การประชุมสภาฯ วาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ เป็นวันแรก ซึ่งที่ประชุมอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรา 4 ว่าด้วยภาพรวมของงบประมาณ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายว่า การปรับลดลงประมาณของกมธ. 8,920 ล้านบาท หรือเท่ากับ 0.24% แต่กลับพบการจัดสรรให้กับหน่วยงานที่ไม่ตรงจุดและตอบโจทย์การรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ และสงคราม ทั้งสงครามชายแดนและสงครามการเมือง ทั้งนี้ ไม่โทษกมธ. แต่โทษรัฐบาลที่หูหนวก ไม่ยอมฟังเสียงสภาฯ ตาบอดโดยไม่พิจารณางบประมาณที่มีความจำเป็นกับประชาชนและภาวะของประเทศซึ่งมองว่า เหตุที่รัฐบาลเป็นเช่นนั้นเพราะขาดเข็มทิศ
ณัฐพงษ์ อภิปรายต่อว่า เศรษฐกิจที่ต้องการคือเม็ดเงินลงทุนที่สร้างการเติบโตให้ประเทศและสร้างประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่กระจุกตัวกับผู้รับสัมปทานบางกลุ่ม หากรัฐบาลเตรียมร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 ดีเพียงพอ จะทำให้นักลงทุนและคนไทยเห็นถึงเป้าหมายว่า จะเดินไปทางไหน สิ่งที่อยากเห็นในงบลงทุน เช่น นำไปปลูกป่าเศรษฐกิจ ลดคาร์บอน ต่อยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สร้างไบโอแมททีเรียล ถือธงนำให้เอกชนพัฒนาเมือง ปลูกโซลาร์บนหลังคาประชาชน เปลี่ยนโครงสร้างพลังงานเป็นพลังงานสะอาด และให้รัฐบาลร่วมลงทุน ทำให้ประชาชนลดค่าไฟด้วย นอกจากนั้นคือ การลงทุนปลูกข้าวยั่งยืน ข้าวรักษ์โลก เปลี่ยนกระบวนการปลูกข้าวที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“ร่างพ.ร.บ.งบฯ 69 เป็นงบที่คิดไม่รอบ คิดไม่ลึก ผมจึงขอสงวนปรับลดกรอบวงเงินในภาพรวม ให้มีพื้นที่การคลังเพียงพอต่อการสร้างอนาคตให้ประเทศ”
— ณัฐพงษ์ อภิปราย