‘อนุทิน’ ลุย ‘บางบาล’ สั่งเยียวยาน้ำท่วมทันที

27 ก.ย. 2568 - 06:36

  • ‘อนุทิน’ ลุย ‘บางบาล’ สั่งจ่ายเยียวยาน้ำท่วมทันที หลังแถลงนโยบาย ดันโครงการระบายน้ำ 1 แสนล้าน แก้น้ำท่วมซ้ำซาก

  • สัญญาไม่ปล่อยชาวบ้านเผชิญน้ำทุกปี หวังประชาชนไว้วางใจ กลับมาสานต่อ

‘อนุทิน’ ลุย ‘บางบาล’ สั่งเยียวยาน้ำท่วมทันที

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี ภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ,ทรงศักดิ์ ทองศรี ,ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ และ ศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงพื้นที่

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo05.jpg

เมื่อเดินทางถึง อนุทินได้รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้กล่าวให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมนำคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการมอบถุงยังชีพและเดินทักทายพูดคุยพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาบริเวณวัดโคกหิรัญ

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo09.jpg

จากนั้น นายกรัฐมนตรีนำคณะ พบปะประชาชนและผู้ประกอบการร้านขายของชำที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงวัด และมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนบ้านเรือนใกล้เคียง โดยยังได้พายเรือด้วยตนเองเพื่อนำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนครัวเรือนที่บ้านประสบอุทกภัยและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเรือนตามปกติ

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo02.jpg

อนุทินกล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นทำงานโดยมีเป้าหมาย คือ ประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเดือดร้อนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบดีอยู่แล้วว่า มีน้ำท่วมทุกปี เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน และมีลักษณะเป็นพื้นที่ต่ำ ทำให้ระบบการระบายน้ำลงสู่ท้องทะเลได้ยาก นอกจากนี้ แม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะเป็นคอขวด ทำให้การระบายน้ำช้าลง ส่งผลให้มีการเอ่อล้นของน้ำ หรือน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่พี่น้องประชาชนโดยตลอด

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo01.jpg

“พยายามสู้กับธรรมชาติ ด้วยการคิดโครงการ/แผนการเพื่อบรรเทาการเกิดอุทกภัยให้กับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด โดยมีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นผู้กำหนดนโยบายต่าง ๆ ในการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำเสนอต่อรัฐบาล ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีหน้าที่ดูแลครอบคลุม ทั้งอาหารการกิน การบรรเทาสาธารณภัย งบประมาณเยียวยาความเสียหายของพี่น้องประชาชน รวมถึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์การบริหารส่วนตำบลที่มีเครื่องมือ คือ งบประมาณการช่วยเหลือประชาชน ที่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเบิกจ่ายได้ในรูปแบบของงบฉุกเฉินบรรเทาความทุกข์ของประชาชน และยืนยันว่างบประมาณจะต้องกลับไปถึงพี่น้องประชาชน 100% โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการให้คำแนะนำ และในส่วนของฝ่ายข้าราชการ ก็ต้องพิจารณาโดยเร็ว ทำงานอย่างรวดเร็ว ทันใจ ไม่เสียเวลา ในการเลื่อนสำรวจและเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ประสบสาธารณภัยในแต่ละครัวเรือน”

อนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เร่งรัดโครงการก่อสร้างคลองระบายน้ำบางบาล-บางไทร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 เพื่อเร่งระบายน้ำ ด้วยศักยภาพการระบายน้ำมากถึง 1,200 คิวต่อวินาที เมื่อแล้วเสร็จจะตัดมวลน้ำไม่ให้ท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้มากขึ้น ลดความกังวล และที่สำคัญเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo03.jpg

รวมทั้ง ยังมีโครงการปรับปรุงระบบชลประทานฝั่งตะวันออกตอนล่าง เพื่อทำให้การระบายน้ำตั้งแต่ชัยนาท ป่าสัก ไหลลงสู่อ่าวไทย ซึ่งการแก้ปัญหาระยะยาวต้องใช้งบประมาณ 100,000 ล้านบาท เพื่อที่จะสร้างระบบสาธารณูปโภคช่วยระบายน้ำด้วยระยะเวลา 7 ปี ซึ่งหากคิดเทียบกับเงินเยียวยาที่ประชาชนได้รับเพียงครัวเรือนละไม่กี่พันบาท เห็นว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า รวมถึงโครงการการขุดลอกแม่น้ำลำน้ำเจ้าพระยาและลำน้ำท่าจีน ที่จะเป็นการขจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำไม่ให้ไปอุด หรือไปทำให้การระบายน้ำต้องพบกับอุปสรรค โดยรัฐบาลนี้จะเร่งแก้ไขปัญหาและดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อทำให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo06.jpg

อนุทิน ยังให้สัมภาษณ์อีกว่า ตอนนี้เกิดสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้สั่งให้เร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้ล่าช้าไป ดังนั้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็จะดำเนินการทันที เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอนานไม่ได้

อนุทิน กล่าวว่า จะมีการลงพื้นที่อื่นอีก แต่ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยเกิดที่ภาคกลาง ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะต้องเร่งโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ระบายน้ำ ออกจากพื้นที่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ให้มากที่สุด ต้องเร่งศึกษาโครงการทำทางระบายน้ำตอนใต้เขื่อนเจ้าพระยา ที่ จ.ชัยนาท ลงอ่าวไทย

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo04.jpg

อนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ถามว่าเงินที่จะมาทำโครงการนี้เยอะไหม ต้องใช้เวลา 7-8 ปี ก็ใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ตกปีละ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ได้เยอะ เพราะต้องรีบทำพื้นฐานให้เรียบร้อย เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้น ถ้าเทียบกับเงินช่วยเหลือเยียวยาว ที่ต้องจ่ายให้ทุกปี ปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าไปทำโครงการที่เป็นถาวรวัตถุ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำ และผันน้ำออกจากพื้นที่ภาคกลางได้ ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เพราะการมาเจอชาวบ้านทุกปีแบบนี้ไม่ไหว มาแล้วก็ต้องมาขอโทษ นำถุงยังชีพมาให้ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้อยากได้ ดังนั้น ต้องสร้างโครงการที่แก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งจะทำ

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo08.jpg

สำหรับเวลาที่มีอยู่ของรัฐบาล จะสามารถดำเนินโครงการ ช่วยบรรเทาปัญหาซ้ำซากได้หรือไม่นั้น อนุทิน กล่าวว่า โครงการต่างๆ ไม่มีรัฐบาลไหน ที่จะทำได้เสร็จภายในรัฐบาลนั้นๆ หรอก แต่เราต้องเริ่ม เราต้องตัดสินใจเริ่ม ต้องไม่คิดว่าไปปัดแข้ง ปัดขาใคร ต้องถือว่าโครงการนี้ ไม่ว่าใครจะนำเสนอขึ้นมา พรรคไหน พวกไหน แต่ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ ขอให้คำยืนยันเลย เพราะก็ถูกฝึกมาอย่างนี้ และนิสัยตน ไม่แคร์ว่า ใครจะได้เครดิต ถ้าประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครเสนอมา ก็เห็นชอบหมด

anutin-flood-aytthaya-27sep25-SPACEBAR-Photo07.jpg

เมื่อถามว่าถ้าเริ่มต้นแล้ว ครั้งหน้าเราหวังว่าจะกลับมาสานงานต่อหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เราก็ต้องหวังผลเลิศ ซึ่งต้องทำงานให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่า เรามาแก้ไขปัญหาจริง และรักษางบประมาณของประเทศ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องไม่หายไปไหน ต้องถูกใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศและเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเรากลับมาสานที่เราทำไว้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์