นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.สาธารณสุข เผยถึงการอภิปรายแถลงนโยบายของรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ว่า “ในฐานะพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายภาพรวมของนโยบาย ความสามารถในการบริหาร เน้นแนวทางการอภิปรายเดินเรื่องบนฐานของนโยบายรัฐภายใต้ข้อจำกัด 4 เดือนยุบสภาฯ จากการศึกษาพบว่าหลายนโยบายทำไม่ได้ หากทำได้ก็ไม่ดี เพราะไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติโดยรวม หลายนโยบายคำนึงถึงผลประโยชน์ของกลุ่ม ของพรรค เพื่อสร้างคะแนนนิยมเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง อีกทั้งมีการยกเลิกนโยบายที่เป็นประโยชน์ของประชาชน ถือเป็นการทำลายโอกาสของประชาชน”
นพ.ชลน่าน ยังระบุว่า “การชี้แจงของอนุทิน ต่อหน้าสมาชิกรัฐสภาไม่พูดถึงการทำงาน แต่อาศัยเวลาของรัฐสภากลับมาเคลมผลงานตีกิน เป็นการนำเสนอในลักษณะสวนกลับ กดเหยียด ด้อยค่า ทำให้เกิดความเสียหายในฐานะนายกฯ ผู้นำสูงสุดในฝ่ายบริหาร การแสดงออกเยี่ยงนี้ถือว่าขาดภาวะผู้นำอย่างยิ่ง”
“โดยเฉพาะระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องตรวจสอบ ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน การชี้แจงของผมเป็นไปตามข้อเท็จจริง มีหลักเชิงประจักษ์ชัดเจนว่า 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ‘30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว’ นำสู่เป็นนโยบาย ไม่ได้มีเจตนาที่จะเคลมหรือแอบอ้างว่าใครเป็นคนทำนโยบายนี้ก่อนใคร”
นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวของรัฐบาลเพื่อไทย ขับเคลื่อนแตกต่างกัน แต่การตอบชี้แจงของอนุทิน กลับขอเคลมผลงานตีกิน เปรียบเทียบในสมัยที่ อนุทินเป็น รมว.สธ. อีกทั้งอนุทินใช้ถ้อยคำในลักษณะสวนกลับ กดเหยียด ด้อยค่า ในฐานะนายกฯ ผู้นำสูงสุดในฝ่ายบริหาร การแสดงออกเยี่ยงนี้ถือว่าขาดภาวะผู้นำอย่างยิ่ง ผมไม่เคยคิดจะเคลม จะแข่งผลงานกับใคร และไม่คิดจะนำผลงานไปกดเหยียด เปรียบกับคนอื่นให้รู้สึกด้อยค่า เพราะเป็นการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน การทำเพื่อให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น เป็นหน้าที่ของนักการเมืองทุกคน เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยยึดมั่นมาตลอด