ส่องสถานการณ์ร้อนชายแดนไทย-กัมพูชา จับตาสัญญาณรบรอบใหม่ เขมรท้าดวลสงครามทหารราบ

18 พ.ย. 2568 - 04:39

  • จับทางกัมพูชาเสริมทัพทหารและอาวุธประชิดชายแดนไทย

  • ขนอาวุธและทหารรบพิเศษ รวมถึงสไนเปอร์ คาดหวังปะทะเปิดศึกสงครามภาคพื้นดิน

  • จับตาฝูงโดรน 2 หมื่นลำที่เตรียมบุกถล่มทหารไทย

ส่องสถานการณ์ร้อนชายแดนไทย-กัมพูชา จับตาสัญญาณรบรอบใหม่ เขมรท้าดวลสงครามทหารราบ

นับจากวันที่ทหารไทยต้องสังเวยขาเป็นรายที่ 7 หลังเหยียบทุ่นระเบิดที่ฝ่ายเขมรลอบเข้ามาวางไว้บนเส้นทางลาดตระเวนล่าสุดสถานการณ์ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ก็ยังคงคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง

แม้ฝ่ายไทยจะพยายามอดทนอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ตกหลุมพรางทางการทูตของฝ่ายกัมพูชา แต่กัมพูชากลับยิ่งเพิ่มดีกรีความยั่วยุมากขึ้น ทั้งการเข้ามาลอบวางระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย ทั้งด้านมวลชนและกลุ่มทหารเขมร ที่ส่งสัญญาณท้าทายทหารไทยมาเป็นระยะๆ 

ภาพการจัดเตรียมกำลังการก่อสร้างบังเกอร์ที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก การสร้างคูเลตในพื้นที่สำคัญๆ โดยเฉพาะบนเนิน 350 อันเป็นเนินสูงข่ม และมีผลต่อการเข้าตีปราสาทตาควายของฝ่ายไทย ล้วนแต่เป็นสัญญาณการพร้อมรับระลอกใหม่ของกัมพูชาทั้งสิ้น 

แต่ที่เป็นสัญญาณชัดที่สุด ที่แสดงให้เห็นว่า กัมพูชาอาจเปิดการโจมตีไทยอีกครั้งเร็วๆ นี้ คือ การเสริมกำลังกว่า 3,000 นายมาประชิดชายแดนไทยด้านปราสาทตาควาย ช่องบก และบางส่วนของปราสาทตาเมือนธม 

The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo04-1.jpg
The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo02.jpg

ฝ่ายกัมพูชา ยังเผยแพร่ภาพปืนใหญ่อัตตาจรจำนวนมาก ที่เพิ่งได้รับการสนับสนุนจากจีน และจรวด BM 21 ที่วันนี้ชัดแล้วว่า กัมพูชาได้จัดหาเพิ่มเติม จนมีรวมทั้งหมด 66 ระบบ  

นอกจากนี้กำลังพลทหารราบของกัมพูชา ยังโชว์ปืนซุ่มยิง Norinco QBU – 10 ที่มีวิถีการยิงถึง 1,500 เมตร ซึ่งพร้อมจะใช้ซุ่มโจมตีกำลังพลฝ่ายไทยจากระยะไกล อันเป็นพลซุ่มยิงที่มีข้อมูลยืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชาได้พัฒนากองพันซุ่มยิง หรือ กองพันสไนเปอร์ ขึ้นมาตั้งแต่หลังปี 2554 ที่ฝ่ายกัมพูชามีพลซุ่มยิงเพียงไม่กี่ราย และเพลี่ยงพล้ำให้กับพลซุ่มยิงของไทยในการรบบนภูมะเขือในปีนั้น

และยังมีรายงานทางการข่าวว่า กัมพูชายังได้เตรียมอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ไว้มากถึง 2 หมื่นลำ ที่มีทั้งโดรนโจมตี โดรนทิ้งระเบิด โดรนสอดแนม และโดรนกามิกาเซ่ ที่พร้อมเข้าโจมตีพร้อมกันเป็นฝูง 

โดรนทั้งหมด ฝ่ายกัมพูชาได้มาทั้งการจัดหาของกองทัพ การสนับสนุนจากกลุ่มสแกมเมอร์คนจีนที่ตั้งฐานอยู่ในกัมพูชา เป็นฝ่ายจัดหาโดรนเข้ามาให้

ว่ากันว่า บางบริษัทที่จัดหาโดรนให้กับกัมพูชา เป็นบริษัทที่จดทะเบียนมีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และยังเข้ามาเสนอจัดหาโดรนให้กับทางการไทยด้วย!

The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo03.jpg
The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo01-1.jpg

ปฏิบัติการโจมตีรอบใหม่นี้ กัมพูชาอาจมีโดรน AI ที่สามารถควบคุมการบินพร้อมกันเป็นฝูง ฝูงละ 5-10 ลำ และบินเข้ามาโจมตีพร้อมกันได้นับเป็นร้อยลำ  

ความพร้อมของกำลังอาวุธรอบนี้ ทำให้เป้าหมายของฝ่ายกัมพูชาในการรบรอบใหม่ คือ ทุ่มสรรพกำลังทหารราบ พร้อมปืน ค.โจมตีระยะใกล้ 

ตามด้วยการระดมยิงด้วยปืนใหญ่อัตตาจร SH -1 ที่ยิงได้ไกลกว่า 50 กิโลเมตร และสามารถติดตั้งบนรถยนต์ 

รวมทั้งใช้จรวดหลายลำกล้อง Type 90B/RM-70/BM-21 ที่มีระยะยิง 20-40 กิโลเมตรโดยใช้จรวดไม่นำวิถีขนาด 122 มม. 40 ท่อยิง ที่กัมพูชามีถึง 66 ระบบ โจมตีแบบเหวี่ยงแหเข้ามาในบริเวณพื้นที่สำคัญของฝ่ายไทย 

ส่วนจรวดหลายลำกล้อง PHL-03 ที่มีระยะยิง 70-130 กิโลเมตร และมีอำนาจทำลายล้างสูง เชื่อว่า กัมพูชายังคงไม่กล้าเปิดฉากใช้อาวุธประเภทนี้ 

กัมพูชายังได้จัดเตรียมกำลังทหารราบฝีมือดี ที่ผ่านการฝึกจากครูฝึกชาวอินโดนีเซีย ทั้งกองพล BHQ และ กองพล 911 หรือกองพลส่งทางอากาศ เพื่อการเข้ารบแบบประชิดตัว เพราะเชื่อว่า จะสามารถลดการโจมตีทางอากาศ และการโจมตีด้วยปืนใหญ่ของฝ่ายไทย  อันเป็นการลดความได้เปรียบของฝ่ายไทยลงได้ 

กำลังทหารราบกว่า 3 พันนาย ถูกส่งเข้ามาประชิดชายแดนไทย ตั้งแต่วันที่ฝ่ายไทยประกาศชะลอการปฏิบัติตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ เมื่อคืนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พร้อมกับอาวุธหนักที่อยู่ในระหว่างการถอนกำลัง ก็ถูกหักทิศทางกลับมาประจำการพร้อมรบ 

The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo05.jpg
The-situation-on-the-Thai-Cambodian-border-SPACEBAR-Photo06.jpg

รายงานการข่าวฝ่ายไทยประเมินว่า หากมีการรบรอบใหม่เกิดขึ้น กัมพูชาจะไม่เปิดแนวรบตลอดแนว เหมือนการรบระหว่างวันที่ 24 - 28 กรกฎาคม 2568 เพราะการรบครั้งก่อน ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียกำลังพลไปเป็นจำนวนมาก 

แต่การรบรอบนี้ กัมพูชาจะเน้นการเข้าโจมตีพื้นที่ยุทธศาสตร์ในเชิงสัญลักษณ์ เช่น ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทคนา ภูผี และการยึดคืนพื้นที่ช่องบก ซึ่งถูกทหารไทยรุกคืบเข้าไปยึดในสมรภูมิ 5 วัน 

ส่วนภูมะเขือ ก็เป็นอีกพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการ เนื่องเพราะมีผลต่อการควบคุมพื้นที่ปราสาทพระวิหาร  

ขณะที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 ก็คาดว่า กัมพูชาจะเสริมกำลังจำนวนมาก เพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของฝ่ายไทย เพราะกัมพูชารู้ดีว่า ไทยต้องเตรียมทุ่มสรรพกำลังเข้าตี เพื่อยึดปราสาทตาควายคืนแน่นอน 

สมรภูมิที่น่าจะดุเดือดรอบนี้ จึงหนีไม่พ้น พื้นที่ปราสาทตาควาย ช่องบก ภูผี ภูมะเขือ และปราสาทตาเมือนธม 

แต่แม้ความเคลื่อนไหวของกัมพูชาในแต่ละพื้นที่จะคึกคักแค่ไหน และทำทีส่งสัญญาณว่าจะเข้าโจมตีในพื้นที่นั้น แต่การข่าวของฝ่ายไทยก็ยังไม่ปักใจว่า กัมพูชาจะเป้าหมายเพียงแค่นั้น เนื่องเพราะมีบทเรียนจากการรบครั้งที่ผ่านมา ที่กัมพูชาใช้ปฏิบัติการที่มีเป้าหมายต่อพลเรือน เพื่อสร้างความพะวักพะวงให้กับฝ่ายไทย ก่อนจะตลบหลังส่งกำลังจำนวนมากเข้ายึดปราสาทตาควายในช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 

แม้กระทั่งในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ก่อนการหยุดยิง กัมพูชายังใช้กลยุทธ์การโจมตีหลายจุด เพื่อตรึงกำลังฝ่ายไทยไม่ให้ขยับออกจากพื้นที่ปะทะ ก่อนจะเคลื่อนย้ายกำลังโถมเข้าโจมตีพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายอย่างหนัก 

คืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 การรบที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นการรบประชิดตัวและการเข้าโจมตีที่หนักหน่วงที่สุด เพราะกัมพูชาต้องการเข้ามายึดครองปราสาทตาเมือนธม อันเป็นปราสาทเชิงสัญลักษณ์ให้ได้ แต่ถูกฝ่ายไทยต้านไว้อย่างเหนียวแน่น และสร้างความสูญเสียให้กับฝ่ายกัมพูชาอย่างหนัก    

บทเรียนและประสบการณ์จากการรบครั้งที่ผ่านมา จึงล้วนเป็นข้อมูลสำคัญ ที่ฝ่ายไทยต้องเตรียมรับมือให้พร้อมกว่าครั้งก่อน โดยเฉพาะจะต้องเป็นการรบ ที่รู้เขาและรู้เรามากขึ้น เพราะที่ผ่านมา เราเกือบเพลี่ยงพล้ำให้กับกัมพูชาหลายจุด ก็เพราะรบกันแบบไม่รู้เขาและไม่รู้เรา 

ไม่รู้เขาว่า เขาเตรียมพร้อมอะไรมาบ้าง ไม่รู้เราว่า แท้ที่จริง เราพร้อมรบขนาดไหน 

ลองหลับตาคิดย้อนหลังว่า ถ้าหากวันที่ 24 กรกฏาคม 2568 เราไม่ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ เข้าโจมตีฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายกัมพูชา และยังคงเปิดปฏิบัติการทางอากาศต่อเนื่อง จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม

สมรภูมิ 5 วันไทย - กัมพูชา จะมีโฉมหน้าออกมาแบบเวลานี้หรือไม่…?

EP.หน้ามาว่ากันว่า เราจะเตรียมการรับมือกัมพูชาอย่างไร…หากมีศึกรอบใหม่เกิดขึ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์