DeepSPACE ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ว่างลง จากกรณีพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพานถูสอยลงจากเก้าอี้ คนในพรรคเพื่อไทยก็กำลังหาคนมาแทนที่ สุดท้ายเหลือ 2 คนชิงดำวิสุทธิ์ ไชยณรุณ กับชลน่าน ศรีแก้ว
ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้เคาะรายชื่อจะส่งใครขึ้นเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แทน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสอยร่วงตกเก้าอี้ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่ประธานสภาผู้แทนราษฎร วันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งมีประสบการณ์อั้นหนัก อั้นเบา จากการนั่งทำหน้าที่บนบัลลังก์ลากยาวคนเดียว ในวันที่รองฯ พิเชษฐ์ ต้องไปชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ ในขณะที่รองประธานฯ ป้ายแดง ‘ฉลาด ขามช่วง’ ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยขึ้นกับการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2-3 ในวันที่ 13-15 สิงหาคม 2568 จึงเร่งบรรจุระเบียบวาระเลือกรองประธานสภา คนที่ 1 รอไว้ก่อนในวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคมนี้
ส่วนเพื่อไทย จะส่งใครมาทำหน้าที่รองประธานสภา คนที่ 1 เบื้องต้นน่าจะมีเพียงสองรายชื่อเท่านั้น คือ ‘วิสุทธิ์ ไชยณรุณ’ , ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ นักการเมืองลูกข้าวนึ่งทั้งคู่ คนหนึ่งอยู่ จ.พะเยา อีกคนอยู่ จ.น่าน และเป็นสส. 6 สมัยเท่ากัน
ต่างกันตรงที่หมอชลน่าน เคยเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านฯ ผ่านการเป็น รมช.สาธารณสุข และ รมว.สาธารณสุขมาก่อน ขณะที่วิสุทธิ์ เคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ในสภาชุดที่ 24 สมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งทำหน้าที่บนบัลลังก์ได้อย่างโดดเด่น
หลังเก้าอี้รองประธานฯ คนที่ 1 ว่างลงเพียงวันเดียว ‘วิสุทธิ์’ ตอบคำถามนักข่าวในวันรุ่งขึ้นว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้คุยกันว่าจะเป็นใคร ต้องรอฟังสมาชิกพรรคก่อน เพราะตอนนี้สส.ทุกคนอยู่ต่างจังหวัด ส่วนจะเป็นภาคเหนือเหมือนนายพิเชษฐ์หรือไม่นั้น คงต้องรอให้มีการประชุมพรรควันที่ 5 สิงหาคม
เมื่อถูกรุกถามหากได้รับการเสนอชื่อจากพรรคล่ะ วิสุทธิ์ ตอบกว้างๆ แบบไว้เชิงว่า
ต้องฟังเพื่อนสมาชิกก่อน พรรคเพื่อไทยมีคนเก่ง มีความสามารถพร้อมทำหน้าที่หลายคน ให้รอฟังที่ประชุมพรรค และพร้อมสนับสนุนทุกคนในการทำหน้าที่ ขอเป็นตัวเลือกสุดท้ายหากไม่มีใครยอมเป็น
คำว่า ‘ขอเป็นตัวเลือกสุดท้าย’ จึงมีความหมายอย่างมาก สำหรับวิสุทธิ์ ที่เคยผ่านการเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ระหว่างวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 รวมเวลา 2 ปี 4 เดือน กับ 7 วัน
น่าจะไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้ายเพราะไม่มีใครยอมเป็นอย่างที่พูดไว้
เพราะย้อนไปก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ระหว่างการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้เกิดวิวาทะขึ้นระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กับประธานในที่ประชุม พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ถึงขั้นชี้หน้ากันกลางที่ประชุม
โดย นพ.ชลน่าน ซึ่งลุกขึ้นประท้วงด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว พร้อมกับชี้หน้าประธานฯ ว่า
‘ถ้าทำไม่ได้ เปลี่ยนรองประธานสภา คนที่ 2 มาแทน’
ในขณะที่ประธานฯ พิเชษฐ์ ก็สวนกลับทันควันว่า
‘ไม่ต้องชี้หน้า อยากเป็นก็ขึ้นมา’
คงพอได้เห็นเห็นภาพว่า ในบรรดาสส.ภาคเหนือ ไม่น่าจะไม่มีใครไม่อยากเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ตำแหน่งว่างลง ส่วนจะพูดคุยตกลงกันภายในได้ หรือต้องใช้เสียงที่ประชุมโหวตเหมือนคู่ ‘ฉลาด-ไชยยา’ ต้องรอดูวันอังคารที่ 5 สิงหาคมนี้