เรื่องมันมีอยู่ว่า พรรคฝ่ายแค้นเตรียมเปิดศึกซักฟอก รัฐบาลภูมิใจไทยเอาคืนประกาศพร้อมยุบสภา 12 ธันวาคม หากฝ่ายค้านต้องการ<>สนามผู้ว่ากรุงเทพมหานคร กำลังรอคำตอบจากแชมป์เก่า ผู้ว่าที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกว่าพอแล้ว หรือไปต่อ <>พบคำตอบในเรื่องมันมีอยู่ว่า
ขู่‘ยุบสภา’12 ธ.ค.สู้‘ซักฟอก’
‘เพื่อไทย’เอาแน่ถล่ม‘อนุทิน’
ทำท่า ‘ฝ่ายแค้น’อย่างพรรคเพื่อไทย ยังไงเสียก็จะเล่นเกม ‘ไม่ไว้วางใจ’ รัฐบาลเสียงข้างน้อยของ อนุทิน ชาญวีรกูล ให้จงได้ เห็นท่าทีหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์แล้ว เชื่อสนิทใจเลยว่า เปิดสภา 12 ธันวาคมมายื่น ‘ญัตติซักฟอกรัฐบาลทันที’ หัวหน้าหนิมโต้ว่า หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม ม.151 แล้ว ‘ยุบสภา’ ไม่ได้เพราะรธน.เขียนไว้ชัดด้วยถ้อยคำว่า ‘เสนอญัตติ’ ไม่ใช่ใช้คำว่า ‘บรรจุญัตติสู่สภา’
พรรคเพื่อไทย หมายมั่นปั้นมือจะ ‘ขยี้’ อนุทิน และ ‘ครูใหญ่’ ให้แหลกลาญ ในกรณี เขากระโดง ,ฮั้ว สว. และโมโต้จีพี เพื่อไทยไม่ได้หวังเสียงไม่ไว้วางใจจะเกินกึ่งหนึ่ง เพราะ ‘วงใน’ รู้กันว่า ตราบใดที่การแก้ไขรธน.มาตรา256 ไม่ผ่านวาระที่3 พรรคประชาชนไม่มีทางเอาด้วย
แต่การเมืองเขาตัดสินใจกัน ‘หน้างาน’ หากพรรคประชาชนเปลี่ยนใจ ‘เอาด้วย’ กับพรรคเพื่อไทย อนุทิน ตายคาสภา ‘ดับฝัน’ การเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งทันที
ที่สำคัญ หากนายกฯตกเก้าอี้จากการไม่ไว้วางใจ จะไม่สามารถ ‘รักษาการ’ ทั้งคณะอีกต่างหาก ถึงตรงนั้น ‘สภา’ จะต้องหา นายกฯคนใหม่มาเพื่อเป็นรัฐบาลจึงจะสามารถ ‘ยุบสภา’ ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลกที่ ‘อนุทิน’ และ ‘ครูใหญ่’ ก็อ่านเกมออก ทางเลือกจึงมีแค่ ‘ยุบสภา’ ก่อนวันที่ 12 ธันวาคมซึ่งเป็นวัน ‘เปิดประชุม’
ฝ่ายค้ำอย่างพรรคประชาชน แม้จะประกาศ ‘งดออกเสียง’ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อให้อนุทินเป็นรัฐบาลต่อไป ก็ไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะเป็นตามที่ประกาศ แค่อ้างว่า ‘หลักฐาน’ ชัดเจนยกมือให้พรรคเพื่อไทยก็ ‘จบข่าว’ ทันที
ที่อนุทิน ไปพูดบนเวทีในงานสัมมนา ‘PRACHACHAT OUTLOOK THAILAND 2026 : ปรับ-เปลี่ยน-ไปต่อ’ ที่ว่า
‘ปีหน้ายังไงก็ต้องเลือกตั้ง เพราะสภาพการเมืองที่มันดำรงมาจนถึงจุดนี้ก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่ามันไปไม่ได้แล้ว รัฐบาลเสียงข้างน้อยมันจะไปได้อย่างไร ไม่ต้องมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะอภิปรายก็แพ้ ผมก็บอกแล้วว่าวันที่ 31 มกราคม 2569 ยุบสภา แต่ท่านรอถึงวันที่ 31 มกราคม 2569 ไม่ไหวก็ไม่มีปัญหา ท่านจะให้ผมยุบสภาวันที่ 12 ธันวาคม 2568 วันเปิดสภา ผมก็พร้อมยุบ แต่จะมีอะไรที่มันทำแล้วไม่เสร็จหลายอย่างท่านก็ต้องไปเบลม (โทษคนนั้น) จะมาโทษผมไม่ได้ เพราะผมไม่ยอม ถ้าบอกว่าให้อภิปรายแล้วให้โหวต อภิปรายห่วยขนาดไหนก็แพ้ และต่อให้อภิปรายดีขนาดไหนหรือตอบโต้ชี้แจงดีขนาดไหนก็แพ้’
คำตอบน่าจะชัดเจนที่สุด
ปัญหาขณะนี้คือ ‘จะหยุด’ การเสนอญัตติของพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร จะให้เสียงไม่ถึง1ใน5ก็เป็นเรื่องยาก หากปล่อยให้ยื่นญัตติ แล้วพรรคประชาชนยืนยันว่า ‘หนุนรัฐบาล’ ทุกประตู พรรคประชาชนก็เสียหาย ‘อนุทิน’ คงไม่ปล่อยให้เดินไปถึงตรงนั้นเพราะ ‘เสี่ยงเกินไป’
ยุบสภา 12 ธันวาคม หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ‘ญัตติ’ ไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยโดยแท้
<<<<<<>>>>>>
‘สนามกทม.’กับ‘ห้วง180วัน’
‘หึ่ง’ผู้ว่าฯกทม.อยู่ไม่ครบ4ปี
ได้ยินข่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) จัดการประชุมชี้แจง ‘กฎกติกามารยาท’เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภา กทม.หรือ สก.และผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง
ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ แสงคำเลิศ ผอ.กกต.กทม. ระบุว่า ในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้จะเข้าสู่ห้วง ‘180 วันอันตราย’ ซึ่งผู้สมัครจะต้องระมัดระวังไม่กระทำการที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยเฉพาะช่วง ‘ปีใหม่-วันเด็ก-สงกรานต์’
ผอ.กกต.กทม. ยอมรับว่า ในห้วง 180 วันนี้มี ‘ความเป็นห่วง’ การกระทำลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง เช่น การให้ การเสนอว่าจะให้ การสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ การจัดเลี้ยง การหาเสียงโดยการหลอกลวง รวมถึงลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
ตามข่าวระบุว่า ระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้ง สก. และผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 21 พฤษภาคม 2569 โดยวันที่ 23 พฤษภาคม ก็จะประกาศให้มีการเลือกตั้ง และเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 25-29 พฤษภาคม จากนั้นวันที่ 5 กรกฎาคม เป็นวันเลือกตั้ง
ที่ กกต.กทม.ระบุให้วันที่ 5 กรกฎาคม เป็นวันเลือกตั้งทั้งผู้ว่าฯกทม.และสก.นั้นอยู่ในเงื่อนไขของการ ‘ครบวาระ’ แต่หาก ‘ไม่ครบวาระ’ ต้องจัดการเลือกให้เร็วกว่านั้น เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ นายกฯอบจ.ในหลาย ๆ จังหวัดก่อนหน้านี้ ที่อ้างเรื่อง ‘180วันอันตราย’
ก่อนหน้านี้มีข่าว ‘กระเส็นกระสาย’ ออกมาว่า ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่แม้จะยังไม่ออกจากปากว่าจะไปต่อหรือไม่ แต่ ‘ทุกฝ่าย’ เชื่อว่าไปต่อแน่ๆนั้น จะไม่อยู่จน ‘ครบวาระ’

เพราะ ‘สุ่มเสี่ยง’ จากกรณี ‘ห้วง 180 วันอันตราย’
แม้ข่าวนี้จะยังไม่ ‘ยืนยัน’ ก็ตาม แต่หากดูจากอาการของพรรคประชาชน ที่มีความสนใจ‘สนามกทม.’อยู่แล้ว กำลังที่จะทำการเปิดตัว ‘ผู้พันปุ่น’หรือ น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นผู้สมัครชิงผู้ว่าฯกทม.กับ ผู้ว่าฯชัชชาติ ก็น่าจะ ‘สะท้อน’ อะไรบางอย่างออกมาไม่น้อย เพราะการเมืองมันเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน
การเมืองสนามใหญ่กำลังร้อนระอุ การเมืองสนามกทม.ก็ดูว่าจะไม่ต่างกันมากนัก ไม่รู้เหมือนกันนะว่า ‘สนามไหน’ จะคืนอำนาจให้ประชาชน ‘ก่อนกัน’


