'อนุทิน ชาญวีรกูล' นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรี 'รัฐบาลอนุทิน' เดินทางมาถึงรัฐสภา ในวาระสำคัญสำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อฝ่ายนิติบัญญัติ

สำหรับความพร้อมในวันนี้ 'นายกฯ' ยืนยันว่า ก็ต้องรับฟังข้อเสนอแนะ แนวทางตามคำแนะนำต่างๆ จากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งได้มีการหารือจากคณะรัฐมนตรีทุกท่านแล้ว ในการเตรียมความพร้อมที่จะอภิปรายชี้แจง เรื่องต่างๆ ที่เป็นข้อสงสัย และพร้อมรับคำแนะนำข้อเสนอแนะที่ดี เพื่อกลับไปต่อยอด และไปปฏิบัติต่อ

เมื่อถามว่าช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่มีจะทันกับสิ่งที่ตั้งใจไว้หรือไม่โดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำได้หรือไม่ 'อนุทิน' กล่าวว่า ถ้าเรามีความตั้งใจก็ทำได้ เพราะสัปดาห์หน้า วันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ เราจะเริ่มเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อรับหลักการ

เมื่อถามว่าด้วยเวลาที่มีอยู่น้อยจะเป็นการรวบรัดเกินไปหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ได้มีการเตรียมการมาก่อนหน้านี้ เป็นระยะแล้ว และตอนนี้ต้องขอขึ้นห้องประชุมรัฐสภา เพราะประธานสภากดออดเรียกแล้ว

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของแกนนำ 'ฝ่ายค้าน' อย่าง 'พรรคประชาชน' นำโดย 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคปชน. ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนรับฟังคำแถลงนโยบายจาก 'นายกฯ' พร้อมระบุว่า ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ประมาณ 20 คน ซึ่งมีเนื้อหาสาระเข้มข้น โดยภาพรวมเป็นการนับถอยหลังสู่การ 'ยุบสภา' เพื่อเดินหน้าจัดทำประชามติ และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ส่วนผู้อภิปรายอื่นมีเรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ความมั่นคงชายแดน และเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี รวมถึงตรวจสอบรัฐบาล ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีสำคัญ ทั้ง 'คดีเขากระโดง' และ 'คดีฮั้วสว.' พร้อมขอให้ติดตามการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการในวันแรกของพรรคประชาชนตลอดช่วงการอภิปราย
"สิ่งที่หวังและเชื่อว่าประชาชนจะได้เห็นคือการทำหน้าที่ของพรรคประชาชน ว่าเราตัดสินใจโหวตนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี เฉพาะกิจ - เฉพาะกาล คือต้องการเปิดประตูสู่การทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลชี้ให้เห็น ว่าทำไมการจัดทำรัฐธรรมนูญ ถึงเป็นการเปิดประตูสร้างอนาคต สร้างทางออกให้กับประเทศได้ รวมถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และผู้อภิปรายของพรรคประชาชนอีก 20 คน พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่แน่นอน"

เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากพรรคประชาชนถูกกล่าวหาโดยพรรคเพื่อไทยว่าเป็น 'ฝ่ายค้ำ' จะส่งผลอย่างไร ณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ได้ทำให้เราเสียสมาธิอะไร และยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านเสียงข้างมากอย่างเต็มที่ และไม่อยากให้โยนวาทกรรมกันไปมา ว่าตกลงเป็นฝ่ายค้ำหรือฝ่ายแค้นอะไร ตัวของตนเองถ้าจะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายค้ำ อยากให้มองว่าเราพยายามที่จะค้ำกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศไม่ได้ต้องการที่จะค้ำรัฐบาล หรือค้ำรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง และเชื่อว่าการทำหน้าที่สส. ของพรรคประชาชน จัดเป็นข้อพิสูจน์ ว่าเราเป็นฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยเฉลี่ยพรรคประชาชน ผู้อภิปรายจะอยู่คนละ 10-15 นาที และแบ่งระยะเวลาตอบโต้กันในสภา เชื่อว่าอยู่ในกรอบระยะเวลาที่สามารถบริหารจัดการได้

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ ‘ดนุพร ปุณณกันต์’ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคสีน้ำเงินได้รับการชุบชีวิตจากตั๋วช้างสีส้ม ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มีการสร้างวาทกรรมแบบนั้น และ ‘รังสิมันต์ โรม’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็ได้มีการชี้แจงไปแล้ว อยากที่จะเชิญชวนเพื่อนสมาชิกรัฐสภาว่าวันนี้เป็นการอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ควรจะมีการตรวจสอบ และอภิปราย ทั้งข้อคิดเห็น และการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเป็นหลักมากกว่า ไม่อยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบกันเอง
