Deep SPACE เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัด และลุ้นตลอดเวลา จากเวลานี้จนถึงวันที่ 29 สิงหาคม เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้นหลายแนวทาง จะเลือกเชื่อทางไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าเชียร์ใคร เอาเป็นว่าร่วมกันนับถอยหลังไปด้วยกัน ติดตามในDeep SPACE..ลึกกว่าที่รู้
ในตำราพิชัยสงครามฉบับก้องโลกของ ซุนวู เขียนเอาไว้บทหนึ่งว่า ‘หนี คือสุดยอดของกลยุทธ์’
‘ถอย’ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย ในยามที่เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
‘ถอย’ เพื่อชิงโอกาสตอบโต้ภายหลัง มิใช่ถอยหนีอย่างพ่ายแพ้หมดรูป
แข็งจึงสู้ อ่อนจึงหนี แม้นหลบแล้วรักษาไว้ได้ ก็พึงหลบ
ถอยหนีเพื่อรอโอกาสโต้กลับ ไม่ใช่เอาแต่หนีอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อทัพอ่อนเผชิญทัพแข็ง มักจะใช้วิธีหนี เพื่อกระจายกำลังข้าศึก เพื่อสร้างโอกาสกลับมาสู่ชัยชนะ ดังนั้นจึงมีคำว่า ‘หนีคือสุดยอดกลยุทธ์’
อีกหลายสำนักได้ขยายความคำว่าหนี ของซุนวู ในเวลาต่อมา คือการ ‘ถอยเพื่อตั้งหลัก’ รอการกลับมาใหม่เมื่อมีโอกาส
นั่นคือการรบในสงครามจริงๆ ซึ่งอาจแตกต่างจากกรณีของ แพทองธาร ชินวัตร ที่คอการเมืองเฝ้าจับตามองอยู่เวลานี้ว่า ‘หนี-ไม่หนี’ จะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนถึงวันศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยหรือไม่
แม้กรณีแพทองธาร จะเป็นคนละเรื่องกับสงคราม แต่ก็เทียบเคียงกันได้ เพราะในขณะที่สังคมส่วนใหญ่ให้น้ำหนักค่อนไปทาง ‘ไม่รอด’ แต่คนในพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย ยังมั่นใจผลจะออกมาเป็นบวก ต่างประสานเสียงยืนยันคีย์เดียวกัน ‘ไม่หนี’ รอรับข่าวดีในวันที่ 29 สิงหาคมนี้
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ย้ำจนนับครั้งไม่ถ้วนว่า นายกฯ จะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนถึงวันตัดสินคดี
‘ไม่ได้ทำผิดจะลาออกทำไม สส.พร้อมให้กำลังใจนายกฯ และเชื่อว่า ยังมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำงานต่อได้ แต่มีคนปล่อยข่าวมาตลอด เป็นจินตนาการของฝ่ายตรงข้าม’
ขณะที่ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ตอบโต้นักวิเคราะห์ที่มองจะมีม็อบต้านหากแพทองธารรอดว่า หากวิเคราะห์แบบนี้เป็นการไป ‘กดดัน’ การทำหน้าที่ของศาล ไม่ควรวิจารณ์ มองว่าทุกคนควรทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่น ศาลพิจารณาคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำหน้าที่อย่างเต็มที่เรื่องเนื้อหาการวินิจฉัย ด้านผู้ถูกร้องอย่างน.ส.แพทองธาร ใช้สิทธิของตัวเองส่งเอกสารแถลงปิดคดี ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรสังคมต้องยอมรับ ไม่ควรวิจารณ์
ไม่แน่ใจคนเพื่อไทย เชื่อว่ารอด เพราะมั่นใจในเนื้อหาคำชี้แจงทั้งที่เป็นเอกสารและการขึ้นไต่สวนด้วยวาจาของแพทองธารในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำได้ฉะฉาน ราบรื่น หรือเพราะความเมตตาจากศาล ที่ใช้คำว่า
‘นั่งลงลูก?!’
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอย่างแรกหรืออย่างหลังก็ตาม หากไม่ใช่เพราะปากกล้าขาสั่น หรือเป็นแบบหลักการตลาด ที่พูดซ้ำๆ เพื่อให้คนคล้อยตาม ก็ต้องรอดูของจริงกันว่านายกฯ เจนวาย จะอยู่ในตำแหน่งไปจนถึงวันตัดสินคดีหรือไม่
ไม่ใช่งัดตำราพิชัยสงครามมาใช้ ‘ส่งเสียงด้านทิศเหนือ แต่เข้าตีทางด้านทิศใต้’
แต่เอาเถอะ ไม่ว่าจะมามุกไหน อีกไม่กี่วันจะได้เห็นของจริงกัน เพราะสังคมดูเหมือนพิพากษาไปแล้วว่า ‘ไม่รอด’ นั่นเท่ากับว่ากำลังพาตัวเองเข้าสู่ลานประหาร ผลจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผูกพันกับทุกองค์กร จะถูกนำไปเป็นสารตั้งต้น ดำเนินคดีกับแพทองธารทั้งใน ป.ป.ช.และศาลยุติธรรม ที่มีผู้ไปยื่นร้องไว้
บทเรียนจาก เศรษฐา ทวีสิน ที่พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะ‘ขาด’ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรรมอย่างร้ายแรง จะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิต ที่แม้แต่เป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังทำไม่ได้
แต่หากมั่นใจว่า เคลียร์บน เคลียร์ล่าง ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีผลกระทบจากพายุโซนร้อน ‘คาจิกิ’ ที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงนี้ ก็เดินหน้าไปต่อตามที่มั่นใจได้เลย แต่ต่อให้อยู่รอดปลอดภัย แพทองธาร ก็ ‘มิอาจอยู่ทำหน้าที่’ ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปได้
ลำพังทุกวันนี้การเมืองก็เผชิญวิกฤตศรัทธาอยู่แล้ว ขืนให้กลับมาทำหน้าที่ต่อ ก็รังแต่จะก่อวิกฤตซ้ำวิกฤตซ้อนขึ้นอีก
แพทองธาร จะอยู่หรือไป ‘หนี-ไม่หนี’ ก่อนถึงวันศาลนัดตัดสินคดี ให้ดูสัญญาณจากการประชุมครม.ในวันอังคารที่ 26 สิงหาคมนี้ จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกันอีกรอบให้สะเด็ดน้ำหรือไม่
เพราะหลังจากนั้น หากนายกรัฐมนตรี ‘ลาออก’ จะมีผลทำให้ครม.ทั้งคณะ ‘สิ้นสุดลง’ ตามไปด้วย และอยู่ทำหน้าที่ในฐานะรักษาการจนกว่าจะมีครม.ชุดใหม่ ซึ่งมีอำนาจจำกัด ไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการได้ ดังนั้น วันอังคารนี้ถ้าครม.มีปฏิบัติการ ‘ทิ้งทวน’
นั่นแหล่ะคือสัญญาณจากนักการเมือง‘จมูกมด’
อีกไม่เกินสามวันหรือช้าสุดสี่วัน รอวัดใจนายกฯ อิ๊งค์ จะหนีไม่หนี?!
