‘กัมพูชา’ รอคำสั่งหน่วยเหนือ ‘กู้ทุ่นระเบิด’ ขอ ‘ไทย’ ยึดเส้นลาดตระเวนเดิม ไม่ดัดแปลงพื้นที่

3 พ.ย. 2568 - 06:26

  • โฆษก ทบ. แจง ‘กัมพูชา’ รอคำสั่งหน่วยเหนือ ‘กู้ทุ่นระเบิด’ หลัง ‘กัมพูชา’ ขอ ‘ไทย’ ยึดแนวเส้นทางลาดตระเวนเดิม ไม่ดัดแปลงพื้นที่-ไม่วางลวดหนาม แต่ถางพื้นที่-ทำเครื่องหมายได้ ‘ฝ่ายไทย’ จึงพิสูจน์ในเขตไทย โดยมี ‘ทหารกัมพูชา’ สังเกตการณ์ ต่อมา ‘ไทย’ แจง AOT ปัญหาขัดข้อง

‘กัมพูชา’ รอคำสั่งหน่วยเหนือ ‘กู้ทุ่นระเบิด’ ขอ ‘ไทย’ ยึดเส้นลาดตระเวนเดิม ไม่ดัดแปลงพื้นที่

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงข้อกังวลของประชาชนบางส่วนต่อกรณีการถอนอาวุธกลับที่ตั้ง จ.ลพบุรี อาจจะไกลจากพื้นที่ชายแดนมากเกินไปว่า กองทัพบกจะสามารถ เคลื่อนย้ายอาวุธกลับเข้าพื้นที่ได้ทัน หากเกิดปัญหาทางกัมพูชาไม่ทำตามสัญญาเรื่องข้อตกลงการถอนอาวุธ

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาขัดขวางไม่ให้ ‘ทหารไทย’ เข้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ ว่า จากการตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติหรือ TMAC ได้เดินหน้าปฏิบัติตามแผน แม้ฝ่ายกัมพูชายังอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารี เกี่ยวกับความคืบหน้าในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของ TMAC ในพื้นที่ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตามแผนตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2568

ปัจจุบัน TMAC ได้เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่แล้ว ร้อยละ 7.62 ของพื้นที่ทั้งหมด 355,026 ตารางเมตร โดยระหว่างการปฏิบัติงานได้พบปัญหาและข้อขัดข้องบางประการ ดังนี้

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ขณะฝ่ายไทยดำเนินการพิสูจน์ทราบสนามทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนฝั่งไทย โดยอ้างอิงเส้นปฏิบัติการตามแผนที่ มาตราส่วน 1 : 50,000 ได้พบทหารกัมพูชาอยู่ในเส้นทางปฏิบัติการ จึงได้เข้าพบปะและเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน

ผลการเจรจา ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้ฝ่ายไทยดำเนินการพิสูจน์ทราบเฉพาะในพื้นที่ฝั่งไทย โดยอ้างอิงแนวเส้นทางลาดตระเวนเดิม และขอไม่ให้มีการดัดแปลงพื้นที่ เช่น การวางลวดหนาม แต่สามารถทำการถากถางพื้นที่ หรือทำเครื่องหมายได้

ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาแจ้งเพิ่มเติมว่า ยังไม่สามารถเริ่มทำการพิสูจน์ทราบทุ่นระเบิดในฝั่งของตนได้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งจากหน่วยเหนือ

ภายหลังการเจรจา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบสนามทุ่นระเบิดต่อไปตามแผนงานในเขตไทย โดยมีทหารกัมพูชาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นภารกิจในวันนั้น

ต่อมาในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน AOT ฝ่ายไทย ได้ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในบริเวณ ช่องสายตะกู โดยฝ่ายไทยได้รายงานผลการดำเนินงานและปัญหาข้อขัดข้องดังกล่าวให้คณะ AOT ฝ่ายไทยได้รับทราบ

ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนถือเป็น ข้อตกลงร่วมกันของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้มีมติและเห็นชอบในที่ประชุมระดับผู้นำอาเซียนที่ผ่านมา ปัจจุบัน ฝ่ายไทยได้ยืนยันความพร้อมและดำเนินการตามแผนที่เสนอต่อฝ่ายกัมพูชา ครอบคลุมทั้ง 13 พื้นที่ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในประเด็นดังกล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์