ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งว่า สามารถเริ่มเดินหน้าได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนรายละเอียดขอให้สอบถาม เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง
🔴 เผยย้าย ‘รูปปั้นนรสิงห์’ กลับตึกไทยคู่ฟ้า ครูบาอาจารย์แนะนำ ปัดมูหวังอยู่เกิน 4 เดือน
ส่วนการย้ายรูปปั้นนรสิงห์จำลองกลับมาที่ตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก อนุทิน เปิดเผยว่า เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์แนะนำ เพราะองค์นรสิงห์ประดิษฐานไว้ที่ไทยคู่ฟ้าอยู่แล้ว จึงไปเชิญท่านกลับมาในที่ที่เหมาะสมกับท่าน
ส่วนที่หลายคนมองว่าการทำเช่นนี้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะไม่ใช่แค่ 4 เดือน แต่จะเป็น 4 เดือนบวก 4 ปี อนุทิน ระบุว่า ไม่เกี่ยว อย่าไปคิดมาก เป็นคนละเรื่องกัน อะไรที่ทำแล้วสบายใจและมีความเป็นสิริมงคลกับประเทศ ประชาชน และตัวผมเองทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร
🔴 ยัน MOU 43-44 อยู่ในนโยบายรัฐบาล เผยตั้ง คกก.ศึกษาแล้ว ให้อำนาจกองทัพตัดสินใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มั่นใจเข้าใจการทำงานตรงกัน ใช้การทูตคุย ‘2 พ่อลูกตระกูลฮุน’
นอกจากนี้ อนุทิน ยังให้ความชัดเจนเรื่อง MOU43 และMOU 44 ว่า ทั้งสองอยู่ในนโยบายของรัฐบาล เราทำเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ตอนนี้เราให้ทางสภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อศึกษาแล้ว และในส่วนของนโยบายรัฐบาลจะมีการเสนอให้มีการทำประชามติเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ส่วนข้อสังเกตว่า ตรงนี้แหละที่ทำให้มองกันว่าทำไมรัฐบาลถึงให้ไปทำประชามติ ทั้งที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถตัดสินใจได้ อนุทิน อธิบายว่า ไม่ต้องการให้มีความเห็นต่างใดๆ วันนี้ขอความกรุณาอย่าเพิ่งถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียด
อนุทิน ยังยอมรับว่า สถานการณ์ชายแดนช่วงนี้มีการยั่วยุตลอดเวลา ฝ่ายกองทัพของเรามีความอดทนเป็นอย่างมาก และมีความพร้อมตรึงกำลังไม่ให้มีการล่วงล้ำใดๆ พร้อมย้ำว่าให้กองทัพมีอำนาจตัดสินใจแนวทางการตอบโต้ตามสถานการณ์เอง และเรื่องนี้ได้ย้ำกับ รมว.กลาโหม และรมช.กลาโหม ถึงท่าทีของรัฐบาลแล้ว รวมถึงได้มีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็มั่นใจว่าความเข้าใจในการทำงานและในการปฏิบัติการณ์การตรงกัน ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการตอบโต้ ขอให้กองทัพเป็นผู้อธิบาย
เมื่อถามว่าหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา จะมีการโทรศัพท์พูดคุยกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ด้วยตัวเองหรือไม่ เพื่อคลี่คลายปัญหา อนุทิน ชี้แจงว่า เรื่องของการรักษาดินแดนและอธิปไตย และการรักษาความปลอดภัยของประเทศ และประชาชน เป็นเรื่องที่ทางกองทัพจะมีอำนาจอย่างเต็มที่
“เรื่องเปิดด่านไม่มี จนกว่าความเป็นไทยของประเทศกัมพูชาต่อประเทศไทยจะหมดไป ส่วนการดำเนินการใดๆทางการทูตฯ ผมได้มีนโยบายให้กับทาง รมว.การต่างประเทศ ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการต่างประเทศและการทูตฯอยู่แล้ว ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือการบริหารสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกัน ผมก็จะหารือกับ รมว.การต่างประเทศ โดยเมื่อมีมาตรการใดๆ ก็จะใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจเป็นช่วงๆไป”
— อนุทิน ระบุ
🔴 มั่นใจ ‘บัญชีทรัพย์สิน’ แจง ‘ปปช.’ ตามกฎหมายไม่ขัด รธน.
อีกประเด็นที่ถามถึง คือ การได้มาซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินโรงแรมแรน โช ชาญวีร์ แอนด์คันทรีคลับ และที่ดินสนามบินขนงพระ ในต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อนุทิน เชื่อว่า ทุกอย่างที่ได้ดำเนินการ สามารถชี้แจงเรื่องของบัญชีทรัพย์สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ เพราะทำมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว ยึดถือหลักเดิมที่ทำ และมั่นใจว่าไม่มีส่วนใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือผิดกฎหมาย
ส่วนกรณีสัญญากู้ยืมเงิน 8.5 ล้านบาท ให้กับลูกหนี้ชื่อปราณี ซึ่งในรายละเอียดสัญญาเงินกู้ข้อ 2 ระบุว่า ผู้กู้ยินยอมจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 0.6 ต่อปี ซึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ล่าสุด ไม่ได้แจ้งในส่วนของดอกเบี้ย อนุทิน ตอบว่า “ผมมีคำอธิบายต่อ ป.ป.ช. โอเคนะครับ ขอบคุณมาก”
