ไฟโหม ‘เนปาล’ สมบัติ 3 ก๊ก - คนรุ่นใหม่ VS อำนาจเก่าคืนชีพ

12 ก.ย. 2568 - 11:23

  • 17 ปี หลัง ‘เนปาล’ เป็น ‘สาธารณรัฐ’ โดยมี 3 พรรคการเมือง ผูกขาดอำนาจ ภายใต้การเมืองแบบ 3 ก๊ก ทำให้การเมืองไร้เสถียรภาพ 17 ปี มี นายกฯ 13 คน

  • เมื่อปี 2023 ที่ทั้ง 3 พรรคข้างต้น จับมือกันตั้งรัฐบาล โดยมี ‘พรรค Rastriya Swatantra Party ที่เป็น ‘พรรคคนรุ่นใหม่เนปาล’ ทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ ในสภาฯ

ไฟโหม ‘เนปาล’ สมบัติ 3 ก๊ก - คนรุ่นใหม่ VS อำนาจเก่าคืนชีพ

เหตุการณ์จลาจลใน ‘เนปาล’ เมื่อ ‘ขยะใต้พรม’ ถูกเผยออกมา ทำให้เห็นถึง ‘โครงสร้างการเมือง-สังคม’ ที่ซับซ้อนของ ‘เนปาล’ ตลอดช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ที่ขยายภาพเหตุการณ์ครั้งนี้ มากกกว่ามิติ ‘คนรุ่นใหม่’ เคลื่อนไหวการเมือง ที่มี ‘ตัวละครเบื้องหลัง’ จำนวนมาก รวมทั้งปรากฏการณ์ ‘เอเชียใต้สปริง’

ทีมข่าว ‘สเปซบาร์’ แลกเปลี่ยนมุมมองกับ ‘ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก’ ผู้ศึกษาการเมืองและสังคมในเอเชียใต้ ที่เป็นเจ้าของเพจ ‘กระแสเอเชียใต้’ ได้สะท้อนมุมมองต่อเหตุการณ์ในทุกมิติ

ศึก 3 ก๊ก 17 ปี 13 นายกฯ สมบัติผลัดกันชม

17 ปี หลัง ‘เนปาล’ เปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ‘ระบอบประชาธิปไตย’ ที่มี ‘กษัตริย์’ อยู่ภายใต้ รธน. มาเป็น ‘สาธารณรัฐ’ โดยมี 3 พรรคการเมือง ได้แก่ Unified Marxist Leninist (Communist Party of Nepal) , Napali Congress และ Maoist Centre หรือ Nepal Socialist Party

ผูกขาดอำนาจ สลับกันมีอำนาจ ภายใต้การเมืองแบบ 3 ก๊ก ทำให้การเมืองไร้เสถียรภาพ 17 ปี มี นายกฯ 13 คน แต่ก็วนอยู่ใน 3 พรรคนี้ กลายเป็นการ ‘ผูกขาดอำนาจการเมือง’ ภายใต้ ‘ตระกูลการเมือง’ ที่วนเวียนอยู่แค่นี้

กำเนิด ‘พรรคคนรุ่นใหม่’

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญ คือ เมื่อปี 2023 ที่ทั้ง 3 พรรคข้างต้น จับมือกันตั้งรัฐบาล โดยมี ‘พรรค Rastriya Swatantra Party ที่เป็น ‘พรรคคนรุ่นใหม่เนปาล’ ทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ ในสภาฯ ที่ในตอนแรกพรรคดังกล่าว ไปร่วมรัฐบาล แต่โดนข้อหา ‘คอรัปชั่น’ จึงกลายมาเป็น ‘ฝ่ายค้าน’

ล่าสุดมีรายงานพบว่า ‘กลุ่มผู้ชุมนุม’ ได้เข้าไปช่วย ‘แกนนำพรรคคนรุ่นใหม่’ ออกมาจากเรือนจำด้วย

เอเชียใต้สปริง

การต่อสู้ทางการเมืองของ ‘คนรุ่นใหม่’ ที่ขยายไปยัง ‘เจนเนเรชั่น’ อื่นๆ ก่อนหน้านี้เกิดขึ้นที่ ‘ศรีลังกา’ เมื่อปี 2022 และ ‘บังคลาเทศ’ ปี 2024 และล่าสุดคือ ‘เนปาล’ ที่มี ‘มูลเหตุ’ เดียวกัน คือ ปัญหาทุจริต การถูกกดขี่ การผูกขาดอำนาจจากชนชั้นนำ วิกฤตเศรษฐกิจ

แต่จุดที่น่าสนใจ คือ ทั้ง 3 ประเทศ มีความแตกต่างทางศาสนา โดย บังคลาเทศ นับถือศาสนาอิสลาม , ศรีลังกา นับถือศาสนาพุทธ , เนปาล นับถือศาสนาฮินดู และ 3 ประเทศ มีระบอบการปกครองแบบ ‘ประชาธิปไตย’ อยู่แล้ว จุดนี้จึงต่างจากบริบท ‘อาหรับสปริง’

สำหรับ ‘เนปาล’ มี 3 แกนหลักปัญหาสำคัญ คือ

1)โครงสร้างอำนาจการเมืองผูกขาด วนเวียนอยู่ในกลุ่มเดิม ที่ถูกขยายวงการประท้วง ที่ชาวเนปาล เรียกว่า ‘เนโปคิดส์ (Nepo Kids)’ ที่มองว่า ‘ลูกหลาน’ ของเครือข่ายอำนาจการเมือง ที่มีชีวิตที่ดี ต่างจาก ‘คนรุ่นใหม่’ ในเนปาลที่ต้องดิ้นรนตัวเอง

2)ปัญหาความเปราะบางทางเศรษฐกิจ พบว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากที่คนเนปาลไปทำงานต่างประเทศและส่งเงินกลับมา

3)อาชีพของ ‘คนรุ่นใหม่’ จะทำงานเกี่ยวข้องกับ ‘ออนไลน์’ และใช้พื้นที่ ‘ออนไลน์’ ในการ ‘ปลดปล่อย’ วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งในข้อนี้ คือ ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ที่ทำให้ ‘คนเจน z’ ออกมาเคลื่อนไหว หลังรัฐบาลปิดกั้นแพลตฟอร์มโซเชียลมิเดีย

อีกทั้ง ‘คนเจน z’ เติบโตหลังปี 2008 ที่ ‘เนปาล’ เปลี่ยนเป็น ‘สาธารณรัฐ’ ทำให้พวกเขาต้องการ ‘ปฏิรูป’ ให้ดีขึ้น เพราะเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้ต้องการ ‘ล้มล้าง’

การ ‘ชุมนุม’ ขยายวง ‘เจนเนเรชั่น’

การนัดชุมนุมของ ‘คนเจน z’ ที่เกิดจากในโซเชียลฯ ที่ไม่มี ‘แกนนำ’ ทำให้ ‘ไร้ทิศทาง’ เกิดการปะทะขึ้น หลังรัฐบาลสั่งสลายการชุมนุม เกิดภาพ ‘นักเรียนมัธยม’ เสียชีวิต ทำให้ความไม่พอใจรัฐบาลขยายวง จาก ‘เจน z’ ไปเจนเนเรชั่นอื่นๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

อีกทั้งหากดูสถานที่ที่ถูกเผาทำลาย ล้วนเป็น ‘สัญลักษณ์อำนาจเก่า’ โดยเฉพาะ อาคารรัฐสภา ที่เป็นพระราชวังเก่า

ไร้แสงปลายอุโมงค์ + อำนาจเก่าคืนชีพ

แม้ว่า ‘เคพี ชาร์มา โอลี’ นายกฯเนปาล จะลาออกไปแล้ว แต่สถานการณ์ยังไร้ทางออก โดยฝั่ง ‘คนรุ่นใหม่’ ประกาศสนับสนุนให้ 'สุชิลา คาร์กี' อดีตประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกของประเทศ วัย 73 ปี ขึ้นเป็น 'ผู้นำชั่วคราว' แต่ฝ่าย ‘พรรคการเมือง’ มองว่าขัด รธน.

ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร + มือที่ 3

ภาควิชาการในเนปาล เคลื่อนไหวให้ ‘ประธานาธิบดีเนปาล’ ใช้ ทำเนียบ ปธน. จัดตั้ง ‘รัฐบาลรักษาการ’ ไม่ใช้ ‘ค่ายทหาร’ เพื่อป้องกันไม่ให้ ‘ทหาร’ มายุ่งการเมือง

ทว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังรัฐบาลเดิมประกาศ ‘เคอร์ฟิว’ กลับพบว่าไม่เคลื่อนไหว และมองว่า ‘ทหาร’ ไหลไปทาง ‘ฝ่ายขวา’ มากขึ้น ที่หวังฟื้นระบอบกษัตริย์ขึ้นมาอีกครั้งหลังพบว่า ‘ผู้นำพรรคฝ่ายขวาเนปาล’ หรือพรรค Rastriya Prajatantra Party ขยับมากขึ้น รวมทั้งการเคลื่อนไหวของ ‘กษัตรย์คเยนทรา’ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการมองว่า ‘ปีกเยาวชน Young Wing’ ของพรรคฝ่ายขวา เข้ามาผสมโรงการเคลื่อนไหวด้วย

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปปี 2022 พบว่า ‘พรรคฝ่ายขวา’ เริ่มโตขึ้น และ ‘พรรคคนรุ่นใหม่’ ก็เริ่มเป็นที่นิยม และได้รับเลือกตามเขตเมืองใหญ่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์