‘เพื่อไทย’ เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.อีก 31 เขต

7 พ.ย. 2568 - 06:42

  • ‘เพื่อไทย’ เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.รอบ 3 อีก 31 เขต

  • ส่งอดีตเลขาฯ ป.ป.ส.สู้ ‘ธรรมนัส’ ลูก ‘เก่ง การุณ’ โผล่ลง กทม.ด้วย ‘จุลพันธ์’ โว พท.พร้อมสุด

‘เพื่อไทย’ เปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.อีก 31 เขต

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำพรรค เปิดตัวผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย เป็นครั้งที่ 3 รวมทั้งสิ้น 18 จังหวัด 31 เขตเลือกตั้ง โดยแกนนำได้สวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้กับผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครด้วย

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo07.jpg

สุริยะ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง สส.ของพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นว่าบุคคลที่ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการคัดเลือกมานั้น เป็นบุคคลที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ เราจึงได้มีการมาเปิดตัวในวันนี้ เชื่อมั่นว่าถ้าพวกเราทำงานกันหนัก บุคลากรที่เราเปิดตัวในวันนี้ ก็จะมีจำนวนพอสมควรที่จะได้รับการคัดเลือกจากจากประชาชน เทคะแนนเสียงมาเป็น สส.พรรคเพื่อไทย

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo09.jpg

จุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเปิดตัวซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ของพรรคเพื่อไทยสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในต้นปีหน้า ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของพรรคเพื่อไทย ความพร้อมของพรรคที่มีผู้เสนอตัวประสงค์จะลงสมัคร สส.และเป็นบุคลากรมากด้วยประสบการณ์ อยู่ติดพื้นที่ เป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชน วันนี้มีคนไหลเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และพร้อมลงสมัคร สส.จำนวนมาก ทางพรรคคัดสรรอย่างดีที่สุด ต้องเป็นบุคลากรที่มีอุดมการณ์ มีความคิดตรงกันกับพรรคเพื่อไทย และเป็นที่รู้จัก ทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน และต้องมีแนวโน้มว่าจะได้รับสมัครเป็น สส.และได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่ สส.

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo02.jpg

จุลพันธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราคัดสรรออกมาอีกหนึ่งรอบ พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคซึ่งเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งนำทุกการเมืองในระบบการเมืองไทยไปแล้ว เพราะเรามีการเปิดตัวไปแล้วทั้งสิ้น 3 รอบ รวมทั้งหมดจำนวน 265 เขตเลือกตั้ง นี่คือความพร้อมของพวกเรา วันนี้เราพร้อมก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อนำนโยบายที่ดี นำทางออกแสงสว่างให้กับประชาชน ในระยะเวลาที่เหลือเพียงแค่ 3-4 เดือนข้างหน้า ก่อนที่จะการเลือกตั้งใหญ่ ก็ขอให้ลงพื้นที่หาพี่น้องประชาชน นำนโยบายไปมอบให้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบแทน และต้อนรับที่ดีจากพี่น้องประชาชน ชัยชนะจะเป็นของท่าน พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครเต็มทุกพื้นที่ เราคาดหวังว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป เมื่อประสบความสำเร็จ เราจะเดินหน้านโยบายส่งมอบให้กับประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนต่อไป ขอให้ให้กำลังใจพวกเราทุกคน และขอให้เดินร่วมกันอย่าละทิ้งอุดมการณ์ ขอให้เดินและสู้ไปด้วยกัน

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo04.jpg

ทั้งนี้ สำหรับผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย 31 คน ประกอบด้วย

1.         ปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ จ.เชียงใหม่

2.         บัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ จ.เชียงใหม่

3.         วิชัย ไชยมงคล จ.พะเยา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จ.พะเยา เขต 1 ซึ่งเป็นเขตเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.กษตรและสหกรณ์

4.         โกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ จ.อุดรธานี

5.         ณัฐวัชต์ พิมพะนิตย์ จ.กาฬสินธุ์

6.         ชนะวุธ อุทโท จ.กาฬสินธุ์

7.         รุ่งโรจน์ เย็นสบาย จ.ขอนแก่น

8.         พิเชษฐ์ กุมารสิทธิ์ จ.ยโสธร

9.         สนั่น พัชรเตชโสภณ จ.ชัยภูมิ

10.   วัชรากร เลิศด้วยลาภ จ.นครราชสีมา บุตรชาย สส.ศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ

11.   วัชรพล เชื้อคง จ.อุบลราชธานี บุตรชาย สมคิด เชื้อคง

12.   อิสระพงศ์ อุประ จ.สกลนคร

13.   ณัฐณิชา บุรณศิริ จ.พระนครศรีอยุธยา

14.   ธนพร โสมทองแดง จ.พระนครศรีอยุธยา

15.   พหล วรปัญญา จ.ลพบุรี

16.   นัฐยุทธ ภู่สุวรรณ จ.สิงห์บุรี

17.   ณษกร เครือศิริ จ.อ่างทอง

18.   ไก่ ห้องริ้ว จ.ราชบุรี

19.   รัฐตะ ดิศโพธิ์ จ.ปทุมธานี

20.   ษรกฤต ผลลูกอินทร์ (คุณ) จ.ชลบุรี

21.   รัฐกิจ เฮงตระกูล จ.ชลบุรี

22.   ชาญยุทธ เองตระกูล จ.ชลบุรี

23.   ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ กทม.

24.   บุณยกร ดำรงรัตน์ กทม.

25.   สหัสวรรษ วีระมงคลกุล กทม.

26.   พุฒิพงศ์ อินทรสุวรรณ กทม.

27.   ภูมิพัฒน์ โหสกุล กทม.บุตรชายของ การุณ โหสกุล

28.   ชนิดาภา สงวนพวก กทม.

29.   วิชญ์วิสิษ โชติกิจพิศาล กทม.

30.   ประเวช แสวงสุข กทม.

31.   สุไพรพล ช่วยชู กทม.คู่สมรสของ จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo06.jpg

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจในการเปิดตัวผู้สมัคร ชุดที่ 3 ในวันนี้ เพราะได้คัดสรรผู้สมัครอย่างดี แต่ละเขตเลือกตั้งมีการสัมภาษณ์ไม่ต่ำกว่า 3 - 5 คน โดยดูคนที่มีอุดมการณ์ มีแนวความคิดที่ตรงกัน สนับสนุนแนวคิด และสนับสนุนยุทธศาสตร์ของพรรคมาตลอด จะเห็นว่าผู้สมัครครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยมีความหลากหลาย มีทั้งคนที่เป็นเครือข่ายเก่า อาจจะเป็นคนที่เคยลงสมัครแล้ว รวมถึงคนที่ไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งมีที่มาหลายแบบ บางคนทำงานกับพรรคมาอย่างยาวนาน แต่อยู่เบื้องหลัง เป็นทีมนโยบาย ทีมนักคิด คอยช่วยในเชิงนโยบาย ซึ่งพรรคเห็นแวว และความสามารถ ซึ่งก็มีความประสงค์ที่จะลงสมัคร จึงคัดสรรมาเป็นผู้สมัครในวันนี้ บางคนสมัครผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งวันที่พบกันครั้งแรก ว่าทำไมเรายังถามว่าทำไมถึงพึ่งพบกัน เพราะเป็นคนที่มีศักยภาพสูงมาก วันนี้มีผู้สมัครที่หลากหลาย พรรคเพื่อไทยดูเรื่องอุดมการณ์ และโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. ซึ่งจากการคัดสรรอย่างละเอียดถี่ถ้วน เปิดตัวบุคลากรที่เปิดตัวไปแล้ว เป็นคนที่พรรคมีความเชื่อมั่นว่า จะชนะเลือกตั้ง วันนี้เปิดตัวไปแล้ว 265 เขตเลือกตั้ง นำหน้าพรรคอื่นไปเยอะ ส่งสัญญาณว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo05.jpg

ส่วนจากหน้าตาของผู้สมัคร และศักยภาพ ยังตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 200 เขต หรือ มองมากกว่านั้นหรือไม่อย่างไร จุลพันธ์ กล่าวว่า แน่นอน ตอนนี้ยืนอยู่ข้าง สุริยะ ก็มีความมั่นใจ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคขนาดเล็ก มีเกียรติประวัติยาวนาน มีผลงานให้กับประชาชน นโยบายหลายอย่างยังติดตราตรึงใจ ซึ่งคิดว่า 90% มาจากไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทยทั้งนั้น ดังนั้น สิ่งที่ได้ทำมายังอยู่ในหัวใจประชาชน และยังยึดมั่นในสิ่งที่จะทำให้ประชาชน นั่นคือ นโยบายที่ดี เชื่อว่าตัวเลขที่มองไว้ โดยเฉพาะการชนะการเลือกตั้งที่จะมาถึง เป็นสิ่งที่สามารถบรรลุ และทำได้

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo08.jpg

ขณะที่กระแสภาพรวมของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรบ้าง จุลพันธ์ กล่าวว่า มองได้หลายมุม บางคนบอกว่าช่วงนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ในภาวะที่เพลี่ยงพล้ำ ซึ่งไม่ได้ปฏิเสธ เรามีความเพลี่ยงพล้ำจริง เพราะเปลี่ยนจากสถานะจากแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้าน และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วม MOA ตั้งรัฐบาล หากถามว่าเพลี่ยงพล้ำมากหรือไม่ ก็ยอมรับได้ ไม่ได้แปลกอะไร แต่แม้จะเป็นวันที่หลายคนปรามาส ว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะเพลี่ยงพล้ำ กระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยในแต่ละภูมิภาคก็ไม่ได้ตกลงอย่างมีนัยยะ ยังอยู่ในระดับ 20% นี่ขนาดบอกว่าเรากำลังเพลี่ยงพล้ำ ส่วนคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกพรรคใด ก็มีอีก 30 - 35% นั่นหมายความว่า โอกาสสำหรับพรรคเพื่อไทยที่จะทำงาน และชนะใจประชาชน ด้วยนโยบาย บุคลากร และด้วยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะมาถึง เชื่อว่า ยังมีอยู่ โดยจะทำให้ดีที่สุด เรามองโพล เรามองสิ่งที่คนภายนอกมองเข้ามา เป็นเพียงเครื่องเตือนใจ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การทำให้พรรค การคัดสรรบุคลากรให้อยู่ในจุดที่ดีที่สุด ประชาชนจะได้ตัดสินใจในการเลือกตั้ง และเลือกพรรคเพื่อไทย

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo03.jpg

สำหรับกรณีที่บางเขตพ่อ กับ ลูก อยู่ต่างพรรคกัน การแข่งขันจะเป็นอย่างไร จุลพันธ์ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่สำหรับประเทศไทย และทุกที่ในโลก ระบอบประชาธิปไตย ครอบครัวเดียวกัน มีอุดมการณ์แนวคิดที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ แต่ยืนยันว่า คนที่มาอยู่กับพรรคเพื่อไทยทุกคน ยืนยัน ในอุดมการณ์ และจิตใจที่ยึดมั่นกับพรรคเพื่อไทยที่พร้อมจะเดินไปด้วยกัน

ขณะที่พื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่วันนี้ไม่มีตระกูล ‘คุณปลื้ม’ มาเปิดตัวด้วยนั้น สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่ายังอยู่กับพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ กล่าวว่า ขอไม่ตอบเป็นรายคน เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการคัดสรร และมีการไปยกอ้างถึงบุคคลมาร่วมที่ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวในวันนี้อาจจะไม่เหมาะสม

ส่วนการที่ลูกชายของ การุณ โหสกุล มาร่วมเปิดตัววันนี้ เป็นสัญญาณว่า การุณ จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จุลพันธ์ ระบุว่า ภูมิพัฒน์ โหสกุล บุตรชายการุณ  มีความพร้อม บรรลุนิติภาวะแล้ว มาสมัครกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งความจริงแล้วก็ทำงานมากับพรรคเพื่อไทย เดินตามกันมาในพรรค 10 กว่าปีแล้ว อยู่ที่ตนเองเห็นแวว และความตั้งใจ วันนี้มีความประสงค์ที่จะมาสมัคร เราก็ยินดี ซึ่งบุคลากรทั้งหมดของเขตนั้น นายภูมิพัฒน์ มีความพร้อมที่สุดในการลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงคัดสรรมา

pheuthai-7nov25-SPACEBAR-Photo01.jpg

ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนตัว หรือ สลับตัวผู้สมัครอีกหรือไม่ ในระหว่างที่ระฆังการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในทางกฎหมายไม่มีข้อห้ามเรื่องการสลับ แต่คงจะไม่สลับแล้ว และโดยข้อกฎหมายในการเปิดตัวผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเรียกว่า ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะมีกระบวนการที่จะต้องทำ ประเด็นแรก คือ ทุกพรรคต้องดูกระแสของประชาชน ว่า สุดท้ายแล้วการตอบรับของผู้สมัครเป็นอย่างไรเป็นอย่างไร ประเด็นที่สอง คือ ดูการทำงาน ว่า ขยัน และ รับฟังปัญหาประชาชน นำนโยบายของพรรคไปให้ประชาชนอย่างไร ต้องตรวจการบ้านกันและกัน ทั้งพรรค และบุคลากร และสุดท้ายต้องผ่านกระบวนการไพรมารีโหวต จึงยังไม่เรียกว่าผู้สมัคร สส. จนกว่ากระบวนการจะครบถ้วน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์