แจ้งความดำเนินคดี ‘กกต.ทั้งคณะ-เลขาฯ’ ฐานสอบ ‘ฮั้วเลือก สว.’ ล่าช้า

3 ต.ค. 2568 - 09:20

  • ‘สว.สำรอง’ แจ้งความดำเนินคดี ‘กกต.ทั้งคณะ-เลขาฯ’

  • เอาผิด ม.157 ปมสอบคดี ‘ฮั้วเลือก สว.’ ล่าช้า

  • ย้ำปกป้องประชาธิปไตย เรียกร้องเปิดเผยความจริง

แจ้งความดำเนินคดี ‘กกต.ทั้งคณะ-เลขาฯ’ ฐานสอบ ‘ฮั้วเลือก สว.’ ล่าช้า

อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สำรอง พร้อมทีมทนายความ เดินทางไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เพื่อยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งคณะ รวมถึง แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนทำให้กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ผ่านมาเสียหายอย่างร้ายแรง โดยได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ กกต. และเลขาธิการ กกต. ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 172 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า “อาจมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. รอบที่ผ่านมา”

อัครวัฒน์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นการเมือง แต่เป็นการปกป้องหลักการประชาธิปไตย และในฐานะผู้มีส่วนได้เสียในกระบวนการเลือกตั้งวุฒิสภามีสิทธิที่จะติดตามและเรียกร้องให้ความจริงถูกเปิดเผย คดีที่มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่แรกกลับถูกปล่อยให้ยืดเยื้อนานนับเดือนนับปี โดยที่ กกต. ไม่ได้เร่งตรวจสอบหรือชี้แจงข้อมูลต่อประชาชน ทั้งที่มีสำนวนการสืบสวนเบื้องต้นอยู่ในมือแล้ว นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลต่อการแต่งตั้งบุคคลในกระทรวงยุติธรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรม โดยเกรงว่าการเปลี่ยนตัวบุคคลในบางตำแหน่งอาจกลายเป็นการแทรกแซงทางอ้อม

ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2567 ซึ่งเป็นวันที่มีประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน เวลากว่าปีได้ล่วงไป แต่ กกต. ยังไม่สามารถชี้แจงหรือแก้ไขข้อสงสัยได้ ทั้งที่มีกระแสสังคมและหลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ถึงการทุจริต ที่ผ่านมาเราทวงถาม กกต. มาตลอด แต่ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน ประชาชนจึงยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีต่างๆ ถูกปล่อยให้ยืดเยื้อ ทั้งที่ความจริงหลายเรื่องปรากฏชัดแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในระบบประชาธิปไตย ทุกคนคาดหวังว่าการเลือกตั้ง สว. จะต้องสุจริต เที่ยงธรรม และเป็นไปตามระเบียบของ กกต. แต่สิ่งที่ปรากฏกลับตรงกันข้าม

อัครวัฒน์ กล่าว

อัครวัฒน์ ยังเรียกร้องให้สังคมจับตา และให้กำลังใจผู้ที่ต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อเปิดเผยความจริง พร้อมทั้งผลักดันให้ผู้ที่มีพฤติการณ์ผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบ พร้อมขอให้ กกต. เปิดเผยสำนวนและหลักฐานต่อสาธารณะ หากไม่มีเหตุผลสมควรในการปกปิด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาสืบสวนโดยไม่ถูกแทรกแซง โดยขอให้ประชาชนติดตามและร่วมกันผลักดันความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์