'อนุทิน ชาญวีรกูล' นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุว่า รัฐบาลเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดสงขลา พร้อมมอบอำนาจให้ 'ผู้บัญชาการทหารสูงสุด' เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ เพื่อบูรณาการสั่งการ อนุมัติ และคุ้มครองเจ้าหน้าที่แบบเบ็ดเสร็จทุกมิติ หลังน้ำท่วมภาคใต้ทวีความรุนแรง
ยืนยันทุกหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยมี 'ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า' รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ ร่วมกับ 'พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์' รมว.กลาโหม ที่ลงพื้นที่แล้ว ขณะ 'พิพัฒน์ รัชกิจประการ' รองนายกฯ และ รมว.คมนาคมกำลังเดินทางตามไปสมทบ
ส่วนข้อกังวลเรื่องประชาชนบางจุดยังร้องขอความช่วยเหลือไม่ได้ นายกฯ ระบุว่ากำลังเร่งกระจายกำลังเข้าถึงทุกพื้นที่ และทุกหน่วยได้เตรียมยานพาหนะทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือ และรถสำหรับภารกิจกู้ภัยไว้พร้อม
เมื่อถูกถามถึงข้อครหาว่ารัฐบาลตั้งวอร์รูมช้า อนุทินย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ช้า คนทำงานไม่ได้ช้า พร้อมชี้ว่าช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ ต้องเร่งกระจายกำลังและทรัพยากรให้ประชาชนก่อน จึงค่อยจัดตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าและส่วนสนับสนุน รวมถึงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสั่งการ เมื่อถามอีกว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลตั้งวอร์รูมศูนย์เผชิญเหตุค่อนข้างช้า นายกฯ ย้อนถามว่า
"ใคร...รัฐบาลไม่ได้ช้า แล้วแต่เขา คนทำงานไม่ได้ช้า"
สำหรับสถานการณ์โรงพยาบาล 3 แห่งที่วิกฤติจากระบบไฟฟ้าได้รับผลกระทบ นายกฯ ระบุว่า กฟภ. ได้ส่งรถปั่นไฟและช่างไฟลงไปสแตนด์บายเต็มกำลัง โดยย้ำว่าโรงพยาบาลจะต้องมีไฟฟ้าต่อเนื่อง และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไอซียูทำได้ยาก จึงต้องพยายามให้ระบบสาธารณูปโภคใช้งานได้แทนการอพยพ
ด้านข้อมูลจำนวนจุดอพยพและผู้ตกค้าง จะให้โฆษกรัฐบาลเป็นผู้แถลงรายวัน ผ่านศูนย์ปฏิบัติการที่ตึกภักดีบดินทร์ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับหน่วยงานส่วนหน้า โดยการบังคับบัญชามีการยกระดับเป็นภัยระดับ 4 และมอบให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ในส่วนงาน ปภ.
นอกจากนี้ นายกฯ ได้ปฏิเสธว่ามีเดตไลน์ในการอพยพ แต่ย้ำว่าต้องแข่งกับเวลา เร่งช่วยประชาชนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดเตรียมเครื่องยังชีพสำหรับช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลด ทั้งนี้ทรงเผยว่า ในหลวงทรงมีพระราชกระแสห่วงใย และพระราชทานสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์แล้ว
ส่วนที่เป็นข้อสังเกตระหว่าง 'ผบ.ทสส.' กับ 'ร.อ.ธรรมนัส' ใครมีอำนาจสั่งการนั้น นายกฯ ชี้แจงว่า รัฐมนตรีทุกคนสามารถสั่งการในนามนายกฯ ได้ หากพบเหตุการณ์เฉพาะหน้า โดยผบ.ทสส. รับหน้าที่บูรณาการภาพรวม และไม่มีอำนาจทับซ้อนกัน
ส่วนข้อวิจารณ์เรื่อง ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้อยู่พื้นที่ในวันที่ประชุมแก้ปัญหาที่ทำเนียบฯ นายกฯ ชี้ว่าเป็นเพราะสภาพอากาศทำให้เครื่องบินลงไม่ได้ พร้อมระบุว่า ร.อ.ธรรมนัสเป็นหนึ่งในคนแรกที่ลงพื้นที่ พร้อมอธิบดีกรมชลประทาน และยังบัญชาการอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง


