เปิดอาณาจักร “สารพัดไทย” ศูนย์รวมสินค้าไลฟ์สไตล์ดีไซน์ไทยสุดโมเดิร์น พบความเป็นไทย บอกเล่าในธีม 'ทุกสารพัดสิ่งที่ค้นหา' ที่ One Bangkok

7 พ.ย. 2567 - 10:43

  • เตรียมพร้อมกับปรากฏการณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ที่สอดแทรกความเป็นไทยสไตล์โมเดิร์น ผ่านไอเทมหลากดีไซน์ เสมือนประตูสู่โลกแห่งการค้นหาที่ “สารพัดไทย” ศูนย์รวมสินค้าสำหรับผู้หลงใหลในไลฟ์สไตล์ที่เฟ้นหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ

hero_1500_x_1000_50d8f0d63d.png

เปิดประตูสู่โลกแห่งการค้นหาที่ “สารพัดไทย” ศูนย์รวมสินค้าสำหรับผู้หลงใหลในไลฟ์สไตล์ที่เฟ้นหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ ผสานการออกแบบร่วมสมัยยิ่งใหญ่อลังการเป็นแห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 2,400 ตรม. ณ ชั้น 3 โซนพาเหรด วัน แบงค็อก One Bangkok เดสติเนชันใหม่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบวิถีสไตล์ไทยในยุคปัจจุบัน และกำลังมองหาสินค้าไทยที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านการออกแบบและตีความออกมาให้เป็นของที่มีอัตลักษณ์ไทยในมุมมองใหม่และใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน  

เครื่องหมายการค้าของ สารพัดไทย คือ “ฯลฯ”  ซึ่งในความหมายในภาษาอังกฤษ หมายถึง etc. Thainess หรือคำไทยคือ สารพัดสิ่งและเรื่องราวเล่าขานไม่มีที่สิ้นสุดที่รอคอยคุณให้มาค้นหาที่สารพัดไทย อีกหนึ่งหัวใจหลัก คือ สินค้าทุกชิ้นต้องเป็นแบรนด์ที่คิดและออกแบบโดย 'คนไทย' ถ่ายทอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทั้งความสวยงามและลึกซึ้งในวัฒนธรรม แสดงถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยในมุมมองใหม่ๆ ที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบใด สารพัดไทยจะช่วยให้ค้นพบตัวตนในแบบฉบับที่ไม่เคยเจอมาก่อน เรียกได้ว่า สารพัดไทย คือ แพลตฟอร์มที่นำสินค้าฝีมือคนไทยมาแสดง เป็นหนึ่งในโชว์เคสที่มาในรูปแบบของร้าน lifestyle shop 

สำหรับ “สารพัดไทย” รวบรวมสิ่งของธรรมดาที่คนไทยคุ้นเคยในรูปแบบแปลกใหม่กว่า 20,000 ไอเทม สินค้าทุกชิ้นคือสื่อกลางสะท้อนถึงความเคารพ ความรัก และความผูกพันทางสังคมและวัฒนธรรม ล้วนได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 

โซน“แต่งเนื้อ แต่งตัว” บอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยผ่านเสื้อผ้า เครื่องหนัง และเครื่องประดับที่ผสมผสานความเป็นไทยร่วมสมัยกับเทรนด์แฟชั่นโลกให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน และสนุกสนานตามสไตล์คนเมือง อย่างแบรนด์ Daroon นำเสนอความเป็นไทยมาผสมผสานกับความโมเดิร์น รังสรรค์ออกมาเป็นเสื้อผ้า และของใช้ไลฟ์สไตล์สุดเก๋ หรือแบรนด์ PALIT แบรนด์เสื้อผ้าจากเชียงใหม่ที่เปิดช็อปแรกในกรุงเทพฯ นำเสนอในคอนเซ็ปต์ less is more ใช้วัสดุจากผ้าฝ้าย ผสานดีไซน์เรียบง่ายเข้าได้กับทุกยุคสมัย ปรากฏเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ได้ทุกวันตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างลงตัว รวมถึงแบรนด์ TISI TISAI เสื้อผ้าที่ออกแบบจากการใช้ผ้าทอท้องถิ่นมาตีความใหม่ให้ดูทันสมัย  หรือแบรนด์แฟชั่นและของที่ระลึกสุดเก๋จากแบรนด์ “The Only Market” นำแรงบันดาลใจมาจากร้านจำหน่ายของที่ระลึกที่อยู่ทุกมุมของกรุงเทพฯ มาตีความใหม่จนเกิดเป็นไอเทมหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า ไปจนถึงของตกแต่งบ้าน และยังมีแบรนด์กระเป๋าเก๋ๆ ฝีมือคนไทยมากมาย อาทิ WINDWEAR, KEAR STORE, KAYA, MUUNSAN, FEEL FREE และ A La Maison by VINN Pattararin

13_2fc69b05d1.jpg

โซน “สุดแสน สร้างสรรค์” จุดบรรจบของความคิดสร้างสรรค์กับความเท่ พร้อมมอบความทรงจำอันสนุกสนานสไตล์ไทย ได้แก่ แบรนด์ “Moreover” นำสีสันและความสนุกของเมืองหลวงมาถ่ายทอดเป็นสินค้าแม็กเน็ตในธีม “กรุงเทพฯ” ทั้งสถานที่เด่น ร้านอาหารดัง และกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวหลงใหล และแบรนด์ 'Ek Ka Nek' บาล์มสมุนไพรอโรมารูปแบบใหม่พกพาสะดวกเหมาะสำหรับเป็นของฝากด้วยภาพวาดแนว Doodle Art แลนด์มาร์กแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทย หรือ “Kanita Leather” แบรนด์เครื่องหนังดีไซน์คุ้นตาที่หยิบยกของไทยใกล้ตัวอย่าง “ขนมไทย” ทั้งขนมเบื้อง ขนมใส่ไส้ ขนมเทียน และข้าวต้มมัด มาดัดแปลงเป็นคอลเลกชันกระเป๋าเครื่องหนัง (Small Leather Goods) รวมถึงแบรนด์ ‘นานาจิตตัง’ ศิลปินไทยยกสินค้าไลฟ์สไตล์สุดเก๋หลากหลายไอเทม พร้อมออกแบบลายเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะร้านสารพัดไทยอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังเป็น Hub ศูนย์รวม Art Toys สัญชาติไทยไว้อย่างล้นหลาม มีดีไซน์ limited edition มากมาย จากตัวละครดัง ไม่ว่าจะเป็น HAYAK ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรามเกียรติ์, MUPA TOY คาแรกเตอร์ขี้โมโหแหกปาก และ NGAEW NGAEW คาแรกเตอร์ที่โดดเด่นด้านเทคนิคทำให้สัตว์ดุร้ายกลายเป็นน่ารักนักสะสมทั้งหลายไม่ควรพลาด

8_b7c3132a73.jpg

โซน “อยู่ดี กินดี” สัมผัสเสน่ห์ของอาหารไทย ผ่านเครื่องเทศ สมุนไพร ชา กาแฟ ตลอดจนขนมขบเคี้ยว ไม่ว่าจะเป็น เจลลีมะม่วงจาก “_สวนปทุมทิพย์_” ทำจากมะม่วงมหาชนกรสชาติหวาน หรือช็อกโกแลตนมรสทุเรียนและรสข้าวซอยจากแบรนด์ _“Siamaya's Milk Chocolate”_ ผู้ผลิตช็อกโกแลตนมจากเมล็ดโกโก้ไทย และนมสดจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงไอเทมเด็ด “บ๊วยคืนชีพ” บ๊วยสัญชาติไทยที่เคี้ยวจนหยุดไม่ได้ และหนึ่งในไฮไลท์ของโซนนี้คือ “_สไปซ์ สตอรี่”_ แบรนด์สินค้าระดับพรีเมียม ภายใต้ “ง่วนสูน ตรามือที่1” ผู้นำด้านพริกไทยและเครื่องเทศ ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน พร้อมส่งมอบประสบการณ์ทุกสัมผัสของการปรุงอาหารชั้นเลิศ

23_4e0f8802e6.jpg

โซน “อยู่เย็น เป็นสุข” เปลี่ยนบ้านของคุณเป็นมุมพักผ่อนอันเงียบสงบด้วยของตกแต่งบ้านสไตล์ไทยที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรม และกลิ่นหอมจากสมุนไพรช่วยผ่อนคลาย เช่น แบรนด์ “Lively Light Ware” โคมไฟที่ตัวโคมเขียนลายจากคราม ออกแบบลวดลายเฉพาะสารพัดไทย คอนเซ็ปต์ “อยู่เย็น เป็นสุข” หรือแบรนด์ “Pinto Mada" ความทรงจำในวัยเด็กกับปิ่นโตโบราณที่ใส่อาหารฝีมือแม่ จนเกิดไอเดียนำปิ่นโตมาเพ้นท์ลวดลายต่างๆ อาทิ ลายต้มยำกุ้ง ลายน้ำพริกปลาทู จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับสารพัดไทยโดยเฉพาะ หรือจะเป็น VASSA เครื่องหอมที่ปรุงจากกลิ่นดอกไม้ไทย และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมจาก Thaniya เครื่องหอมและของตกแต่งบ้านจากเซรามิก เขียนลายด้วยมือจากช่างฝีมือมากประสบการณ์ ตัวเทียนทำมาจากข้าวหอมมะลิ ผสานกลิ่นหอมจากดอกไม้และสมุนไพรไทย มีกลิ่นให้เลือกมากกว่า 20 กลิ่น

26_8e03a46f64.jpg

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ต้องมาเช็กอิน ลั่นชัตเตอร์ และแชร์ภาพสุดว้าว กับ “ตรอกโชคดี” ซอยทางลัดจากโซนสุดแสนสร้างสรรค์ ไปโซน แต่งเนื้อแต่งตัว และโซนอยู่เย็นเป็นสุข ถูกเนรมิตมาในธีม “โชคดี มีสุข” (Lucky Prosperity) เล่าเรื่องราวความเชื่อของคนไทยในเรื่องการแสวงหาความ “โชคดี” มีเทพมาอวยพร การถูกหยิบยกเรื่องราวมาเพื่อเฉลิมฉลองความสุข ต้อนรับผู้คนที่มาเยี่ยมเยียน ผ่านการออกแบบให้เสมือนประตูทะลุมิติที่สนุกสนาน เป็นจุดถ่ายรูปที่แสดงถึงบรรยากาศของความเป็นไทยที่เต็มไปด้วยสีสัน และนำเรื่องความเชื่อต่างๆ ของคนไทยมาตีความให้สนุกสนานสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของร้านสารพัดไทย รวมถึงยังมีโซน “ตลาดนัด สารพัดไทย” พื้นที่ 140 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ด้านหน้าติดกับโซนสุดแสนสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่รวมร้านเก๋ฝีมือดีไซเนอร์คนไทยรุ่นใหม่ในทุกวงการที่อยากนำเสนอผลงานผลิตภัณฑ์ดีๆ เวียนมาออกร้าน ตามธีมต่างๆ ที่จะเปลี่ยนไปทุกๆ ไตรมาส เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับร้านสารพัดไทย

5_d652109065.JPG

นอกจากนี้ยังมี “สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ” ที่ศิลปินผลิตให้เฉพาะสารพัดไทยเพียงเท่านั้น เช่น อาร์ตทอย เรื่องราวของ _“Polygon Ganes_ha” โดยแบรนด์ MUU แนวคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบชาวไทยที่ต้องการนำเสนอความเชื่อในพระพิฆเนศ ในรูปแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย แต่ยังคงไว้ซึ่งความงดงามและมีความหมายที่ลึกซึ้ง ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิต ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการผสานความศักดิ์สิทธิ์เข้ากับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล, สติกเกอร์รูปขนมใส่ไส้ หรือ ยาดมที่มาในแพ็กเกจโขน หรือถุงผ้านางกวัก รวมถึงมี “มุมDIY”  ที่ลูกค้าสามารถรังสรรค์ผลงานได้ หรือเลือกกระดาษห่อของขวัญเองได้อีกด้วย ราคาสินค้าเริ่มต้นประมาณ 500-1500 บาท พร้อมด้วยร้านชา สัญชาติไทย แบรนด์ “Tea ET Tea” และร้านคาเฟ่ กาแฟสัญชาติไทย “มหานคร คาเฟ่” ที่เตรียมเมนูพิเศษไว้ให้บริการมากมาย

37_7dd30e46f6.jpg

ค้นพบความเป็นไทยในแบบของคุณเอง ทุกสารพัดสิ่งที่คุณค้นหา ได้ที่ Sarapad Thai (สารพัดไทย) ณ ชั้น 3 ฝั่ง Parade ตึก One Bangkok และ ติดตามกิจกรรมสนุก จาก Sarapad Thai ได้ที่  Facebook: Sarapad Thai, Instagram: sarapadthai

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์