ห้ามข้าราชการมาดื่มกิน ไม่เหมาะกับสภาพสังคมในปัจจุบัน
ประเด็นต่อมา การขยายเวลาปิดสถานบันเทิง ที่แม้จะยังไม่ชัดว่าจะ 02.00น.หรือ 04.00น.กันแน่ แต่ที่ชัดคือ ต้องมีการปรับเปลี่ยน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองในมิติด้านการท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กำลังอยู่ช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งเอาเข้าจริงๆ‘ช่วงนี้’ นี่แหละที่มีปัญหาเรื่องการจำหน่ายสุราและการดื่มสุรา รวมไปถึงเรื่องของอุบัติเหตุบนท้องถนน
โสภณ บอกในที่ประชุมว่า รัฐบาลอนุทินมีนโยบายว่า เรื่องใดก็ตามที่เป็นอุปสรรค ในการที่จะดูแลประชาชน หรือพัฒนาประเทศ ถ้าเป็นระเบียบเราจะแก้ระเบียบ หากเป็น พ.ร.บ.เราก็แก้ด้วย พ.ร.บ. เรื่องใดง่ายเราจะเร่งทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
‘มีกฎหมายแล้วไม่อยู่บนโลกของความเป็นจริง การปฏิบัติในการดำรงชีวิตของประชาชนไม่ได้ และนำไปสู่การปฏิบัติที่ยาก จึงกลายเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ หรือคนที่เกี่ยวข้องในการรักษากฎหมาย หาผลประโยชน์ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เราตระหนักและให้ความสำคัญว่ากฎหมายต้องชัดเจนและปฏิบัติได้จริง’
ประเด็นการ ‘ขยายเวลา’ ทางภาคท่องเที่ยวอยากให้ยาวไปถึงเวลา 04.00 น.นั้น กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ไม่ได้ เพราะถ้าไปดูสถิติของการเกิดอุบัติเหตุช่วงเวลา 02.00 น.– 03.00 น. จะพบว่าเกิดขึ้นจำนวนมาก อย่าลืมว่า ‘ช่วงปีเก่าจะเข้าปีใหม่’ กระทรวงสาธารณสุขมีภารกิจสำคัญคือ การส่งเสริมให้ ‘งดการดื่ม’
สรุปคือ ‘ขยายเวลาแน่’แต่จะเวลาไหนนั้นให้รอผลการประชุมคณะกรรมการฯก่อน
ส่วนประเด็น ‘โซนนิ่ง’ นั้น อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งที่ผ่านมา ก็เคยนำร่องในหลายพื้นที่มาก่อนหน้านี้แล้ว
พรรคภูมิใจไทยในฐานะรัฐบาลนั้นมีเวลา 120 วัน แต่เวลาก็น่าจะเป็น ‘อุปสรรค’ หากรัฐบาลจะตัดสินทำอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา ปัญหา ‘แอลกอฮอล์’เป็นปัญหาที่ถกเถียงกันมานานในสังคมไทย
การจะปรับเปลี่ยนอะไรให้ตาม ‘ยุคสมัย’ น่าจะเป็น ‘ผลบวก’ มากกว่าการมองปัญหาโดยไม่ได้ดูการปฏิบัติที่แท้จริงในสังคมไทย นโยบายแอลกอฮอล์ ถือเป็นอีกปัญหาที่ท้าทายรัฐบาล และประชาชนว่า จะเอาพรรคภูมิใจไทย ‘กลับมา’ เป็นรัฐบาลต่อไปอีกหรือไม่
<<<<<>>>>>
ทำความรู้จักคลอง‘ป่าสัก-อ่าวไทย’
ควัก‘แสนล้าน’แก้น้ำหลาก-น้ำแล้ง
ระหว่างลงพื้นที่ ‘ซับน้ำตา’ ประชาชน ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย เปิดเผยถึง ‘บิ๊กโปรเจ็กต์’ เพื่อแก้ไขปัญหา ‘น้ำท่วม’ ระยะยาวไว้ว่า รัฐบาลจะมีโครงการขุดคลอง ‘ป่าสักอ่าวไทย’ ที่จะมีขนาดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาอีกหนึ่งเส้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการผันน้ำเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัวสร้าง จะเร่งอนุมัติ ก่อนที่จะยุบสภา
นายกฯหนู บอกด้วยว่า
‘ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาด้านการเมือง คนอนุมัติจะได้เสียง ได้อะไร เอาประชาชนเป็นตัวประกัน เราไม่เอาแล้ว เราจะดูหากเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศจะเร่งอนุมัติ’

ป่าสัก-อ่าวไทย โครงการนี้ กรมชลประทานเป็นเจ้าของโปรเจ็กต์ เรียกกันแบบราชการว่า โครงการคลองขุดใหม่ป่าสัก-อ่าวไทย เป้าหมายหลักเพื่อแก้ปัญหา ‘น้ำหลาก-น้ำแล้ง’
ข้อมูลของ ‘กรมชลฯ’ระบุว่า น้ำหลากจากภาคเหนือเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง คลองชลประทานทั้งฝั่งตะวันตก-ฝั่งตะวันออกลงสู่อ่าวไทยมีศักยภาพไม่พอในการระบายน้ำ ส่งให้พื้นที่ ‘เจ้าพระยาตอนล่าง’ได้รับความเสียหาย
หลังมหาอุทกภัยในปี 2554 ‘กรมชลฯ’ ได้ศึกษาการจัดการน้ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จนเป็นที่มาของโครงการ ‘ป่าสัก–อ่าวไทย’
โครงการคลองระบายน้ำหลากป่าสัก–อ่าวไทย เป็นคลองขุดใหม่ที่ทำหน้าที่ระบายน้ำหลาก จากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักให้ไหลลงสู่อ่าวไทย มีความยาวรวมทั้งสิ้นประมาณ 135 กิโลเมตร เริ่มจากแม่น้ำป่าสักบริเวณ ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ผ่านพื้นที่ 38 ตำบล 11 อำเภอ ใน 5 จังหวัด คือ สระบุรี, พระนครศรีอยุธยา นครนายก, ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ รวมพื้นที่ก่อสร้างโครงการ 16,305 ไร่ ใช้งบประมาณราว1แสนล้านบาท
ความพยามยาม บริหารจัดการน้ำ ในสมัยรัฐบาล ‘ลุงตู่’ ก็เคยมี ‘บิ๊กโปรเจ็กต์’ มาแล้ว คราวนั้นครั้งการประชุมครม.สัญจร จ.พระนครศรีอยุธยา มีการอนุมัติทำโครงการ ‘เจ้าพระยา2’ วงเงินกว่า 20,000 ล้านบาท ขุดคลองขนาดความกว้าง 200เมตร จาก อ.บางบาล มาออก อ.บางไทร ระยะทาง 22.5 กิโลเมตรโครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญคือ การป้องกันน้ำท่วม จ.พระศรีอยุธยา แหล่งโบราณสถาน มรดกโลก ล่าสุด โครงการ ‘เจ้าพระยา2’ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว
บริหารจัดการน้ำ บริหารจัดการคน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ บริการจัดการความเดือดร้อน ชดเชย-เยียวยา ทั้งหมดต้อง ‘มาครบ’ ไม่เช่นนั้นก็ ‘จมน้ำ’ กันซ้ำซากทุกปี


