











กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรม
กรมการศาสนาได้ประสานความร่วมมือกับองค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ระบุว่า “การจัดพิธีทางศาสนา มหามงคล 5 ศาสนา ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และพระองค์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ มุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 รวมทั้งทรงอุปถัมภ์และส่งเสริมกิจการทางศาสนาต่างๆ อย่างเสมอภาค และทรงทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาติให้คงอยู่สืบไป”
สำหรับการจัดกิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรข้อมงคล และพิธีทางศาสนา 5 ศาสนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ได้แก่ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ (ศาสนาพุทธ) พิธีดุอาอ์ขอพร (ศาสนาอิสลาม) พิธีอธิษฐานภาวนา (ศาสนาคริสต์) พิธีสวดมนต์ขอพร (ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู) และพิธีสวดอัรดาสและกีรตัน (ศาสนาซิกข์)
นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านศาสนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดแสดงศาสนวัตถุสำคัญ และการสาธิตผลิตภัณฑ์ชุมชนศาสนิกสัมพันธ์จาก 10 ชุมชนของแต่ละศาสนา เป็นการสะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเชื่อ และอัตลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละศาสนา พร้อมทั้งแสดงถึงความร่วมมือของคนชุมชนในการสื่อสารคุณค่าและภูมิปัญญาของตนเองต่อสังคมในวงกว้าง
ในส่วนของภูมิภาค กระทรวงวัฒนธรรมได้ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด (สวจ.) ร่วมมือกับส่วนราชการ องค์การศาสนา องค์กรภาคเอกชน วัด และศาสนสถาน จัดพิธีทางศาสนาเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระราชกุศลตามความเหมาะสมของสถานที่ รวมถึงร่วมประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ประดับธงชาติ ธง วปร. ตามสถานที่ราชการ วัด ศาสนสถาน สถานศึกษา สำนักงาน ตลอดถึงอาคารบ้านเรือนของประชาชน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า “พิธีทางศาสนาในครั้งนี้ มิใช่เป็นเพียงกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนถึงพลังแห่งความศรัทธา ความสมานฉันท์ และการอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวของประชาชนในสังคมพหุวัฒนธรรม ภายใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงทำนุบำรุงศาสนา ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการยึดมั่นในหลักธรรมทางศาสนา ปฏิบัติตนในทางคุณงามความดี และร่วมสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งศรัทธา ความเข้าใจ และความสามัคคีอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมสาธิตจาก 10 ชุมชนศาสนิกสัมพันธ์ เช่น ร้อยมาลัย พับใบเตย เขียนอักษรอาหรับ คลุมฮิญาบ โพกหัวชิกข์ และชิมขนมพื้นถิ่นหลากหลาย เช่น ขนมฝรั่งกุฎีจีน เกชาดัช ชาโมซา ชาอินเดีย ฯลฯ