เอาแล้ว! ‘ณฐพร’ ส่งทนายร้อง กกต. ชงศาล รธน.ฟัน ‘138 สว.’

20 พ.ค. 2568 - 11:14

  • ‘ณฐพร’ ส่งทนายร้อง กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง ‘138 สว.’ สิ้นสมาชิกภาพ-หยุดปฏิบัติหน้าที่

  • ชี้พฤติการณ์ตกอยู่ใต้อาณัติพรรคการเมือง ทำระบอบการปกครองถูก ‘เซาะกร่อน บ่อนทำลาย’

  • แทรกแซงการทำงานองค์กรอิสระ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งทีมกฎหมาย นำเอกสารคำร้องยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาส่งเรื่องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคท้าย ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของวุฒิสภา 138 คน สิ้นสุดลง และระหว่างพิจารณาให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่


หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ กกต. สืบสวนร่วมกันจนพบพยานหลักฐานในขบวนการฮั้ว รวมทั้งจากการสอบปากคำพยานบุคคล / พยานแวดล้อม / พยานผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมถึงมีการตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมบุคคลในขบวนการจำนวน 12,000 คน และตรวจสอบผู้ใช้โทรศัพท์อีก 20,000 เลขหมาย แล้วพบความผิดปกติเรื่องการฮั้ว


อีกทั้งจากการสอบพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่พบโพยลงคะแนน รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการนัดหมายพูดคุยเรื่องฮั้ว อีกทั้งยังมีหลักฐานจากเทคโนโลยีประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาตรวจสอบจนพบข้อมูลเชิงประจักษ์ และสรุปได้ว่า สว. จำนวน 138 คนมีพฤติการณ์กระทำอยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย


ในเอกสารคำร้องยังระบุว่า นับตั้งแต่ สว. เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ พบว่าไม่มีความเป็นกลาง เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคภูมิใจไทย และกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลภายในพรรคดังกล่าว อีกทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของ สว. กลุ่มนี้ อาศัยเสียงข้างมากในสภา คัดเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา และประธานกรรมาธิการทุกคณะ


ทิศทางการลงมติของ สว. ชุดนี้ ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกครั้ง ตัวอย่างเช่น การประชุมวุฒิสภาปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ประชุมทั้งหมด 21 ครั้ง ลงมติ 48 ครั้ง ปรากฏว่า สว. นอกกลุ่มสีน้ำเงิน แพ้ทุกการโหวตทุกประเด็น สิ่งที่น่าเป็นกังวลอีกประเด็น คือ การเห็นชอบการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

จากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สว. กลุ่มนี้ กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 ที่กำหนดให้ สว. ต้องไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง ซึ่งจะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สว. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (7) ได้


โดยการกระทำดังกล่าวเห็นว่า ก่อให้เกิดผลกระทบเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นการเซาะกร่อน บ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องการได้อำนาจการปกครองโดยเบ็ดเสร็จ ถือเป็นการกระทำที่ส่อล้มล้างการปกครอง ตามที่ตนเองได้ไปยื่นคำร้องไว้ต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา อีกทั้งการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระเสียความเป็นกลาง เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว. ที่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

ดังนั้น เพื่อยับยั้งความเสียหายอันร้ายแรง จึงขอให้ กกต. ยื่นคำร้องและส่งสำนวนการสอบสวนของ สว. ทั้ง 138 คน ให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย


ส่วนในวันพรุ่งนี้ ณฐพร จะเข้ายื่นเรื่องต่อ กกต. ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคภูมิใจไทย จากปม ‘ฮั้วเลือก สว.’ ในเวลา 15.00 น.


เรื่องเด่นประจำสัปดาห์